"ก้าวไกล"ยื่นแล้วแก้รัฐธรรมนูญ ม.272 ปิดสวิตซ์ ส.ว.โหวตนายกฯ

14 ก.ค. 2566 | 18:08 น.
อัปเดตล่าสุด :14 ก.ค. 2566 | 18:12 น.

พรรคก้าวไกล ยื่นแก้รัฐธรรมนูญ ยกเลิก ม.272 ปิดสวิตซ์ ส.ว.โหวตนายกฯ อ้างช่วยหาทางออกได้นายกฯ ยันไม่ถอยแก้ ม.112 ซัดเป็นเพียงข้ออ้างบังหน้า

บ่ายวันนี้(14 ก.ค. 66) พรรคก้าวไกล นำโดย นายชัยธวัช ตุลาธน ส.ส.บัญชีรายชื่อ เลขาธิการพรรคก้าวไกล นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรค นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และส.ส.ของพรรค เข้าชื่อกันยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ(เพิ่มเติม) มาตรา 272 ยกเลิกอำนาจสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ในการเลือกนายกรัฐมนตรี ต่อนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา และประธานสภาผู้แทนราษฎร 

นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า หลังจากนี้จะให้เจ้าหน้าที่รัฐสภาตรวจสอบความถูกต้องครบถ้วนของรายชื่อและเอกสารดังกล่าว สิ่งที่แก้ไขจะต้องไม่ขัดกับรัฐธรรมนูญ โดยจะดำเนินการให้เร็วที่สุด 

ส่วนการนัดประชุมร่วมกันของรัฐสภา เพื่อโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีเป็นครั้งที่ 2 ได้กำหนดไว้ในวันที่ 19 ก.ค.นี้ เวลา 09.30 น. โดยวันนี้ตนได้ออกหนังสือเชิญสมาชิกรัฐสภามาประชุมแล้ว

ด้านนายชัยธวัช กล่าวว่า ส.ส.พรรคก้าวไกล ในฐานะสมาชิกรัฐสภาได้เข้าชื่อกันตามรัฐธรรมนูญเพื่อยื่นร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ มีสาระสำคัญเสนอให้ยกเลิกมาตรา 272 ในบทเฉพาะกาลให้อำนาจวุฒิสภามีส่วนร่วมในการเลือกนายกรัฐมนตรีในการชั่วคราว ซึ่งเป็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อคืนอำนาจการเลือกนายกฯให้กับประชาชน 

ก่อนหน้านี้ เรียกกันว่าปิดสวิตช์ ส.ว.  เพราะจากการประชุมโหวตนายกฯ เมื่อ วันที่ 13 กรกฏาคมที่พบว่า มีส.ว.จำนวนมากงดออกเสียง 159 และไม่มาประชุมอีก 43 โดยหลายคนแสดงออกอย่างชัดเจนว่า ไม่ประสงค์ที่จะใช้สิทธิ์ในการเลือกนายกรัฐมนตรี ด้วยเป็นเรื่องของ ส.ส.

"เมื่อส.ว.จำนวนมากประสงค์เช่นนั้น โดยใช้สิทธิ์งดออกเสียง และไม่มาประชุม ซึ่งจะนำไปสู่ทางตันทางการเมือง พรรคก้าวไกลก็จะเสนอทางออกให้กับ ส.ว. ที่ไม่ประสงค์จะใช้อำนาจนี้ด้วยความกระอักกระอ่วนใจ เชื่อว่าจะเป็นทางออกที่ตอบโจทย์ของสมาชิกและระบบรัฐสภาของไทยเพื่อให้การเมืองไทยเดินหน้าต่อไปได้และมีรัฐบาลชุดใหม่โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้" นายชัยธวัช กล่าว

นายชัยธวัช กล่าวด้วยว่า การยื่นแก้รัฐธรรมนูญ ยกเลิก มาตรา 272 เป็นคนละส่วนกับการโหวตเลือกนายกฯ แต่ดำเนินการให้คู่ขนานกันไปได้ ซึ่งทางพรรคก้าวไกล และอีก 7 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล ก็ต้องพยายามขอเสียง ส.ว.ให้เพิ่มมากขึ้นในการโหวตนายกฯ ครั้งที่ 2

