เล็งผุด "นิคมฯเหมืองขุดคริปโต" แห่งแรกในไทย

03 มิ.ย. 2565 | 04:00 น.
2.4 k

"ไมนิ่งโปร" เตรียมผนึกยักษ์พลังงานสะอาด สร้าง นิคมอุตสาหกรรม "เหมืองขุดคริปโตเคอเรนซี่" แห่งแรกในไทยต้นปีหน้า หลังทุ่ม 170 ล้านบาท กำลังขุดสูงสุดย่านบางนา ชี้ตลาดเครื่องขุดโตท่ามกลางภาวะขาลงคริปโต เหตุเครื่องราคาถูกลง 40% นักลงทุนขุดเก็บทำกำไรช่วงขาขึ้น

นายจตุรภุช ตรีเพ็ชร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไมนิ่งโปร จำกัด ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มขุดคริปโต จำหน่ายเครื่องขุดคริปโตเคอเรนซี่ และเหมืองขุดคริปโตรายใหญ่ เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่าบริษัทยังเดินหน้าลงทุนสร้างระบบนิเวศ หรือ อีโคซิสเต็ม ในอุตสาหกรรมขุดคริปโตขึ้นมา ต่อยอดแพลตฟอร์มบริหารจัดการการขุดคริปโตผ่านระบบคลาวด์ หรือ Cloud Mining

เล็งผุด \"นิคมฯเหมืองขุดคริปโต\" แห่งแรกในไทย

 

โดยล่าสุดอยู่ระหว่างการร่วมกับพันธมิตรผู้ให้บริการพลังงานสะอาด สร้างนิคมอุตสาหกรรมเหมืองขุดคริปโตขึ้นมาแห่งแรกในไทย ซึ่งคาดว่าจะสามารถสร้างนิคมอุตสาหกรรมดังกล่าวราวต้นปีหน้า

 

“เฟสแรก ได้ใช้งบประมาณกว่า 170 ล้านบาท สร้างเหมืองขุดคริปโตที่มีกำลังขุดสูงสุดในประเทศไทยขึ้นบนพื้นที่กว่า 3,000 ตารางเมตร ย่านบางนา ทั้งนี้เพื่อเป็นจุดแสดงให้เห็นประสิทธิภาพการการทำงานของเครื่องขุดคริปโต Bitmain ซึ่งเครื่องขุดบิตคอยน์ ระดับโลกจากประเทศจีน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน”

เล็งผุด \"นิคมฯเหมืองขุดคริปโต\" แห่งแรกในไทย

อย่างไรก็ตาม การขุดคริปโตใช้กำลังไฟฟ้าสูง และต้นทุนค่าไฟของไทยสูง ซึ่งในเฟส 2 เรากำลังคุยกับผู้ให้บริการพลังงานสะอาดเพื่อสร้างนิคมอุตสาหกรรมเหมืองขุดคริปโตแห่งแรกขึ้นมาในไทย และเปิดกว้างให้กับพันธมิตร และคู่แข่งเข้ามาร่วมสร้างอีโคซิสเต็มอุตสาหกรรมขุดคริปโตขึ้นมาในไทย เพื่อผลักดันเศรษฐกิจและรายได้ให้กับประเทศ

 

โดยเป้าหมายของบริษัท คือ ทำให้การขุดคริปโตเป็นเรื่องง่าย สะดวก และปลอดภัย รวมถึงให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่ากับนักลงทุน โดยไมนิ่งโปร ได้พัฒนา Cloud Mining ที่ช่วยให้นักลงทุนสามารถบริหารจัดการบนระบบคลาวด์ด้วยสมาร์ทโฟนเพียงเครื่องเดียว นอกจากนี้ยังการนำเทคโนโลยีบอท หรือหุ่นยนต์มาช่วยในการจัดการบริหารพอร์ตการลงทุนให้เติบโตขึ้น ทั้งเทรดแบบฟิวเจอร์ และแบบสปอต ช่วยให้นักลงทุนสามารถนำเหรียญไปต่อยอดและทำกำไรได้ และยังนำเทคโนโลยี IoT ตรวจจับอุณหภูมิตรวจจับความผิดปกติของอุณหภูมิพร้อมกล้องตรวจจับความร้อน รวมถึง AI ในการวิเคราะห์ดูแลรักษาเครื่อง

 

นอกจากนี้ ไมนิ่งโปร ยังต้องการสร้างแบรนด์ให้เข้าถึงกลุ่มคนทุกเพศทุกวัยทุกอาชีพ โดยเป็นตัวเลือกแรกเมื่อคิดถึงการลงทุนและการขุดคริปโต ขณะเดียวกันต้องการผลักดันให้เกิดความนิยมในการขุดคริปโตเพื่อสร้างโอกาสให้คนไทยพร้อมเข้าสู่โลกการเงินดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมุ่งผลักดันให้ ไมนิ่งโปร เป็นเหมืองขุดคริปโตที่ล้ำสมัยและใหญ่ที่สุดในอาเซียน พร้อมขยายเหมืองขุดบิตคอยน์ไปยังต่างประเทศ

นายจตุรภุช กล่าวต่อไปว่า แม้ว่าขณะนี้สถานการณ์คริปโตทั่วโลกจะมีความผันผวน แต่นักลงทุนยังเชื่อมั่นในคริปโต และบล็อกเชน ที่เป็นที่ยอมรับทั่วโลก โดยยังมีกลุ่มนักลงทุน ที่เข้ามาลงทุนซื้อเครื่องขุดคริปโต และสร้างเหมืองคริปโต ในช่วงขาลง เพื่อเก็บไว้ทำกำไรในช่วงคริปโตขาขึ้น โดยราคาเครื่องขุดคริปโตนั้นแปรผันไปตามราคาของคริปโต ซึ่งในช่วงขาลงนั้นทำให้ขณะนี้ราคาเครื่องขุดคริปโตลดลงมา 40% จากต้นปีราคาเครื่องละ 4 แสนบาท ตอนนี้เหลือ 2.5-3 แสนบาท เช่นเดียวกับผลตอบแทนการลงทุน นั้นขึ้นอยู่กับราคาของคริปโต และการบริหารจัดการการขุดเหรียญ รวมถึงการบริหารพอร์ตการลงทุน อย่างไรก็ตามโดยเฉลี่ยจะมีระยะเวลาคืนทุนอยู่ที่ 40-45 เดือน

 

นอกจากนี้ยังเห็นนักลงทุนจากต่างประเทศ เข้ามาลงทุนเหมืองขุดคริปโตในไทย โดยที่เห็นมากสุดขณะนี้สปป.ลาว ที่มีค่าไลเซ่นส์เหมืองขุดแพง นอกจากนี้ยังมีจีน ที่รัฐบาลห้ามทำเหมืองขุดคริปโต เวียดนาม ฮ่องกง รัสเซีย ล่าสุด คือ สิงคโปร์ ที่เริ่มเข้ามาลงทุนทำเหมืองขุดคริปโตในไทย

 

นายจตุรภุช กล่าวต่ออีกว่า ในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้จากการจำหน่ายและให้เช่ากำลังขุดบิตคอยน์และคริปโตรวมกว่า 200 ล้านบาท และคาดว่าในปีนี้บริษัทฯ จะมีรายได้แตะ 1,000 ล้านบาท