นายกฤตธี มโนลีหกุล รองประธาน เทนเซ็นต์ คลาวด์ อินเตอร์เนชันแนล ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และกรรมการผู้จัดการ บริษัท เทนเซ็นต์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่าองค์กรธุรกิจในไทยอยู่ในช่วงการทรานฟอร์สเมชัน ไปสู่ดิจิทัล ดังนั้นตลาดคลาวด์ และโซลูชัน ยังมีโอกาสเติบโตได้อย่างมหาศาล โดยบริษัทวิจัย ไอดีซี คาดการณ์ว่าตลาดมีการเติบโตราว 30% ต่อปีไปถึงปี 2568
กลยุทธ์ของเทนเซ็นต์คลาวด์นั้นจะมุ่งการสร้างอีโคซิสเต็มที่แข็งแกร่งขึ้นมา ซึ่งการขยายตลาดนั้นต้องอาศัยพาร์ทเนอร์ ทั้งผู้วางระบบ และผู้พัฒนาซอฟต์แวร์อิสระ มาช่วยเข้าถึงลูกค้ารายย่อย ขณะเดียวกันยังได้ตั้งทีมขึ้นมาดูแลกลุ่มลูกค้าหลัก (Key Account)
นอกจากนี้ยังมุ่งการยกระดับความสามารถด้านผลิตภัณฑ์ และบริการ เพื่อขยายตลาด และสร้างการเติบโตที่ยั่งยืน อาทิ บริการซอฟต์แวร์ (SasS) ทั้งบริการแอปประชุมออนไลน์ VooV Meeting, เทนเซ็นต์ ดอค โซลูชันบริหารจัดการลูกค้าสัมพันธ์ QiDian โซลูชัน Tencent’s signing และระบบจัดการตัวตน (Identify as a Service) ขณะเดียวกันยังมุ่งการพัฒนาโลกจริงและโลกดิจิทัลแบบไร้รอยต่อให้กับธุรกิจ โดยนำจุดแข็งของบริษัทมาจากการพัฒนาเกมและบริการสตรีมมิ่ง มาให้การสนับสนุนลูกค้าให้ลูกค้าเข้าสู่ Web3.0 และเมตาเวิร์ส
จุดแข็งของเทนเซ็นต์ คลาวด์ ที่เป็นต่างจากผู้ให้บริการระดับโลกรายอื่น คือ การเป็นโลคัลไลซ์ โดยสนุกดอตคอม เปิดให้บริการในไทยมา 20 กว่าปี เทนเซ็นต์ มีการลงทุนในดาต้าเซ็นเตอร์ในไทย 2 แห่ง และยังมีการลงทุนในไทยต่อเนื่อง ขณะเดียวกันยังเทนเซ็นต์ยังมีโซลูชันจากจีน ที่นำมาพัฒนาให้เข้ากับตลาดไทย ทั้งสมาร์ทรีเทล สมาร์ทซิตี้ หรือ อุตสาหกรรมอัจฉริยะ นอกจากนี้ยังมีทีมงานในประเทศที่ผสมผสานระหว่างทีมคนไทย กับทีมที่เซินเจิ้น ในการอัพเดทเรื่องฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์ สถาปัตยกรรมและโซลูชัน ด้านสื่อ บิ๊กดาต้า IoT AI และดิจิทัล ทวิน ที่มีการเติบโตอย่างมีนัยยะสำคัญ
นายกฤตธี กล่าวต่อไปอีกว่า เทนเซ็นต์ ยังมุ่งสนับสนุนผู้ประกอบการไทยเข้าสู่ตลาดจีน โดยโซลูชัน China Connect เป็นบริการครบวงจรของเทนเซ็นต์ คลาวด์ ที่จะช่วยให้ผู้ประกอบการ หรือองค์กรธุรกิจสามารถเปิดประตูสู่ตลาดจีน ด้วยการใช้เทคโนโลยี และความเชี่ยวชาญในด้านต่างๆ มาช่วยเสริมการดำเนินงานอย่างครบวงจร ไม่ว่าจะเป็น การจดทะเบียนบริษัท (Registration) การปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านความปลอดภัย (Security Compliance) การวางระบบธุรกิจ (Business Setup) การดำเนินงาน และการพัฒนา (Operation and Development) และโซลูชัน Go To Market (GTM Solutions) เป็นต้น
นอกจากนี้ยังมีโซลูชัน สมาร์ท รีเทล ไซน่า คอนเนค ซึ่งเป็นเครื่องมือช่วยผู้ประกอบการไทยในการขยายตลาดอีคอมเมิร์ซไปตลาดจีน โดยครอบคลุมบริการหลากหลาย เช่น การพัฒนาร้านค้าโดยใช้ Weixin Mini Program การสร้างกลุ่มเป้าหมายลูกค้า การดำเนินงานแพลตฟอร์มร้านค้า การจัดการผู้ใช้งาน การทำตลาด การวิเคราะห์ข้อมูล และบริการหลังการขาย โดยโซลูชันดังกล่าวจะช่วยให้ร้านค้าสามารถรองรับผู้บริโภคชาวจีน และสามารถวิเคราะห์การเปลี่ยน แปลงของพฤติกรรมผู้บริโภค รวมถึงสร้างการรับรู้แบรนด์วงกว้างไปยังกลุ่มผู้บริโภคชาวจีน
สำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมายของเทนเซ็นต์ คลาวด์ คือ กลุ่มการเงิน และประกันภัย กลุ่มสื่อและบันเทิง ภาครัฐ และ วิสาหกิจ และกลุ่มค้าปลีก รวมถึงกลุ่มผู้ประกอบการที่ต้องการขยายตลาดไปจีน