สืบเนื่องจากในวันนี้ 10 พฤศจิกายน 2566 บอร์ด กสทช.ได้จัดให้มีประชุมนัดพิเศษ 12 /2566 โดยเริ่มประชุมตั้งแต่เวลา 09.00 น. – 13.30 น. สำหรับการประชุมบอร์ด กสทช. มีเงื่อนไขห้ามนำโทรศัพท์เข้าไปในที่ประชุม
ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. บอร์ด กสทช. ยังไม่สามารถสรุปพิจารณาควบรวมกิจการระหว่าง บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ตเวอร์ค จำกัด หรือ AWN ในเครือ AIS กับ บริษัท ทริปเปิลที บรอดแบนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ 3BB ในเครือ JAS เนื่องจากคณะกรรมการบอร์ด กสทช. จำนวน 7 คน ติดภารกิจสำคัญ
แหล่งข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ถึงเหตุผลที่ ศาสตราจารย์คลินิก นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธานกรรมการ กสทช.และ พลตำรวจเอก ดร.ณัฐพร พราะสุนทร กรรมการ ถอนตัวจากการร่วมพิจารณารวมธุรกิจ AWN กับ 3BB ต้องการให้ที่ประชุม "รับทราบ" และ "ไม่รับทราบ" เท่านั้น
เนื่องจากสำนักงาน กสทช. ได้เสนอว่าการควบรวมธุรกิจของผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคม ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 พระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2553 มาตรา 27 (11) ได้กำหนดมาตรการเพื่อป้องกันมิให้มีการกระทำอันเป็นการผูกขาดหรือ ก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรมในการแข่งขันในกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และ กิจการโทรคมนาคม ซึ่งกฎหมายไม่ได้เขียนระบุไว้ว่าจะอนุญาตหรือไม่อนุญาต มีอำนาจเพียงกำหนดมาตราการเท่านั้น
ขณะเดียวกันกรรมการ กสทช.อีก 5 คน เห็นว่า AIS ได้ส่งหนังสืออย่างเป็นทางการเพื่อขออนุญาตมายังสำนักงาน กสทช.เนื่องจาก AWN และ 3 BB ได้ใบอนุญาติประกอบการกิจการโทรคมนาคมจาก กสทช. จึงควรลงมติเพราะ กสทช. มีอำนาจและหน้าที่ในการพิจารณาสั่ง “อนุญาต” หรือ “ไม่อนุญาต”
“บอร์ดเสียงข้างมากต้องการลงมติอนุญาต หรือ ไม่อนุญาต แต่ ประธาน กสทช. กับ ดร.ณัฐพร พราะสุนทร กรรมการ เห็นว่าหน้าที่ของ กสทช.คือการกำหนดมาตการเท่านั้น ดังนั้นหากผู้รับใบอนุญาตเสนอรวมกิจการ ต้องพิจารณาว่าเข้าข่ายผูกขาดหรือไม่ผูกขาด ต้องมาถกกันก่อนไม่ใช่มาลงมติอนุญาต หรือ ไม่อนุญาต จึงเป็นผลให้บอร์ดเสียงข้างน้อยถอนตัวจากการร่วมประชุมเพราะกลัวผิดกฎหมาย”.