‘วรุณา’ นำเทคโนโลยี ‘AI-โรโบติกส์ หนุนองค์กรบริหารคาร์บอนเครดิต

19 เม.ย. 2567 | 16:43 น.
อัปเดตล่าสุด :19 เม.ย. 2567 | 16:57 น.

“วรุณา” เครือ เออาร์วี เดินหน้าผลักดันไทยสู่สังคม Net Zero นำเทคโนโลยี AI-โรโบติกส์ ช่วยการบริหารโครงการคาร์บอนเครดิต และพร้อมส่งมอบคาร์บอนเครดิตมาตรฐานสากล

นางสาวพณัญญา เจริญสวัสดิ์พงศ์ ผู้บริหารด้านธุรกิจและผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท วรุณา (ประเทศไทย) จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านการขับเคลื่อนคาร์บอนอย่างยั่งยืน ในกลุ่มบริษัท เอไอ แอนด์ โรโบติกส์ เวนเจอร์ จำกัด หรือ ARV เปิดเผยว่าวรุณา พร้อมเดินหน้าผลักดันประเทศไทยเข้าสู่สังคม Net Zero ผ่านการนำเทคโนโลยี AI และโรโบติกส์ เพื่อช่วยการบริหารโครงการคาร์บอนเครดิต และพร้อมส่งมอบคาร์บอนเครดิตมาตรฐานสากล เพื่อสนับสนุนนโยบายของหน่วยงานต่างๆ ในการบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจกและบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์

‘วรุณา’ นำเทคโนโลยี ‘AI-โรโบติกส์ หนุนองค์กรบริหารคาร์บอนเครดิต

 

โดยวรุณาได้พัฒนา โดรนปลูกป่า (Drone Plantation) เพื่อให้การดำเนินการปลูกป่าทำให้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอก จากนี้ยังได้พัฒนา Smart Forrest Solution เพื่อให้ผู้พัฒนาโครงการรวมถึงผู้ซื้อคาร์บอนเครดิตเกิดความมั่นใจในการบริหารจัดการพื้นที่สีเขียวเพื่อให้ได้คาร์บอนเครดิต โดย Smart Forrest Solution มีการนำเทคโนโลยี 3 เทคโนโลยีมาช่วย ส่วนแรก คือเทคโนโลยีภาพถ่ายดาวเทียม ที่ทำให้เห็นภาพรวมของโครงการช่วยในการวางแผนฟื้นฟูพื้นที่สีเขียว ทำให้เห็นการเปลี่ยนแปลงของพื้นที่รวมถึงตรวจจับพื้นที่ที่มีโอกาสเกิดไฟป่า หรือ พื้นที่เผาไหม้ได้

‘วรุณา’ นำเทคโนโลยี ‘AI-โรโบติกส์ หนุนองค์กรบริหารคาร์บอนเครดิต

ส่วนที่ 2 เทคโนโลยีโดรนมัลติสเปกตรัม เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกในพื้นที่ โดยภาพถ่ายจากโดรนจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ลดเวลาสำรวจพื้นที่ได้มากกว่าการใช้คนสำรวจถึง 10 เท่า นอกจากนี้ยังช่วยลดต้นทุนและ ความเสี่ยงของการใช้แรงงานคนในการปฎิบัติงานลงพื้นที่

‘วรุณา’ นำเทคโนโลยี ‘AI-โรโบติกส์ หนุนองค์กรบริหารคาร์บอนเครดิต

และส่วนที่ 3 เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI เพื่อการวิเคราะห์และประเมินศักยภาพการดูดซับคาร์บอน โดยวรุณาได้นำเทคโนโลยีดังกล่าวมาบริหารจัดการโครงการป่าไม้แบบ End to End Solution ซึ่งช่วยวางแผนฟื้นฟูเพิ่มพื้นที่สีเขียวได้อย่างแม่นยำ และส่งมอบคาร์บอนเครดิตที่มีคุณภาพ

 “นวัตกรรมที่วรุณาพัฒนาขึ้นนั้นจะช่วยผู้พัฒนาโครงการสามารถบริหารจัดการฟื้นฟูป่า ปลูกป่า และได้คาร์บอนเครดิต สำหรับหน่วยงานที่ไม่มีโครงการคาร์บอนเครดิต วรุณามีคาร์บอนเครดิตพร้อมจำหน่ายทั้งมาตรฐานไทย และสากล เพื่อให้หน่วยงานต่างๆ สามารถบรรลุเป้าหมาย Net Zero โดยตั้งเป้าส่งมอบคาร์บอนเครดิต 1 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์ต่อปีภายในปี 2573 โดยวรุณาพร้อมเป็นส่วนหนึ่งในโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของประเทศในการจัดการคาร์บอนเครดิตของไทย โดยเชื่อว่าในปี 2567เป็นต้นไปจะมีหลายๆ หน่วยงานที่หันมาให้ความสนใจเรื่องการจัดการคาร์บอนเครดิตภายในองค์กรมากขึ้น และวรุณาจะสนับสนุนเทคโนโลยีที่เป็นแรงขับเคลื่อนให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมาย Net Zero ภายในปี 2608”

นางสาวพณัญญา กล่าวต่อไปอีกว่าภาพรวมการซื้อขายคาร์บอนเครดิตในตลาดโลกปีที่ผ่านมาถือว่าเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ เช่นเดียวกับประเทศไทยที่มีปริมาณการซื้อขายคาร์บอนเครดิตรวมทั้งสิ้น 857,102 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า และมูลค่าการซื้อขายไปแล้วมากกว่า 68.32 ล้านบาท โดยปัจจุบันทั้งหน่วยงานภาครัฐ และเอกชนต่างมีนโยบายและโครงการที่เกี่ยวข้องเพื่อรองรับมาตรการของประเทศเกี่ยวกับการลดก๊าซเรือนกระจก และการจัดการการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ อาทิ การปรับตัวของอุตสาหกรรมการผลิตให้มีการใช้ทรัพยากรน้อยลง รวมถึงการเพิ่มแหล่งกักเก็บก๊าซเรือนกระจก สำหรับประเทศไทยการปลูกป่า และกาสรสร้างพื้นที่สีเขียวทดแทนมีความน่าสนใจ เนื่องจากไทยเป็นประเทศที่มีทรัพยากรธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ ทั้งในแง่ภูมิประเทศ ภูมิอากาศ รวมถึงมีองค์ความรู้ และการสนับสนุนจากนโยบายภาครัฐ ที่ส่งผลให้ไทยมีศักยภาพขอรับรองคาร์บอนเครดิตจากภาคป่าไม้ได้มากขึ้น

 “สำหรับการปลูกป่าหรือการสร้างพื้นที่สีเขียวถือเป็นวิธีที่ยั่งยืน และเกิดประโยชน์ที่สุด โดยเฉพาะการปลูกต้นไม้ในป่าเขตร้อน ที่พบว่า ต้นไม้ 1 ต้น สามารถดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ได้เฉลี่ย 9 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี นอกจากนี้ยังมีการสร้างองค์ความรู้สู่ชุมชนผ่านศูนย์การเรียนรู้ และให้ชุมชนได้รับรายได้เพิ่มจากการปลูกป่า และดูแล รักษาป่า