พิษสงเดลต้า หั่นคาดการณ์เศรษฐกิจสหรัฐฯ Q3 เหลือ 5.5%

20 ส.ค. 2564 | 07:42 น.
อัปเดตล่าสุด :20 ส.ค. 2564 | 14:52 น.

"โกลด์แมน แซคส์" หั่นคาดการณ์จีดีพีสหรัฐในช่วงไตรมาส 3 จากเดิม 9% เหลือเพียง 5.5% เมื่อพิจารณาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดเดลต้า

วาณิชธนกิจ โกลด์แมน แซคส์ ประกาศปรับลด ตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 3 ของ สหรัฐอเมริกา เหลือเพียง 5.5% จากเดิมคาดการณ์ที่ระดับ 9% และคาดว่าอัตราเงินเฟ้อในสหรัฐจะพุ่งขึ้นสูงกว่าคาดในช่วงที่เหลือของปีนี้

 

รายงานคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐของโกลด์แมน แซคส์ ระบุว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้าได้ส่งผลกระทบมากกว่าคาด ต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ เนื่องจากกระทบต่อการใช้จ่ายของผู้บริโภคและภาคการผลิต

 

"การใช้จ่ายสำหรับการรับประทานอาหาร การเดินทาง และบริการอื่น ๆ มีแนวโน้มปรับตัวลงในเดือนส.ค. แม้เราคาดว่าการปรับตัวลงดังกล่าวจะเกิดขึ้นเพียงชั่วคราวและไม่รุนแรง" รายงานระบุ อย่างไรก็ดี โกลด์แมน แซคส์ คาดว่า ภาวะชะงักงันในห่วงโซ่อุปทานจะดำเนินไปนานกว่าที่คาดไว้

 

สำหรับคาดการณ์ GDP ในไตรมาสที่ 4 นั้น โกลด์แมน แซคส์ได้ปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์สู่ระดับ 6.5% จากเดิมที่ระดับ 5.5% โดยให้เหตุผลว่า ความวิตกเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะบรรเทาลง ขณะที่ภาคบริการยังคงฟื้นตัวขึ้น นอกจากนี้ ยังได้ปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์ GDP ประจำไตรมาส 1-3 ในปี 2565 ขึ้นด้วย

พิษสงเดลต้า หั่นคาดการณ์เศรษฐกิจสหรัฐฯ Q3 เหลือ 5.5%

ขณะที่วันเดียวกันนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐได้เปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกที่ลดลงสู่ระดับ 348,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นการปรับตัวลงเป็นสัปดาห์ที่ 4 ติดต่อกัน และเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 17 เดือน นับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐเมื่อเดือนมี.ค.2563 จากระดับ 377,000 รายในสัปดาห์ก่อนหน้านี้ ซึ่งนับเป็นแนวโน้มที่ดี

 

นอกจากนี้ ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานดังกล่าว ยังต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 363,000 ราย อย่างไรก็ดี ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกยังคงสูงกว่าระดับ 230,000 ราย ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยต่อสัปดาห์ในช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ

 

กระทรวงแรงงานสหรัฐยังเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยังคงขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่องได้ลดลงสู่ระดับ 2.82 ล้านราย และเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2563 เช่นกัน