เพื่อไทย เตือน ก้าวไกล ปิดสวิตช์ ส.ว. ยาก ไม่ประมาทขั้วเดิมส่งชื่อ “ประวิตร”

14 ก.ค. 2566 | 13:53 น.
อัปเดตล่าสุด :14 ก.ค. 2566 | 13:57 น.

เพื่อไทย เตือน ก้าวไกล ปิดสวิตช์ ส.ว. แก้ 272 ยาก ถกหาข้อสรุปโหวตนายกฯ รอบใหม่วันนี้ ยอมรับไม่ประมาท ฝั่งขั้วเดิมอาจส่งชื่อ “ประวิตร” เป็นนายกรัฐมนตรี

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย เปิดเผยถึงกรณีพรรคก้าวไกล จะเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 เพื่อปิดสวิตช์ ส.ว. ว่า ที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทย เคยขอแก้ไขเรื่องนี้มาแล้ว 2 ครั้ง แต่ไม่ผ่านการพิจารณาของรัฐสภาแม้แต่ครั้งเดียว และเชื่อว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญหลังจากนี้จะยากขึ้นกว่าเดิมด้วย แต่หากสามารถปิดสวิชต์ ส.ว.ได้จริงก็ถือเป็นเรื่องที่ดี เพื่อให้การเลือกนายกรัฐมนตรี ดำเนินการไปเฉพาะสภาผู้แทนราษฎรเท่านั้น

อย่างไรก็ดีในช่วงเย็นวันนี้ (14 กรกฎาคม 2566) พรรคก้าวไกล ได้นัดหมายพรรคเพื่อไทย เพื่อเตรียมการเลือกนายกรัฐมนตรี ในสัปดาห์หน้า วันที่ 19 กรกฎาคม นี้ โดยไม่ขอเปิดเผยสถานที่ เพื่อให้เป็นการพูดคุยระหว่างพรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทย 

“ก่อนจะประชุมในช่วงเย็นนี้พรรคเพื่อไทย จะมีการหารือกันเป็นการภายในก่อน แล้วจากนั้นจะนำข้อเสนอของพรรคเพื่อไทยไปหารือกับก้าวไกลอีกครั้ง ทั้งเรื่องการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรี ครั้งที่ 2 ว่าจะยังคงเป็นชื่อของนายพิธา หรือไม่ หรือจะมีแผนการอื่น และถ้าการลงมติในการเลือกนายกฯ ครั้งที่ 2 เป็นไปเหมือนการลงมติครั้งแรก โดยไม่มีข้อมูลใหม่ ก็มั่นใจว่า การลงมติคงใกล้เคียงกับผลการลงมติเมื่อ 13 กรกฎาคม ที่ผ่านมา”

นายประเสริฐ กล่าวว่า หากมีการโหวตเลือกนายกฯ ในครั้งที่ 2 มั่นใจว่า ส.ว. ทั้ง 13 คน ที่ลงมติให้กับนายพิธา จะยังคงสนับสนุนนายพิธาต่อ เพราะ ส.ว.ทั้ง 13 คนน่าจะมีเจตนา ตั้งใจ มองการเมืองอีกมุมหนึ่งตั้งแต่ต้นแล้ว

ส่วนความไม่ชัดเจนของข้อบังคับการประชุมรัฐสภา จะสามารถเสนอชื่อนายพิธา ให้ที่ประชุมรัฐสภา พิจารณา เป็นนายกรัฐมนตรีได้อีกครั้งหรือไม่นั้น ยอมรับว่า เรื่องนี้เป็นอำนาจของประธานรัฐสภาในการวินิจฉัย หากการเสนอญัตตินั้นมีเหตุการณ์ที่เปลี่ยนไป และเชื่อว่า อำนาจประธานรัฐสภา สามารถชี้ขาดได้ ไม่เป็นอุปสรรค โดยขอให้เป็นไปดุลยพินิจของประธานรัฐสภา

นายประเสริฐ ยังมองถึงกรณีที่พรรคร่วมรัฐบาลเดิม อาจเสนอชื่อพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เป็นนายกรัฐมนตรีว่า ไม่สามารถประมาทได้ เพราะขณะนี้ มีความเคลื่อนไหวในการรวบรวมเสียงอยู่ ขณะที่ทาง 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลจะต้องพูดคุยกัน และประเมินสถานการณ์ร่วมกัน 
 

ส่วนหากพรรคก้าวไกล ตัดสินใจไปเป็นฝ่ายค้าน พรรคเพื่อไทยจะดำเนินการอย่างไรต่อไปเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ยืนยันว่า พรรคเพื่อไทย ยังไม่มีแผนสำรอง แต่ทุกความเห็นที่เกิดขึ้น ก็ต้องนำไปหารือกับพรรคก้าวไกล และกับ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลด้วย