นายพชร นริพทะพันธุ์ ที่ปรึกษาประจำประธาน กสทช. ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำประธาน กสทช. ด้านเทคโนโลยี พัฒนาธุรกิจ และนโยบายภาครัฐ เปิดเผยว่า กสทช.พร้อมเดินหน้ามาตรการเชิงรุกเพื่อแก้ปัญหาแกงค์คอลเซ็นเตอร์หลอกลวงเงินผู้บริโภค ซึ่ง ศาสตราจารย์คลินิกนพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธานกสทช. ได้รับนโยบายจากนายกรัฐมนตรีให้ดำเนินการเกิดรูปธรรมเร็วที่สุด โดยร่วมกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (DES) จะเป็นศูนย์บัญชาการหลักและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ บูรณาการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีครั้งนี้
ล่าสุด เมื่อวันที่ 21 พ.ย. 2566 กสทช.ได้ร่วมหารือร่วมกับ พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รองผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (สอท.) และ นายสุทธิเกียรติ วีระกิจพานิช ที่ปรึกษารัฐมนตรี DES พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงาน กสทช. และ บช.สอท. หน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง กำหนดแนวทางทำงานให้รวดเร็ว มีประสิทธิภาพ และตัดตอนก่อนเกิดการกระทำผิดต่อผู้บริโภค
ทั้งนี้ หลังจากพระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 มีผลบังคับใช้ สำนักงาน กสทช. และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ร่วมกันเดินหน้าปราบปรามผู้กระทำผิดทั้งในเชิงกฎหมาย การลงพื้นที่และประสานทุกฝ่าย เพื่อทลายเครือข่ายแกงค์มิจฉาชีพเหล่านี้
“ประธานกสทช.สั่งการให้สำนักงานกสทช. ต้องเดินหน้าทำงานเชิงรุกตรวจสอบเครือข่ายผ่านโอเปอเรเตอร์ต่างๆ และกำลังออกระเบียบพัฒนาการทำระบบยืนยันบริการของเบอร์ผู้ให้บริการคอลเซ็นเตอร์ และกำหนดจุดยุทธศาสตร์เพื่อบล็อกสัญญาณที่แกงค์คอลเซ็นเตอร์ใช้เป็นฐานกระทำผิดในประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งนอกเหนืออำนาจตำรวจไทย โดยคำนึงถึงผลกระทบกับผู้ใช้บริการปกติด้วย”
นอกจากนั้น ยังจะมีมาตรการจัดระเบียบเสาส่งสัญญาณบริเวณชายแดน และเตรียมออกประกาศให้ผู้ทื่ถือครองซิมการ์ดตั้งแต่ 5 ซิมขึ้นไป ต้องมาลงทะเบียนแจ้งการครอบครอง ป้องกันการนำไปใช้หลอกลวงทางออนไลน์ โดยการบูรณาการความร่วมมือครั้งนี้ทาง กระทรวง DES จะเป็นเจ้าภาพหลัก ในการรับแจ้งเหตุ การปิดซิม และการทำลายเสาสัญญาณ หรือซิมเถื่อน เพื่อปกป้องประชาชนถูกหลอกลวงให้ได้อย่างเป็นรูปธรรม ผลักดันการทำงานเชิงรุกควบคู่กับ อนุกรรมการบูรณาการแนวทางบังคับใช้กฎหมายความผิดทางเทคโนโลยีโทรคมนาคม ต่อไป