นายธนพล เอี่ยมสกุล ก่อตั้งและดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดิจิท โซล จำกัด (Digit Soul) เปิดเผยว่า ดิจิท โซล ได้ดำเนินการร่วมกับศูนย์ทดสอบทางวิชาการแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (CU-TEP) ภายใต้โครงการพัฒนาการแสดงผลการสอบและการตรวจสอบผลคะแนนทดสอบทางวิชาการโดยใช้เทคโนโลยี Blockchain ที่มีความปลอดภัย ง่ายต่อการตรวจสอบ และเป็นมิติใหม่ของวงการการศึกษาไทย พร้อมผลักดัน Blockchain Innovation ในงานเอกสารของสถาบันการศึกษาแบบองค์รวม สู่ใบปริญญา NFT (NFT Certificate) ที่ตรวจสอบได้
"การดำเนินการร่วมกันดังกล่าวโดยใช้เทคโนโลีบล็อคเชนซึ่งพัฒนาโดย Digit Soul มาปรับใช้ จะสร้างความปลอดภัย หมดปัญหาการปลอมแปลงแก้ไข มีความน่าเชื่อถือ ง่ายต่อการตรวจสอบ และเป็นมิติใหม่ของวงการศึกษาไทย"
สำหรับเทคโนโลยีบล็อกเชน หากจะกล่าวให้เข้าใจโดยง่ายก็คือ การทำธุรกรรมด้านดิจิทัลอะไรก็ตาม ระบบบล็อกเชนจะไม่ได้เก็บข้อมูลลำพังที่ใดที่หนึ่ง เช่น มีเหรียญคริปโต 500 เหรียญ หากจะโอนให้เพื่อน 100 เหรียญ แต่เหรียญคริปโตนั้นไม่มีธนาคารเป็นตัวกลาง ถ้าจะทำธุรกรรม จะต้องประกาศธุรกรรมนี้ให้โลกบล็อกเชนรู้ ต้องมีผู้ที่อยู่ในบล็อกเชนตรวจสอบและอนุมัติทุกคน
หากจะทุจริต ก็ต้องแก้ไขทุกคนในวงบล็อกเชนพร้อมกัน เวลาเดียวกัน ซึ่งโอกาสในการทุจริตแทบจะเป็นไปไม่ได้ นี่คือการ Decentralize ไม่มีตัวกลางเก็บข้อมูลที่ใดที่หนึ่ง การตรวจสอบข้อมูลจึงทำได้ง่ายและโปร่งใสขึ้น
นายธนพล กล่าวอีกว่า ด้วยเทคโนโลยีบล็อกเชน ทำให้ทีมนักพัฒนาของดิจิท โซล ต่อยอดพัฒนาเทคโนโลยีบล็อกเชน สู่การใช้ NFT สร้างรหัสโทเคนขึ้นบนเอกสารดิจิทัลภายในสถาบันการศึกษาอย่างจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ปลอดภัย ตรวจสอบได้เพียงใช้ QR Code ที่บล็อกเชนให้การรับรอง จึงยากต่อการปลอมแปลง
อย่างไรก็ดี ต้องเรียนว่า สถานศึกษาหลายแห่งก็เริ่มเก็บเอกสารผลการศึกษาเป็นไฟล์ดิจิทัลแล้ว ถ้ายังไม่ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนเข้ามาช่วยในการตรวจสอบหรือบันทึกโทเคน (Token) ลงในไฟล์นั้นๆ ผู้ที่ได้รับไฟล์ดิจิทัลต่อมาจะสามารถตัดต่อหรือปลอมแปลงค่าต่างๆ เช่น ผลการสอบหรือเกรดบนทรานสคริปต์ให้ผิดไปจากความจริงอย่างไรก็ได้
แต่เมื่อเอกสารเหล่านั้นอยู่ในระบบบล็อกเชนและทำการติดโทเคน (Token) ให้กับเอกสารแล้ว เมื่อมีการนำไฟล์มาปรับเปลี่ยนนอกระบบ โทเคนนั้นจะถูกตัดออกจากระบบในทันที และเมื่อมีตรวจสอบไฟล์นั้นผ่าน QR Code ก็จะกลายเป็นไฟล์ที่ไม่มีอยู่ในระบบบล็อกเชนของทางมหาวิทยาลัย
นายธนพลกล่าวอีกว่า เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับระบบความปลอดภัยของข้อมูล ดิจิท โซล จึงมีพาร์ตเนอร์ด้านเทคโนโลยีมาร่วมตรวจสอบความปลอดภัยของระบบที่บริษัทฯ พัฒนาขึ้น ผ่านสองบริษัทคือ Cloudsec Asia และ Datafarm มาตรวจสอบอย่างเข้มข้นหลายขั้นตอน พร้อมออกใบรับรอง (Certification) เพิ่มความมั่นใจให้กับลูกค้าของดิจิท โซลทุกคน
ส่วนเป้าหมายต่อไปของดิจิท โซลนั้น ยังให้ความสนใจการพัฒนานวัตกรรมบล็อกเชน (Blockchain Innovation) มาใช้ในแวดวงการเกษตร ด้วยการนำบล็อกเชนมาใช้ร่วมกับสินค้าการเกษตรที่ส่งออกไปขายทั้งในและต่างประเทศ โดยการสร้าง QR Code เพื่อแจ้งข้อมูลให้กับสินค้าว่าผลิตที่ไหน เมื่อไหร่ เวลาใดที่ควรรับประทาน เพื่อสร้างมูลค่าและความน่าเชื่อถือให้กับผู้ผลิต รวมถึงสร้างความมั่นใจให้กับทั้งพ่อค้าคนกลาง ห้างร้าน ไปจนถึงผู้บริโภค