ทำความรู้จัก "พรรคเป็นธรรม" "พรรคพลังสังคมใหม่"โหวตนายกพิธา

18 พ.ค. 2566 | 18:46 น.
อัปเดตล่าสุด :18 พ.ค. 2566 | 21:14 น.

ทำความรู้จัก 2 พรรคการเมือง เติมเสียงรัฐบาลก้าวไกลเป็น 313 เสียง "พรรคเป็นธรรม" และ "พรรคพลังสังคมใหม่" พร้อมร่วมโหวตพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกฯ แม้พรรคเล็กแต้โปรไฟล์ไม่ธรรมดา

หลังจากการแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาล นำโดยนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล(ก.ก.) และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2566 เป็นการประกาศถึงความร่วมมือในการจัดตั้งรัฐบาล 313 เสียง จาก 8 พรรคการเมือง

ในวันแถลงข่าว ได้ปรากฎชื่อ อีก 2 พรรคการเมือง ที่ได้รับเลือกตั้ง มีจำนวน ส.ส.พรรคละ 1 คน ได้แก่ พรรคเป็นธรรม และพรรคพลังสังคมใหม่ ฐานเศรษฐกิจ จึงนำทั้ง 2 พรรคนี้มาทำความรู้จักให้มากขึ้น

แถลงจัดตั้งรัฐบาล พรรคก้าวไกล

ทำความรู้จัก "พรรคเป็นธรรม"

“พรรคเป็นธรรม” เป็นพรรคการเมืองใหม่ ก่อตั้งโดย ดร.ปิติพงศ์ เต็มเจริญ ซึ่งเป็นอดีต ส.ส. 3สมัย เป็นอดีตโฆษกพรรคเสรีรวมไทย ก่อนจะลาออกมาตั้งพรรคของตัวเอง และนั่งเป็นหัวหน้าพรรค มีนายกัณวีร์ สืบแสง เป็นรองหัวหน้าพรรคและประธานยุทธศาสตร์พรรค, นายสรยุทธ เพ็ชรตระกูล เลขาธิการพรรค และ ดร.ชุมพล ครุฑแก้ว เป็นที่ปรึกษาพรรค

ซึ่งในการตั้งพรรคครั้งนี้ ดร.ปิติพงศ์ ยังมีเพื่อนสนิท “พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร” หรือ "เสธ.แมว" อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) มาเป็นที่ปรึกษาส่วนตัว อีกด้วย

มีจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ของพรรค มีนโยบายสร้างสันติภาพในปาตานี, ยกเลิกกฎหมายพิเศษทุกฉบับที่ใช้ในปาตานี, แก้ไขกฎหมายความมั่นคง, ถอนทหารออกจากพื้นที่ปาตานี รวมถึง ยุบ ศอ.บต.และกอ.รมน.

แนวนโยบายพรรคเป็นธรรม

“เปลี่ยน สร้าง สู้” ผลักดันสันติภาพกินได้ และมนุษยธรรมนำการเมือง เรียกร้อง“4 เปลี่ยน” ผ่าน “3 สร้าง” และกำหนดแนวทาง “4 สู้” คือ

4 เปลี่ยน

  1. เปลี่ยนความมั่นคงทางทหารให้เป็นความมั่นคงของมนุษย์
  2. เปลี่ยนให้ชุมชนกำหนดอนาคตการพัฒนาแทนทุนใหญ่
  3. เปลี่ยนชายแดนเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจและวัฒนธรรม
  4. เปลี่ยนเสียงประชาชนเป็นนโยบาย นำไปสู่การร่างกฎหมายที่ประชาชนมีส่วนร่วม

3 สร้าง

  1. สร้างเศรษฐกิจฐานรากจากนโยบายที่เรียกว่า “การทำงาน ณ ถิ่นกำเนิด”
  2. สร้างสันติภาพผ่าน Smart Power
  3. สร้างสันติภาพที่กินได้ ผ่านความเข้าใจ ยอมรับและเคารพในความแตกต่างทางชาติพันธุ์ ศาสนาและความเชื่อ

4 สู้

  1. สู้เพื่อปกป้องสิทธิและเสรีภาพแห่งประชาชนอันเป็นสิทธิโดยกำเนิด
  2. สู้กับการใช้กฎหมายที่ไม่เป็นธรรม
  3. สู้เพื่อรักษาอัตลักษณ์และชาติพันธุ์
  4. สู้เพื่อให้ประชาชนเป็นศูนย์กลางของชาติ