เมื่อถามว่าการยื่นเสนอร่างฯ ยกเลิกมาตรา 272 ครั้งนี้ ได้ปรึกษาพรรคร่วมฯอีก 7 พรรคหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า แจ้งให้เลขาธิการพรรคเพื่อไทยทราบแล้ว และไม่ขัดข้อง ทั้งนี้การยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญรอบนี้ต้องให้กระบวนการสั้นที่สุด จึงไม่สามมารถรอ ส.ส.จากพรรคร่วมอื่น ซึ่งไม่ใช่ว่าพรรคร่วมรัฐบาลอื่นจะไม่เห็นด้วย

เมื่อถามว่ามั่นใจเสียงส.ส.จากพรรคอื่นนอกจาก 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า คาดหวังว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร การยื่นแก้มาตรา 272 ไม่ใช่เรื่องใหม่ เคยพิจารณาแล้ว พรรคภูมิใจไทย และพรรคประชาธิปัตย์ ก็เคยออกเสียงให้มีการแก้ไขยกเลิกมาตรา272 ครั้งนี้จึงไม่น่าจะมีปัญหา

เมื่อถามว่าหลายคนมองว่าเป็นการแก้เกมของพรรคก้าวไกล นายชัยธวัช กล่าวว่า เป็นความพยายามหาทางออกตามความประสงค์ของส.ว.หลายท่าน มี ส.ว.ที่ต้องการปิดสวิตซ์ตนเองด้วยการงดออกเสียง และไม่มาประชุม ซึ่งจำนวนน่าจะมากพอเกิน 1 ใน 3 ที่จะต้องลงเสียงแก้ไขยกเลิกมาตรา 272  

เมื่อถามว่ามีส.ว.บางส่วนเริ่มออกมาแสดงความเห็นว่าไม่สามารถเสนอชื่อนายพิธา เพื่อโหวตเลือกนายกฯ ซ้ำได้ เนื่องจากขัดรัฐธรรมนูญ และข้อบังคับการประชุม นายชัยธวัช กล่าวว่า ถือเป็นการตีความที่ผิด เพราะการโหวตเลือกนายกฯ แยกไว้เป็นบทเฉพาะกาล ไม่ได้ตีความรวมเหมือนญัตติทั่วไป ไม่สามารถตีความข้อบังคับเช่นนั้นได้ 

เมื่อถามว่าถึงการเสนอรายชื่อบุคคลเพื่อเป็นนายกฯ ในการประชุมครั้งหน้า นายชัยธวัชกล่าวว่า เบื้องต้นอยู่ระหว่างการพูดคุยกับพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลว่าจะเสนอนายพิธา หรือไม่ ทั้งนี้ที่แกนนำพรรคในแต่ละจังหวัดได้เสนอให้พรรคก้าวไกล ยอมถอยเรื่อง ม.112  พรรคก้าวไกลจะมีกระบวนการในการหารือต่อไป

“เรื่องนี้เป็นเพียงข้ออ้างบังหน้า ส่วนตัวเห็นข้อความที่ส่งผ่านห้องไลน์ของ ส.ว. ระบุว่าให้ระวังว่า นายพิธา จะประกาศในรัฐสภา ไม่แก้ ม.112 ขออย่าให้เชื่อ เพราะพวกเขามีวัตถุประสงค์อื่น เพราะเมื่อวานมี ส.ว.บางท่านประกาศชัดเจนว่า ต่อให้นายพิธา จะประกาศแก้ ม.112 ก็ไม่เชื่อ เพราะเหตุผลที่แท้จริง มีกลุ่มขั้วอำนาจเดิม ต้องการพลิกขั้วการจัดตั้งรัฐบาล ร่วมกับกลุ่มทุนที่ไม่ต้องการเสียผลประโยชน์ จากนโยบายของพรรคก้าวไกล” นายชัยธวัช กล่าว 

ส่วนกระแสข่าวการเสนอชื่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เชื่อว่ามีหลายพรรคที่ยืนยันว่าไม่เห็นด้วยกับการตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย จึงหวังให้พรรคอื่นรักษาคำพูด ยืนยันบนหลักการเดิมว่าจะไม่จัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย