พิษเชื้อโควิด-19 ดันยอดเน็ตบ้าน เอไอเอส พุ่งกว่า70%

01 ม.ค. 2564 | 17:12 น.

พิษเชื้อโควิด-19 ธุรกิจสื่อสารได้อานิสงห์ "เอไอเอส" เผยรูปแบบการสื่อสารคนไทยช่วงปีใหม่ ลดเดินทาง ดันเน็ตบ้าน เติบโตพุ่งกว่า 70%

1 มกราคม 2564 นายปรัธนา ลีลพนัง หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าทั่วไป บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส เปิดเผยถึงรูปแบบการใช้งานบนเครือข่ายของลูกค้าเอไอเอสในช่วงเทศกาลส่งความสุข ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ตั้งแต่วันที่ 25 ธันวาคม 2563 ถึงวันที่ 1 มกราคม 2564 ที่ผ่านมา พบว่า ประชาชนมีการเดินทางออกต่างจังหวัดน้อยลง กว่า 30% เนื่องจากการเฝ้าระวังสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 และหันมาใช้ดาต้าจากเน็ตบ้าน เพื่อสื่อสาร ส่งความสุข , รับชมความบันเทิง , ช็อปปิ้ง Online ตลอดจนทำงานแบบ Work From Home หรือ Work From Anywhere มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทั้งนี้พบว่าเป็นการใช้งานดาต้าบน Wifi ของเน็ตบ้าน ที่เพิ่มมากถึงกว่า 70% บนโซเชียลยอดนิยมอย่าง Facebook ที่มี Feature ตอบโจทย์ครบถ้วน ทั้ง LIVE และ VDO รวมถึงยังพบว่ามีการเข้าชม Content ประเภท VDO สูงสุด เนื่องจากในปีนี้หลายแห่งงดการจัดกิจกรรมเคาท์ดาวน์และเปลี่ยนรูปแบบให้สามารถรับประสบการณ์ที่หลากหลายได้มากขึ้น ตั้งแต่ 4K, VR และ AR ผ่านทาง Device ทุกรูปแบบ โดยในส่วนของเอไอเอสเอง พบว่า การจัดงานคอนเสิร์ตรูปแบบ Virtual Reality (VR)  ในงาน AIS 5G The Future of Virtual Celebration 2021 ช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ที่ผ่านมา ถือว่าได้รับการตอบรับอย่างดียิ่ง มียอดผู้เข้าชมผ่านทุกช่องทาง ทั้งแบบ 360° บนแอปพลิเคชัน AIS 5G PLAY VR, AIS PLAY, กล่อง AIS PLAY BOX  ตั้งแต่ 18.00 น. พร้อมรับชมผ่านช่อง 3 HD แบบไม่มีโฆษณาคั่น ตั้งแต่เวลา 22.20 น. เป็นต้นไป มากกว่า 5 ล้านคน ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของเมืองไทยที่ผู้ชมสามารถดื่มด่ำบรรยากาศคืนข้ามปีได้ทั้งบนแพลตฟอร์มออนไลน์แบบเสมือนจริงผ่านหน้าจอสมาร์ทโฟนและโทรทัศน์ที่บ้านไปด้วยกัน ตอกย้ำการยกระดับประสบการณ์เพื่อคนไทยจากเน็ตบ้านอย่าง AIS Fibre และ AIS 5G อย่างชัดเจน
 

    ทั้งนี้ ตลอดปี 2563 การใช้งานดิจิทัลเติบโตอย่างยิ่ง โดยมีปริมาณการใช้งานดาต้าของลูกค้าเฉลี่ยเพิ่มขึ้นเป็น 17.2 กิกะไบต์ต่อเดือน ส่วนเน็ตบ้าน เอไอเอส ไฟเบอร์ ในไตรมาส 3 มีฐานลูกค้ารวม 1.26 ล้านราย เพิ่มขึ้น 4.4% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า และถือว่าเติบโตแกร่งเหนือตลาดซึ่งโตเพียง 1.2%