ผลการเลือกตั้ง 2566 “พรรคเป็นธรรม”

เลือกตั้ง 2566 พรรคเป็นธรรมได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 1 ที่นั่ง จากการส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งรวม 20 คน แบ่งเป็น ส.ส.แบบแบ่งเขต 11 คน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ 9 คน“นายกัณวีร์ สืบแสง” รองหัวหน้าพรรค และประธานยุทธศาสตร์พรรค ในฐานะ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 1 เป็นส.ส. หนึ่งเดียวของพรรค ที่จะได้เข้าไปทำหน้าที่ในสภา 

นายกัณวีร์ สืบแสง โดยนายกัณวีร์ เคยเป็นหัวหน้าฝ่ายเตรียมพร้อม สำนักความมั่นคงกิจการชายแดนและการป้องกันประเทศ (จังหวัดชายแดนภาคใต้ การบริหารวิกฤตการณ์ ยุทธศาสตร์ความมั่นคงชายแดน) สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) และเคยเป็นหัวหน้าสำนักงานภาคสนามใน 8 ประเทศ อาทิ ประเทศไทย (แม่ฮ่องสอน) เมียนมา บังคลาเทศ ซูดาน ฟิลิปปินส์ ฯลฯ สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR)

ทำความรู้จัก พรรคพลังสังคมใหม่

พรรคพลังสังคมใหม่ ก่อตั้งขึ้นเมื่อ 17 มีนาคม พ.ศ. 2564 โดยมี นายเชาว์ฤทธิ์ ขจรพงศ์กีรติ เป็นหัวหน้าพรรค พื้นเพเป็น คนจ.น่าน และทำงานในพื้นที่มานาน คุ้นเคยกับ ส.ส. ในพื้นที่ โดยเฉพาะ “นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว” หัวหน้าพรรคเพื่อไทย มีนายอังกูร ไผ่แก้ว เป็นเลขาธิการพรรค ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งเลขาธิการ พรรคผึ้งหลวง ,พรรคร่วมพัฒนาชาติไทย ที่​พรรคก้าวไกล ได้เทคโอเวอร์ หลังจากที่ “พรรคอนาคตใหม่” ถูกยุบด้วยคำพิพากษาศาลรัฐธรรมนูญ

พรรคพลังสังคมใหม่

ผลการเลือกตั้ง 2566 “พรรคพลังสังคมใหม่”

เลือกตั้ง 2566 พรรคพลังสังคมใหม่ ได้ส.ส.บัญชีรายชื่อ 1 ที่นั่ง จากคะแนนเสียงเลือกตั้ง 174,897 คะแนน ทำให้ผู้ที่ได้เข้าไปทำหน้าที่ในสภาคือ นายเชาว์ฤทธิ์ ขจรพงศ์กีรติ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 1

นโยบายหาเสียง "พรรคพลังสังคมใหม่"

  • รายได้พื้นฐานถ้วนหน้าจ่ายเงินให้กับผู้ที่มีรายได้น้อยเดือนละ 3,000 บาททุกเดือน
  • กองทุนกู้วิกฤตธุรกิจ รายย่อย (แม่ค้ารายย่อย) ให้เข้าถึงแหล่งทุน วงเงินไม่เกิน 300,000 บาท
  • แก้ไขปัญหาหนี้สินให้สมาชิกกองุทนฟื้นฟูและกลุ่มเกษตรกร
  • ปุ๋ยคนละครึ่งที่พึ่งเกษตรกรเพื่อลดต้นทุนให้กับเกษตรกร
  • เปลี่ยนที่ดิน ภบท.5-6-11 สปก.4-01เป็นโฉนดที่ดินให้เกษตรกร
  • ระบบสาธารณสุขแนวคิดบริการแบบใหม่
  • บัตรประชาชนใบเดียวรักษาฟรีทุกโรคได้ทั่วไทยทุกๆ โรงพยาบาลของรัฐ
  • แยกท้องถิ่นออกจากระทรวงมหาดไทย โดยยกฐานะเป็นกระทรวงส่งเสริมปกครองส่วนท้องถิ่น
  • นิรโทษกรรม ผู้ติดเครดิตบูโร (แบล็กลิสต์)