“จุรินทร์-ไพฑูรย์-นราพัฒน์”ปราศรัยใหญ่พิจิตรชูเลือก ปชป. พาชาติรอด

03 พ.ค. 2566 | 21:17 น.
อัปเดตล่าสุด :03 พ.ค. 2566 | 21:28 น.

“จุรินทร์-ไพฑูรย์-นราพัฒน์”ปราศรัยใหญ่พิจิตร แนะเลือก “ประชาธิปัตย์ เบอร์ 26” ประเทศรอดทั้งเศรษฐกิจ การเมือง ประชาธิปไตย พร้อมให้สิ่งที่ถูกต้อง ไม่แจกเงินเพื่อแลกคะแนนเสียง

วันนี้ (3 พ.ค.66) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย นายไพฑูรย์ แก้วทอง ราษฎรอาวุโสของชาวจังหวัดพิจิตร อดีต ส.ส. และรัฐมนตรีหลายกระทรวง นายนราพัฒน์ แก้วทอง รองหัวหน้าพรรค ภาคเหนือ พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ (เสธ.อ้าย)

นอกจากนี้ยังมีผู้สมัคร ส.ส. ภาคเหนือตอนล่าง มาร่วมกันขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่ ที่บริเวณโรงเรียนตะพานหิน อ.ตะพานหิน จ.พิจิตร พร้อมกับผู้สมัคร ส.ส.พิจิตร ทั้ง 3 เขตเลือกตั้ง ประกอบด้วย เขต 1 พล.ท. ฉลวย แย้มโพธิ์ใช้ เบอร์ 3 เขต 2 พ.ต.ท.สามารถ แก้วทอง เบอร์ 6 เขต 3 นายวรวุธ แก้วทอง เบอร์ 1

โดยบรรยากาศในวันนี้ นอกจากมีพี่น้องประชาชนมาร่วมฟังการปราศรัยจำนวนมากจนล้นสนามกีฬาโรงเรียนแล้ว ชาวพิจิตรยังเข้ามาขอถ่ายรูป มอบพวงมาลัย ดอกกุหลาบ เพื่อเป็นกำลังใจให้นายจุรินทร์อย่างคับคั่ง 

นายจุรินทร์ ได้กล่าวปราศรัยว่า มาถึงวันนี้เหลือเวลาเพียง 10 วันจะถึงวันเลือกตั้ง ดังนั้นจึงถึงเวลาที่พี่น้องต้องตัดสินใจ เพราะเลือกตั้งครั้งนี้จะมีบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ขอให้เลือกประชาธิปัตย์ทั้ง 2 ใบ เพื่อให้ประชาธิปัตย์ได้ ส.ส.มากที่สุดสำหรับเข้าไปทำงานรับใช้พี่น้องได้มากขึ้นเท่านั้น

นอกจากนี้ การเลือกตั้งครั้งนี้มีโอกาสแลนด์สไลด์ยาก ตามที่มีนักวิเคราะห์ รวมทั้งผลสำรวจโพลบอกตรงกันว่า เที่ยวหน้าจะไม่มีพรรคการเมืองไหน แลนด์สไลด์เลยแม้แต่พรรคเดียว  ดังนั้น เมื่อไม่มีพรรคไหนแลนด์สไลด์ก็แปลว่าไม่มีพรรคไหนจะสามารถรวมเสียงข้างมากเพื่อตั้งรัฐบาลได้อย่างแน่นอน ซึ่งเท่ากับว่าทุกพรรคจะมีโอกาสตั้งรัฐบาลได้พอ ๆ กัน ดังนั้นทุกเสียงจึงมีความหมายสำหรับประชาธิปัตย์

นายจุรินทร์ ยังแนะวิธีเลือกพรรคการเมืองเพื่อเข้าไปบริหารประเทศว่า ให้ดู 2 ข้อ 1. ดูว่าพรรคการเมืองไหนเลือกไปแล้วจะพาประเทศชาติรอด 2. เลือกแล้ว ตัวเราและประเทศจะได้อะไร  เพราะหลังเลือกตั้งประเทศไทยจะมีปัญหา 2 เรื่อง

ทั้งปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง และปัญหาประชาธิปไตย พร้อมกับยืนยันว่าประชาธิปัตย์เป็นพรรคการเมืองที่พี่น้องประชาชนมั่นใจได้ว่าในยามประเทศวิกฤต ประชาธิปัตย์สามารถพาประเทศรอดได้ เพราะเราเคยทำมาแล้ว ถึง 2 ครั้ง ทั้งสมัยรัฐบาลชวน 2 และสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ 

ดังนั้น ถ้าพี่น้องประชาชนช่วยกันสนับสนุนประชาธิปัตย์ ให้สามารถเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้ประชาธิปัตย์ ก็พร้อมฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจโลกได้ รวมทั้งสามารถนำพาประเทศฝ่าวิกฤตประชาธิปไตย โดยเราจะไม่เป็นรัฐบาลที่พาประเทศไปสุ่มเสี่ยงต่อการถูกยึดอำนาจปฏิวัติรัฐประหารอีก เพราะประชาธิปัตย์เป็นพรรคการเมืองที่ยึดมั่นในความซื่อสัตย์สุจริต และประชาธิปัตย์ไม่โกง เพราะถ้าโกงเมื่อไหร่ ก็ยึดอำนาจเมื่อนั้น 

โดยได้ยกตัวอย่างการยึดอำนาจใน 2 ครั้งที่ผ่านมา ผู้ยึดอำนาจให้เหตุผลว่ามีการทุจริตคอรัปชั่น และมีทุจริตเชิงนโยบาย ส่วนปี 2557 มีการยึดอำนาจเพราะทุจริตจำนำข้าวและออกกฎหมายล้างผิด

