รับมือโควิดอย่าง “อู่ฮั่น” แค่ 5 วัน ไล่ตรวจเชื้อครบทั้งเมือง 11.2 ล้านคน

09 ส.ค. 2564 | 10:23 น.
อัปเดตล่าสุด :09 ส.ค. 2564 | 17:37 น.

เมืองอู่ฮั่นตรวจโควิด-19 ครบทั้งเมืองแล้ว โดยใช้เวลาเพียง 5 วัน ในการตั้งจุดตรวจเชื้อโควิด 2,800 จุดและระดมบุคลากรการแพทย์กว่า 28,000 คน มาตรวจหาเชื้อโควิด-19 ให้แก่ประชาชนวัยผู้ใหญ่ทั้งเมืองราว 11.28 ล้านคน หลังเกิดการแพร่ระบาดครั้งใหม่ที่

นายหลี่ เต๋า รองเลขาธิการ เทศบาลเมืองอู่ฮั่น ซึ่งตั้งอยู่ในมณฑลหูเป่ย ทางภาคกลางของประเทศจีน แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเมื่อวันอาทิตย์ (8 ส.ค.) ว่า เมืองอู่ฮั่นตรวจหาเชื้อโควิด-19 ให้กับประชาชนครบทั้งเมืองแล้ว โดยใช้เวลาเพียง 5 วัน หลังจากที่ได้เริ่มปูพรมตรวจโควิดเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (3 ส.ค.) เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดรอบใหม่ของโรคโควิด-19

 

นายหลี่เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เมืองอู่ฮั่นได้ตรวจหาเชื้อโควิด-19 โดยใช้วิธีการทดสอบกรดนิวคลีอิกให้ประชาชนกว่า 11.28 ล้านคน ซึ่งครอบคลุมประชากรเกือบทั้งหมดของเมืองอู่ฮั่น ยกเว้นเด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี และนักศึกษามหาวิทยาลัยที่ไม่ได้อยู่ในเมืองเนื่องจากกำลังอยู่ในช่วงปิดเทอมภาคฤดูร้อน

รับมือโควิดอย่าง “อู่ฮั่น” แค่ 5 วัน ไล่ตรวจเชื้อครบทั้งเมือง 11.2 ล้านคน

สำนักข่าวซินหัว สื่อใหญ่ของจีนรายงานว่า การปูพรมตรวจหาเชื้อโควิด-19 มีขึ้น หลังเมื่อวันจันทร์ที่แล้ว (2 ส.ค.) เมืองอู่ฮั่นพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศ 7 รายในกลุ่มแรงงานต่างชาติ หลังจากสามารถหยุดยั้งการระบาดรอบแรกได้เป็นผลสำเร็จด้วยการใช้มาตรการล็อกดาวน์เมื่อต้นปีที่ผ่านมา และไม่พบผู้ติดเชื้อในประเทศมานานกว่าหนึ่งปี

 

นายเฉิน เสี่ยวผิง นักวิชาการจากสถาบันบัณฑิตวิทยาศาสตร์จีน เปิดเผยว่า ผลลัพธ์จากการปูพรมตรวจโควิดทั่วเมืองอู่ฮั่นแสดงให้เห็นว่า การแพร่ระบาดรอบล่าสุดในเมืองอู่ฮั่นไม่ได้ก่อให้เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสดังกล่าวในวงกว้าง โดยการปูพรมตรวจโควิดทั่วเมืองอู่ฮั่นช่วยควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในระยะเวลาที่น้อยที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ เพื่อรับรองความปลอดภัยของชาวอู่ฮั่น

 

ทั้งนี้ เมืองอู่ฮั่นได้จัดตั้งจุดตรวจโควิดกว่า 2,800 จุด และได้มอบหมายหน้าที่ให้บุคลากรทางการแพทย์กว่า 28,000 คนเป็นผู้ดำเนินการตรวจหาโรครอบนี้

 

สื่อต่างประเทศรายงานว่า จีนกำลังเผชิญกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดสายพันธุ์เดลต้าที่ลามระบาดแล้วเกือบครึ่งประเทศ โดยมีการพบผู้ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์นี้จำนวนกว่า 500 รายในอย่างน้อย 17 มณฑลของจีน ทำให้รัฐบาลต้องกำชับรัฐบาลท้องถิ่นให้เร่งตรวจหาเชื้อเชิงรุก ขณะเดียวกันได้หันกลับมาใช้มาตรการควบคุมการเดินทางอีกครั้งเพื่อควบคุมและจำกัดพื้นที่การแพร่ระบาด โดยเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 5 ส.ค.ที่ผ่านมา รัฐบาลจีนได้สั่งจำกัดการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะและรถแท็กซี่ใน 144 เมืองที่มีการแพร่ระบาดอย่างหนัก นอกจากนี้ ยังสั่งควบคุมการใช้รถไฟและรถไฟใต้ดินในกรุงปักกิ่ง หลังจากพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 3 รายเมื่อวันพุธ (4 ส.ค.)

จีนหันมาใช้มาตรการควบคุมการเดินทางอีกครั้ง

 

แซม ฟาเซลี นักวิเคราะห์จากบลูมเบิร์ก อินเทลลิเจนซ์ กล่าวว่า ปัญหาก็คือ วัคซีนของจีนอาจมีประสิทธิภาพน้อยลงในการป้องกันไวรัสกลายพันธุ์สายพันธุ์เดลต้า ซึ่งหมายความว่า การจะควบคุมไวรัสสายพันธุ์นี้ก็ต้องใช้มาตรการล็อกดาวน์เพิ่มขึ้น ซึ่งก็จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจจีนเป็นวงกว้างมากขึ้นด้วย