ไฮเซ่นส์ รุกตลาดจอยักษ์เสริมไลน์เลเซอร์ทีวี-เลเซอร์ซีนีมา รับดีมานด์โต

นายฉันท์ชาย พันธุฟัก ผู้อำนวยการส่วนการขายและการตลาด บริษัท ไฮเซ่นส์ อินเตอร์เนชันแนล(ประเทศไทย) กล่าวว่า “ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ตลาด Ultra Short Throw เลเซอร์ทีวีและเลเซอร์ซีนีมา ในประเทศไทยยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก จำกัดอยู่เพียงกลุ่มเฉพาะ แต่ในปัจจุบันหลังมีปัจจัยกระตุ้นอย่างสถานการณ์โควิด-19 ที่ทำให้ผู้บริโภคปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหันมาชมภาพยนตร์ที่บ้านเพิ่มมากขึ้น และเกิดความต้องการอยากได้บรรยากาศเสมือนชมในโรงภาพยนตร์ ทั้งจอขนาดใหญ่และระบบเสียง

ประกอบกับการขยายตัวของกลุ่มผู้ให้บริการวิดีโอสตรีมมิงในปัจจุบันมีเพิ่มขึ้นกว่า 20 แพลตฟอร์ม เช่น Netflix, iflix, Prime Video, Apple tv, HBO GO เป็นต้น ซึ่งถือเป็นแรงผลักดันให้ตลาดผลิตภัณฑ์จอขนาดใหญ่มากกว่า 100 นิ้ว เติบโตอย่างก้าวกระโดด ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา รวมถึงการขยายตัวของกลุ่มผู้บริโภคจากเดิมเป็นกลุ่มครอบครัว สู่กลุ่มวัยทำงาน และนักศึกษา เป็นต้น เน้นการใช้งานตั้งแต่การชมคอนเทนต์ เล่นเกม ประชุมธุรกิจ ผ่านจอภาพขนาดใหญ่ 

ดังนั้นเพื่อเป็นการรองรับการขยายตัวของตลาดในประเทศไทยปี 2566 ไฮเซ่นส์ (Hisense) ได้เตรียมแผนการตลาด ทั้งในด้านการสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ ของการชมคอนเทนต์กับผู้บริโภค พร้อมทั้งจับมือพันธมิตร บริษัท AR Technology ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดจำหน่ายและบริการผลิตภัณฑ์ Ultra Short Throw เลเซอร์ซีนีมา เพื่อขยายฐานการรับรู้ ให้ครอบคลุมถึงกลุ่มเป้าหมาย

และที่สำคัญบริษัทฯ ได้เตรียมเปิดตัว 3 ผลิตภัณฑ์เรือธงแห่งปี ได้แก่ “Hisense L9 Series Trichroma 4K Laser TV” ที่มาพร้อม TV Tuner ในตัว เอาใจกลุ่มครอบครัวสายดูหนังและเล่นเกม ด้วยจุดเด่นนวัตกรรม TriChroma 4K Laser หรือเลเซอร์ 3 สี ให้คุณภาพสีสันสมจริงแสดงรายละเอียดเฉดสีได้ถึง 107% ของมาตรฐาน BT.2020 เปิดประสบการณ์ใหม่แห่งการรับชมบนจอภาพขนาด 120 นิ้ว ภาพมีความสว่างสูงถึง 3,000 ANSI Lumens รับชมได้ในทุกสภาพแสง  ความละเอียดแบบ 4K และเพิ่มอรรถรสการรับชมภาพยนตร์สตรีมมิง  ด้วย Dolby Vision HDR และระบบเสียง Dolby  Atmos พร้อมลำโพงแบบ Front Firing  ขนาด 40 วัตต์ RMS  พร้อมช่องต่อ HDMI 2.1  รองรับการเล่นเกม แบบ 4K 120Hz ได้รับการรับรองจาก TÜV Rheinland ว่าจอภาพ มีแสงสีฟ้าต่ำและปราศจากการสั่นไหว จึงมั่นใจได้ถึงความสบายตาและลดความเครียดของดวงตาและถนอมสายตา จำหน่ายในราคา 229,990 บาท พร้อมจอ ALR และราคา 189,990 บาท สำหรับเฉพาะตัวเครื่อง

ต่อด้วยรุ่นยอดนิยมตลอดกาลอย่าง “Hisense PX1-PRO Trichroma Laser Cinema” ที่มาพร้อม   คอนเซ็ปต์ Real Cinema Experiences Delivered ส่งประสบการณ์ชมภาพยนตร์ถึงบ้านคุณ สามารถแสดงภาพขนาดใหญ่สูงสุดถึง 130 นิ้ว พร้อมเทคโนโลยี Ultra Short Throw ระยะการฉายภาพระยะสั้นเริ่มต้นเพียง 32 เซนติเมตร ความคมชัดระดับ 4K HDR พิเศษด้วย FILM MAKER MODE รับชมภาพยนตร์ได้แบบต้นฉบับ และเอาใจสายเกมเมอร์ ด้วย GAME MODE เล่นเกมบนหน้าจอภาพยนตร์ ต่อเครื่องเล่นเกม หรือพีซีได้อย่างไร้รอยต่อ เคลื่อนไหวไม่มีสะดุดด้วย HDMI 2.1 รวมถึงการช่วยเพิ่มบรรยากาศในการปาร์ตี้สังสรรค์ในกลุ่มเพื่อนได้อย่างลงตัว จัดจำหน่ายในราคา 119,990 บาท สำหรับเฉพาะตัวเครื่อง

ปิดท้ายด้วยรุ่นเริ่มต้นที่ครบเครื่องอย่าง “Hisense L5 series Laser TV” กับจุดเด่นที่มาพร้อมกับ TV Tuner ในตัวและจอขนาดใหญ่ 120 นิ้ว เหมาะกับการสร้างความบันเทิงในครอบครัว ด้วยคุณภาพความสว่างสูง 2700 Ansi Lumen สีสันสดใสเป็นธรรมชาติ ความคมชัดระดับ 4K HDR และโหมดถนอมสายตาที่เหมาะกับน้อง ๆ  มาพร้อมลำโพงด้านหน้าเหมือน Sound Bar รองรับเสียง Dolby Atmos เสียงกระหึ่มรอบทิศทางทำให้สามารถเพลิดเพลินกับประสบการณ์ทีวีจอยักษ์ในห้องนั่งเล่นต้อนรับปิดเทอม จำหน่ายในราคา 149,990 บาท พร้อมจอ ALR

นายฉันท์ชาย กล่าวต่อว่า “เมื่อดูจากยอดขายสินค้ากลุ่ม Laser Display ในปีที่ผ่านมา ถือว่าบริษัทฯ ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก มียอดจำหน่ายทั้งสิ้นรวมกว่า 100 เครื่อง โดยในปี 2566 นี้ บริษัทฯ มีความมุ่งมั่นและคาดว่าผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Laser Display จะสามารถสร้างยอดขายได้เติบโตขึ้นอีกกว่า 300% หรือมียอดจำหน่ายทั้งสิ้นกว่า 400 เครื่อง และเป็นอันดับหนึ่งในกลุ่มสินค้า Laser TV ของประเทศไทย”