ดังนั้น ถ้าประชาธิปัตย์ตั้งรัฐบาล เราจะไม่สร้างเงื่อนไขให้เกิดการยึดอำนาจอีก และรักษาประชาธิปไตยไว้ได้ด้วยการไม่โกง และบริหารประเทศด้วยความซื่อสัตย์สุจริตเหมือนที่ได้พิสูจน์ให้เห็นมาแล้ว

นายจุรินทร์ ยังได้ให้สัมภาษณ์ ว่า บรรยากาศการปราศรัยในวันนี้เป็นไปตามคาด เพราะเชื่ออยู่แล้วว่า ที่จังหวัดพิจิตรมีเสียงตอบรับยังดีอยู่มาก และดีขึ้นเรื่อยๆ เพราะในอดีตเราเคยมีผู้แทนราษฎรมาแล้วหลายคน 

“คนพิจิตร เป็นผู้ก่อตั้งพรรคประชาธิปัตย์คนหนึ่งในปี 2489 ด้วย ดังนั้นพิจิตรกับประชาธิปัตย์มีความผูกพันกันมาต่อเนื่อง โดยมีผู้แทนราษฎรมาหลายคน และที่ยืนหยัดอยู่กับพรรคอย่างมั่นคง คือท่านไพฑูรย์ แก้วทอง แล้วยังมีนายนราพัฒน์ แก้วทอง ที่เป็นรองหัวหน้าพรรค แล้วยังมีคนรุ่นใหม่อีกหลายคน ผมเชื่อว่าเที่ยวนี้เรามีโอกาสมาก พี่น้องที่นี่ก็พร้อมให้การต้อนรับประชาธิปัตย์” นายจุรินทร์ กล่าว 

ผู้สื่อข่าวถามว่าจะสามารถปักธงได้ทั้ง 3 เขตหรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า เราสู้ทั้ง 3 เขต และหวังคะแนนจากบัตรทั้ง 2 ใบ ทั้งบัตรสีม่วงผู้แทนเขต และบัตรสีเขียว เบอร์ 26 พรรคประชาธิปัตย์ สำหรับในภาคเหนือ ก็เชื่อว่าการเลือกตั้งเที่ยวนี้ เราจะได้หลายที่นั่ง 

“คำว่าหลาย ก็คงไม่อยากจะพูดว่าเท่าไหร่ แต่ผมคิดว่าเราจะได้จำนวนไม่น้อย สำหรับที่นั่ง ส.ส. เขตในภาคเหนือ คราวที่แล้วได้คนเดียว แต่เที่ยวนี้ไม่อย่างนั้นแล้ว ผมเชื่อว่าดีขึ้นเยอะ และผมไปมาหลายจังหวัด เสียงตอบรับต่อคะแนนพรรคก็ดี มีหลายคนที่เป็นแฟนคลับประชาธิปัตย์ก็บอกว่า จะกลับมาช่วยเลือกแล้วเอาคนใหม่ๆ เข้ามาด้วย เพราะเรามีคนรุ่นใหม่เข้าพรรคเยอะเลย ประชาธิปัตย์จึงเป็นพรรคการเมืองของคนทุกรุ่น ทำให้กลายเป็นจุดแข็งสำคัญของพรรค” นายจุรินทร์กล่าว 

พร้อมกับเพิ่มเติมว่า จากที่เราได้ทำการสำรวจก็พบว่ามีเสียงคนรุ่นใหม่ที่ต้องการเลือกประชาธิปัตย์ มีจำนวนไม่น้อย ซึ่งไม่ได้แปลว่าเป็นคนรุ่นใหม่แล้วต้องเลือกพรรคหนึ่ง พรรคสองแค่นั้น แต่ก็มีที่เลือกประชาธิปัตย์ก็เยอะ 

ผู้สื่อข่าวถามถึงในช่วง 10 วันสุดท้าย มีความหนักใจอะไรหรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ไม่มีอะไรหนักใจ นอกเสียจากเรื่องการหาเสียงนอกกติกา และเป็นสิ่งที่เราไม่อยากให้เกิดขึ้น เพราะเราไม่ต้องการเห็นธุรกิจการเมืองเกิดขึ้น ซึ่งสิ่งนี้จะเป็นภัยร้ายสำหรับประเทศ และประชาธิปไตยด้วย

ตนจึงได้ปราศรัยว่า เวลาที่พี่น้องจะพิจารณาเลือกพรรคการเมือง อย่างน้อยขอให้ดู 2 ข้อ ข้อ 1 พรรคไหนเลือกไปแล้วพาประเทศรอด ทั้งทางเศรษฐกิจ และระบอบประชาธิปไตย ซึ่งประชาธิปไตยจะรอดได้ พรรคการเมืองนั้นต้องไม่โกง นอกจากนั้นต้องดูว่าพรรคนั้นให้อะไรกับเราในทางที่ถูกต้อง ให้เบ็ดหรือเปล่า หรือแจกเงินครั้งเดียวเพื่อแลกกับคะแนนเสียง 

“ผมมั่นใจว่า ประชาธิปัตย์ตอบโจทย์ในทิศทางที่ดี และพร้อมตั้งรัฐบาลถ้าประชาชนให้โอกาส และได้เสียงมากพอ เราพาประเทศรอด รอดทั้งเศรษฐกิจ รอดทั้งการเมือง รอดทั้งระบอบประชาธิปไตย เพราะประชาธิปัตย์ไม่สร้างเงื่อนไขให้เกิดการปฏิวัติยึดอำนาจอีก” นายจุรินทร์ กล่าว