“ชัยวุฒิ” เผย “พ.ร.ก.ปราบอาชญากรรมออนไลน์” ประกาศใช้แล้ว

17 มี.ค. 2566 | 10:23 น.
อัปเดตล่าสุด :17 มี.ค. 2566 | 11:48 น.

“ชัยวุฒิ” เผย “พ.ร.ก.ปราบอาชญากรรมออนไลน์” ประกาศใช้แล้ว แนะผู้เสียหายแจ้งธนาคารระงับบัญชีม้าได้ทันที เตือนคนทำผิดรีบไปยกเลิกบัญชีม้าก่อนเจอโทษหนัก

จากกรณีที่ เว็บไซต์ ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่พระราชกำหนด มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ.2566 ความว่า พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรมีกฎหมายว่าด้วยมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม ทางเทคโนโลยี มีผลบังคับใช้ 17 มี.ค.นี้

 

ล่าสุด นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอีเอส ซึ่งอยู่ระหว่างการประชุม World Summit on the Information Society Forum 2023 นครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ กล่าวว่า ภายหลัง พระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี มีการประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา และจะมีผลบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 17 มี.ค. เป็นต้นไป  ซึ่งกฎหมายฉบับนี้เป็นกฎหมายสำคัญ ที่รัฐบาลผลักดันออกมาเพื่อแก้ไขปัญหาการหลอกลวงทางออนไลน์ และปัญหาอาชกรรมทางออนไลน์ทั้งหมด คาดว่าปัญหาจะลดลงอย่างแน่นอน

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์

โดยหลังจากนี้ หากประชาชนถูกหลอกลวงทางออนไลน์ ขอให้รีบแจ้งไปที่ธนาคารโดยตรง เพื่อที่ธนาคารจะได้ระงับบัญชีไม่ให้เงินถูกโอนออกไปเป็นทอดๆ ซึ่งธนาคารจะมีอำนาจระงับบัญชีต้องสงสัยได้ทันที จากเดิมต้องรอไปแจ้งความก่อนถึงจะระงับบัญชีได้

ส่วนบัญชีม้า และเบอร์มือถือม้า ที่รับจ้างเปิดให้คนร้ายนำไปใช้หลอกลวงประชาชน จากนี้จะมีความผิดทางกฎหมาย โดยมีโทษจำคุก3 ปี ปรับ3 แสนบาท  ดังนั้นประชาชนที่กำลังทำความผิดให้ไปแจ้งยกเลิกบัญชีผิดกฎหมายเหล่านี้โดยด่วน เพราะถือว่ามีความผิดตามกฎหมายนี้ ถือว่าได้ไม่คุ้มเสีย เพราะรับจ้างได้เงินเพียง 500 - 2,000 บาท แต่ต้องมาโดนปรับหนักถึง 300,000 บาท และจำคุกอีก 3ปี  โดยทั้งหมดนี้เป็นเพียงมาตรการขั้นต้น ซึ่งสัปดาห์หน้า นายกรัฐมนตรี จะมีคณะกรรมการขึ้นมากำหนดมาตรการแก้ไขปัญหาต่างๆ เพิ่มเติม ให้ครอบคลุมความเดือดร้อนของประชาชนอย่างเร่งด่วนด้วย