thansettakij
ยอดใช้ BEV ในไทยพุ่ง ยอดจองป้ายแดง 2 เดือนแรก 2.2 หมื่นคัน
environment

ยอดใช้ BEV ในไทยพุ่ง ยอดจองป้ายแดง 2 เดือนแรก 2.2 หมื่นคัน

    สภาอุตฯ เผยประชาชนแห่ใช้รถยนต์ไฟฟ้า BEV พุ่ง ยอดสะสมจดทะเบียนกว่า 2.49 แสนคัน ขณะที่ยอดรถยนต์ BEV ป้ายแดง ช่วง ม.ค.-ก.พ.68 มีจำนวน 22,086 คัน

นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ ที่ปรึกษาประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันประชาชนหันมาให้ความสนใจใช้ยานยนต์ไฟฟ้า (BEV) เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากมีความประหยัด และได้รับการอุดหนุนจากภาครัฐ ประกอบกับยังช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

เห็นได้จาก จำนวนยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท BEV ณ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 มีจำนวนทั้งสิ้น 249,335 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 61.88% โดยเป็นประเภทรถยนต์นั่งและรถยนต์ประเภทต่าง ๆ มีทั้งสิ้น 176,747 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 65.33%

เป็นรถยนต์นั่งมีจำนวน 173,292 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 64.02 % รถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คนมีจำนวน 2,614 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 186.31% รถยนต์บริการธุรกิจมีจำนวน 89 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 58.93% รถยนต์บริการทัศนาจรมีจำนวน 171 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 159.09% รถยนต์บริการให้เช่ามีจำนวน 3 คัน ซึ่งในช่วงเดียวกันไม่มีการจดทะเบียน

ยอดใช้ BEV ในไทยพุ่ง ยอดจองป้ายแดง 2 เดือนแรก 2.2 หมื่นคัน

รถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์มีจำนวน 578 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 160.36 % รถกระบะและรถแวนมีจำนวน 933 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 128.68% รถยนต์ 3 ล้อมีจำนวนทั้งสิ้น 1,020 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 12.46% รถยนต์สามล้อส่วนบุคคลมีจำนวน 114 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 35.71% และรถยนต์รับจ้างสามล้อมีจำนวน 906 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 11.17%

 ขณะที่รถจักรยานยนต์มีจำนวนทั้งสิ้น 66,890 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 55.63 % รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลมีจำนวน 66,773 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 55.84% รถจักรยานยนต์สาธารณะมีจำนวน 117 คัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 12.03%

ส่วนรถโดยสารมีจำนวนทั้งสิ้น 2,799 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 13.8% และรถบรรทุกมีจำนวนทั้งสิ้น 946 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 156.37%

นายสุรพงษ์ กล่าวอีกว่าสำหรับยานยนต์ประเภทไฟฟ้า (BEV) จดทะเบียนใหม่สะสมเดือนมกราคม -กุมภาพันธ์ 2568 มีจำนวน 22,086 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 0.86% แบ่งเป็นรถยนต์นั่งและรถยนต์ประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 17,558 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 2.06% เป็นรถยนต์นั่งจำนวน 17,426 คันรถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คนจำนวน 119 คัน รถยนต์บริการธุรกิจจำนวน 6 คัน รถยนต์บริการทัศนาจร 7 คัน รถกระบะ รถแวนมีทั้งสิ้น 64 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 49.61% รถยนต์สามล้อมี 2 คัน รถยนต์รับจ้างสามล้อ 2 คัน

ส่วนรถจักรยานยนต์มีทั้งสิ้น 4,403 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวของปีก่อน 9.03% เป็นรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลจำนวน 4,402 คัน รถจักรยานยนต์สาธารณะจำนวน 1 คัน และรถโดยสารมีทั้งสิ้น 10 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 74.36% และรถบรรทุกมีทั้งสิ้น 49 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 24.62%

สำหรับยอดผลิตของรถยนต์นั่ง BEV ตั้งแต่เดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2568 มีจำนวน 3,907 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 174.95% ขณะที่จำนวนรถยนต์โดยรวมที่ผลิตได้ในเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2568 มีจำนวนทั้งสิ้น 222,590 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 19.29%