ออสซี่ขอยืมวัคซีนจากอังกฤษ-สิงคโปร์มาใช้ก่อน  หนุนแผนเปิดประเทศตามกำหนด

04 ก.ย. 2564 | 01:16 น.
อัปเดตล่าสุด :04 ก.ย. 2564 | 08:36 น.

เมื่อโครงการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้ประชาชนเกิดความล่าช้า และวัคซีนที่มีก็ไม่เพียงพอ ขณะที่กำหนด “เปิดประเทศ” ที่วางไว้ก็ใกล้เข้ามา ทางออกที่รัฐบาลออสเตรเลียเลือกใช้เพื่อรับมือกับโควิดก่อนถึงกำหนดเปิดประเทศ ก็คือการ “ยืมวัคซีน” จากประเทศอื่นมาใช้ไปก่อน

นายสกอตต์ มอร์ริสัน นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย ประกาศชัดเมื่อวานนี้ (3 ก.ย.) ว่า ออสเตรเลีย จะได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของบริษัทไฟเซอร์ อีก 4 ล้านโดส ภายใต้ “สัญญาแลกเปลี่ยนวัคซีน” ที่ทำไว้กับประเทศอังกฤษ ขณะที่นายมอร์ริสันพยายามผลักดันให้รัฐและดินแดนต่างๆ ของออสเตรเลียเดินหน้าตามแผนกลับมาเปิดประเทศอีกครั้ง

 

"ตอนนี้เครื่องบินเตรียมพร้อมแล้ว และจะออกเดินทางในวันพรุ่งนี้ ซึ่งจะช่วยให้เราเดินหน้าตามแผนการ กลับมาเปิดพรมแดนออสเตรเลียได้เร็วขึ้นมาก" นายมอร์ริสันให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวในกรุงแคนเบอร์ราเมื่อวันศุกร์ (3 ก.ย.)

นายสกอตต์ มอร์ริสัน นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย

 ก่อนหน้านี้ไม่นาน ออสเตรเลียได้บรรลุข้อตกลงแลกเปลี่ยนวัคซีนของบริษัทไฟเซอร์จำนวน 500,000 โดสกับประเทศสิงคโปร์ด้วยเช่นกัน ซึ่งก็หมายถึงการยืมวัคซีนไฟเซอร์จากสิงคโปร์มาใช้ก่อน ส่วนที่ออสเตรเลียจองซื้อไว้ ได้มาเมื่อไหร่ค่อยใช้คืน

นายมอร์ริสันกล่าวว่า วัคซีนจากอังกฤษจะมาถึงออสเตรเลียในเดือนก.ย.นี้ ซึ่งจะทำให้ปริมาณวัคซีนของไฟเซอร์ในเดือนก.ย.มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น และจะช่วยให้ออสเตรเลียสามารถออกจากมาตรการล็อกดาวน์ที่ส่งผลกระทบอย่างมากต่อเศรษฐกิจของประเทศ ได้เร็วขึ้น

 

ทั้งนี้ การทำข้อตกลงแลกเปลี่ยน หรือ “ขอยืม” วัคซีนดังกล่าวมีขึ้นก่อนการประชุมเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลกลางและรัฐบาลท้องถิ่นเมื่อวานนี้ โดยรัฐควีนส์แลนด์และรัฐออสเตรเลียตะวันตก ซึ่งไม่พบการระบาดของไวรัสโควิด-19 ระบุว่า แผนการเปิดประเทศของออสเตรเลียอาจล่าช้าออกไป เนื่องจากขณะนี้ยังพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นในสองเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศ คือ ซิดนีย์และเมลเบิร์น ขณะที่นายมอร์ริสัน ในฐานะนายกรัฐมนตรี ต้องการยุติมาตรการล็อกดาวน์ให้เร็วที่สุด และฟื้นฟูเศรษฐกิจให้ได้ก่อนการเลือกตั้งทั่วประเทศจะมีขึ้นในปีหน้า (2565)