นายหมิง-ชี คัว (Ming-Chi Kuo) นักวิเคราะห์เทคโนโลยีคาดการณ์เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของ Apple โพสต์ใน X เผยว่า iPhone SE 4 นั้น อาจทำยอดขายได้ 12 ล้านเครื่องในช่วงครึ่งแรกของปี 2025 และอีก 10 ล้านเครื่องในครึ่งหลังปี 2025 และจะเป็นรุ่นขายดีที่สุดในบรรดาตระกูล iPhone SE
iPhone SE 4 คาดว่าจะมาแก้ปัญหา iPhone ขายได้น้อย และจะสามารถเจาะตลาด สร้างกลุ่มผู้ใช้ Apple Intelligence ได้มากขึ้น
นายหมิง-ชี คัว ตั้งข้อสังเกตว่าชิปโมเด็ม 5G ของ Apple ที่พัฒนาขึ้นมาเองนั้นอาจมาจากสิทธิบัตรที่ Apple มีคดีฟ้องร้องกับ Qualcomm และเชื่อว่า Apple ยอมจ่ายค่าสิทธิบัตรบางส่วนให้ Qualcomm เพื่อนำมาผลิตชิปโมเด็มเองได้ เพื่อชดเชยชิ้นส่วนที่ Apple ยกเลิกสั่งผลิตจาก Qualcomm
นายหมิง-ชี คัว ยังกล่าวเสริมอีกว่า iPhone SE 4 จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการเติมเต็มช่องว่างของยอดขาย iPhone ที่อาจลดลงในช่วงรอยต่อระหว่าง iPhone 16 และ iPhone 17
ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความนิยมของ iPhone SE 4 คือเรื่องของราคา แม้ว่าจะมีข่าวลือเรื่องการปรับราคาขึ้นจาก 429 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 15,900 บาท) เป็น 499 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 18,500 บาท) แต่ก็ยังคงถูกกว่า iPhone 16 รุ่นเริ่มต้นถึง 300 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 11,100 บาท)
iPhone SE 4 คาดว่าจะเปิดตัววันที่ 19 ก.พ. นี้ มาพร้อมกับการอัปเกรดครั้งใหญ่ที่ทำให้มีคุณสมบัติเทียบเท่ากับ iPhone 16 และ iPhone 16 Plus หลายประการ แม้ว่าบางฟีเจอร์อาจมีการปรับลดสเปคลงบ้าง แต่โดยรวมแล้วถือว่าเป็นการพัฒนาที่ก้าวกระโดดจากรุ่นก่อนหน้า
คาดการณ์กันว่า iPhone SE 4 จะใช้ดีไซน์ตัวเครื่องแบบ iPhone 14 พร้อมขุมพลังชิป A18 ตัวเดียวกับที่ใช้ใน iPhone 16
ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้งาน iPhone SE 4 สามารถเข้าถึง Apple Intelligence ได้อย่างเต็มรูปแบบ และอาจได้รับประสบการณ์ที่เหนือกว่าผู้ใช้ iPhone 16 เสียด้วยซ้ำ เนื่องจากไม่ต้องรอการทยอยปล่อยฟีเจอร์ AI ผ่านการอัปเดต iOS 18
นอกจากนี้ iPhone SE 4 ยังคาดว่าจะมาพร้อมหน้าจอ OLED ขนาด 6.1 นิ้ว, ระบบยืนยันตัวตนด้วยใบหน้า Face ID และพอร์ตเชื่อมต่อ USB-C แต่ในขณะเดียวกัน ผู้ใช้งานอาจต้องบอกลาฟีเจอร์ที่คุ้นเคยอย่างปุ่มโฮม, หน้าจอขนาดเล็ก และพอร์ต Lightning
ที่มา macrumors