สิงคโปร์ทุ่มเงินลงทุนด้าน AI มูลค่า 740 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
สิงคโปร์ทุ่มเงินลงทุนด้าน AI มูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ หรือราว 743 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อพัฒนาขีดความสามารถด้านปัญญาประดิษฐ์ โดยเป็นการลงทุนระยะยาวในกรอบเวลา 5 ปี
สิงคโปร์ประกาศแผนลงทุนมาก 1 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ หรือ 743 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 26,000 ล้านบาท เพื่อพัฒนาขีดความสามารถด้านปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI เป็นการลงทุนระยะยาวในกรอบเวลา 5 ปี
ในสุนทรพจน์เรื่องงบประมาณเมื่อวันศุกร์ที่ 16 ก.พ.67 ที่ผ่านมา "ลอว์เรนซ์ หว่อง" รองนายกฯสิงคโปร์ กล่าวว่า การลงทุนของสิงคโปร์ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถด้าน AI ของประเทศ สิงคโปร์จะทำเพื่อให้แน่ใจว่าจะสามารถเข้าถึงชิปขั้นสูงได้อย่างปลอดภัยซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาและการใช้งาน AIสิงคโปร์จะทำงานร่วมกับบริษัทชั้นนำทั้งในประเทศและทั่วโลกเพื่อจัดตั้งศูนย์ความเป็นเลิศด้าน AI เพื่อกระตุ้นนวัตกรรม
สิงคโปร์เป็นประเทศที่มีทักษะด้าน AI เร็วที่สุดในโลกอยู่แล้ว ตามรายงาน Future of Work ของ LinkedIn ที่เผยแพร่ในเดือนสิงหาคมปีที่เเล้ว
CNBC รายงานว่า การมุ่งเน้นและการลงทุนที่เพิ่มขึ้นในขีดความสามารถด้าน AI และการพัฒนาอุตสาหกรรมยังเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นและสำคัญสำหรับสิงคโปร์ในการเสริมความแข็งแกร่งให้กับตำแหน่งในฐานะศูนย์กลางธุรกิจและนวัตกรรม ที่น่าดึงดูดสำหรับธุรกิจและผู้มีความสามารถในโลกดิจิทัลที่เพิ่มมากขึ้น ขณะเดียวกันยังมีศักยภาพสูงมากในฐานะศูนย์กลาง AI ระดับโลก เนื่องจากมีสภาพแวดล้อมที่กระตุ้นนวัตกรรมอย่าง Google
สิงคโปร์เป็นหนึ่งในประเทศแรกๆ ที่เผยแพร่แผน AI ในปี 2562 เปิดตัว National AI Strategy 2.0 ซึ่งเป็นเวอร์ชันปรับปรุงของโครงการริเริ่ม AI โดยสรุปแนวทางในการเตรียมเศรษฐกิจเพื่อควบคุมและใช้ AI เพื่อเพิ่มศักยภาพให้กับงาน และธุรกิจ
เพื่อส่งเสริมการใช้ AI อย่างมีความรับผิดชอบ สิงคโปร์ได้เปิดตัว AI Verify ในเดือนพฤษภาคม 2565 เป็นกรอบการทดสอบการกำกับดูแล AI และชุดเครื่องมือซอฟต์แวร์ชุดแรกของโลกสำหรับบริษัทต่างๆ เครื่องมือนี้ช่วยให้ผู้ใช้ทดสอบทางเทคนิคเกี่ยวกับโมเดล AI และบันทึกการตรวจสอบกระบวนการ รายงานระบุว่า Google Meta และ Microsoft เป็นหนึ่งในบริษัทที่ได้ทดสอบเครื่องมือ AI Verify หรือให้ข้อเสนอแนะแล้ว
อย่างไรก็ตาม การจัดสรรเงิน 1 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ หรือ 743 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับ AI ซึ่งรวมถึงการดำเนินการอย่างปลอดภัยของ National AI Strategy 2.0 แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลในการส่งเสริมระบบนิเวศ AI ที่เชื่อถือได้และมีความรับผิดชอบ เนื่องจากการนำ AI มาใช้ที่เพิ่มมากขึ้น ผู้บริโภคต้องมั่นใจว่าข้อมูลส่วนตัวปลอดภัย และเทคโนโลยีนั้นจะถูกนำไปใช้ประโยชน์