นายพงศ์วุฒิ ไพรไพศาลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มัลติเวิร์ส เอ็กเปอร์ท จำกัด (Multiverse Expert : MEX) สตาร์ทอัพ ผู้พัฒนาเทคโนโลยี เมตาเวิร์ส (Metaverse) และบล็อกเชน เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่าขณะนี้ Power-All Networks ผู้ให้บริการศูนย์ข้อมูลดาต้าเซ็นเตอร์ในจีน บริษัทลูกของกลุ่ม Foxconn โรงงานผู้ผลิตไอโฟนให้กับแอปเปิ้ล ได้เข้ามาร่วมลงทุนในบริษัทเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยจะเข้ามาถือสัดส่วนหุ้น 10% คิดเป็นมูลค่าการลงทุนราว 120 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ หรือ ประมาณ 4,300 ล้านบาท
โดยการลงทุนของ Power-All Networks จะแบ่งเป็นเฟสๆ เฟสแรกที่ดำเนินการไปแล้ว คือ ขยายทีมงาน เพื่อรองรับการขยายตัวของปริมาณลูกค้าที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังได้ดำเนินการจัดทำเวิร์กช้อปร่วมกันเพื่อวางกลยุทธ์การขยายตลาดในประเทศจีน ตั้งแต่การเปิดตัวผลิตภัณฑ์และแผนการตลาด โดยผลิตภัณฑ์และบริการที่ทำตลาดในจีนจะอยู่ในรูปแบบบริการแพลตฟอร์ม Metaverse as a Service ซึ่งเป็นเมตาเวิร์สสำเร็จรูป ที่สามารถเลือกรูปแบบ ฟีเจอร์ ฟังก์ชันที่ต้องการ โดยมีเครื่องมือ หรือ เอ็นจิ้น ทั้งวิดีโอสตรีมมิ่ง วิดีโอคอลล์ เกม 3D โมเดล อีคอมเมิร์ซ และระบบการสื่อสาร ข้อดีคือสามารถขึ้นเวิร์ส ให้กับลูกค้าได้รวดเร็ว และตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า
“เฟสต่อไปหลังจากนี้จะเริ่มเข้าไปในตลาดจีน ร่วมกับบริษัทนักพัฒนาไทย 3-4 ราย เข้ามาช่วยในการติดตั้ง และปรับแต่งให้เข้ากับความต้องการลูกค้า โดยตลาดจีนใหญ่มาก ซึ่งเราทำคนเดียวไม่ไหว เราเชื่อในโมเดลพาร์ทเนอร์ ซึ่งพาร์ทเนอร์รายใด สามารถให้บริการลูกค้าได้มาก ก็ได้ผลตอบแทนมากตามไปด้วย”
สำหรับกลยุทธ์ที่วางไว้นั้นจะทำตลาดร่วมไปกับบริการดาต้าเซ็นเตอร์ ของ Power-All Networks ที่มีความต้องการสร้างเมตาเวิร์สของตัวเองขึ้นมา โดยจะเปิดให้ลูกค้า Power-All Networks ได้ทดลองใช้ฟรี 2-3 เดือนก่อน คาดว่าภายในปีนี้จะมีลูกค้าในจีนราว 1,000 ราย เป้าหมายแรกคือ บริษัทในกลุ่ม Foxconn ที่มีอยู่กว่า 100 แห่งในจีน ซึ่งอาจมีแคมเปญพิเศษ หรือสิทธิประโยชน์ในบริการ หรือการพัฒนาเพิ่มเติม และคาดว่าในปีนี้มีเวิร์สที่แอคทีฟ 200-300 เวิร์ส ส่วนที่เหลือจะมีการพัฒนาต่อเนื่อง
นายพงศ์วุฒิ กล่าวต่อไปอีกว่าในปีนี้ยังวางแผนขยายผลิตภัณฑ์ และบริการไปยังตลาดโลก ผ่านเครือข่ายของกลุ่ม Foxconn ที่มีทั่วโลกด้วย นอกจากนี้ยังได้ร่วมมือกับกลุ่ม Foxconn จัดทำโครงการบ่มเพาะธุรกิจชื่อ “Multiverse Project Accelerator” เปิดโอกาสสตาร์ทอัพไทย เข้าร่วมโครงการ เพื่อขยายธุรกิจและการเข้าถึงกลุ่มทุนในต่างประเทศระดับโลกได้
ทั้งนี้ดีลอยท์ บริษัทให้บริการที่ปรึกษาการลงทุนชื่อดังระดับโลก ระบุว่าอุตสาหกรรมเมตาเวิร์สสร้างมูลค่าเศรษฐกิจในทวีปเอเชียปีละ 800,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ถึง 1.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 28.8 ล้านล้านบาท ถึง 50.5 ล้านล้านบาท ไปจนถึงภายในปี 2035 หรืออีก 13 ปีข้างหน้า โดยอุตสาหกรรมเมตาเวิร์สมีสัดส่วนระหว่าง 1.3-2.4% ของจีดีพี แต่ทั้งหมดจะเป็นไปได้ล้วนขึ้นอยู่กับการลงทุนเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่องในช่วงตั้งแต่ 5-10 ปีคู่ขนานจากนี้ไป
ในทวีปเอเชีย จะพบว่า มี 5 ประเทศยักษ์ใหญ่ที่มีเศรษฐกิจซึ่งจะได้รับผลประโยชน์จากการเกิดขึ้นของอุตสาหกรรมเมตาเวิร์สภายในปี 2035 ได้แก่ อันดับ 1 จีนแผ่นดินใหญ่ 456,000-852,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 16.4-30.7 ล้านล้านบาท อันดับ 2 ญี่ปุ่น 87,000-165,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 3.13-5.94 ล้านล้านบาท อันดับ 3 อินเดีย 79,000-148,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 2.84-5.33 ล้านล้านบาท อันดับ 4 เกาหลีใต้ 36,000-67,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1.3-2.41 ล้านล้านบาท และอันดับ 5 อินโดนีเซีย 28,000-52,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ ประมาณ 1.01-1.87 ล้านล้านบาท