หัวเว่ย เปิดตัว FusionCharge ใหม่ รุกตลาดพลังงานดิจิทัล

บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จํากัด เดินหน้าขับเคลื่อนเทคโนโลยีการชาร์จพลังงานไฟฟ้าแห่งอนาคต เปิดตัวโซลูชัน FusionCharge ใหม่ ที่ใช้นวัตกรรมการระบายความร้อนด้วยของเหลว (liquid-cooled) เร็วพิเศษ (ultra-fast) ในประเทศไทย ภายในงานมหกรรมพลังงานที่ยั่งยืนแห่งอาเซียน (ASEAN Sustainable Energy Week 2024)

โดยเทคโนโลยีเครื่องจ่ายพลังงานไฟฟ้า หรือ ‘Liquid-cooled Power Unit’ ที่ล้ำสมัยนี้ ไม่เพียงช่วยให้ชาร์จไฟได้เร็วขึ้น แต่ยังโดดเด่นด้วยประสิทธิภาพในการกักเก็บพลังงาน ซึ่งในระยะแรกของการใช้งานจะมุ่งเน้นเพื่อการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าแบบ high-speed ตามสถานีบริการน้ำมันและศูนย์การค้าทั่วประเทศไทย ทำให้การชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าสะดวกและรวดเร็วมากกว่าที่เคย

หลังจากประสบความสำเร็จในการเปิดตัวที่ประเทศจีน การเปิดตัวเทคโนโลยี ‘Liquid-cooled Power Unit’ ที่ล้ำสมัยนี้ในประเทศไทยจึงเป็นอีกก้าวกระโดดที่สำคัญต่อการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีอัจฉริยะของประเทศ ด้วยนวัตกรรมการระบายความร้อนด้วยของเหลว จึงมั่นใจได้ถึงประสิทธิภาพที่เหนือกว่า ชุดจ่ายไฟฟ้ามีกำลังไฟฟ้าสูงสุดถึง 720 กิโลวัตต์ และกระแสไฟชาร์จต่อหัวชาร์จสูงสุด 500 แอมป์ โดดเด่นด้วยการทำงานที่เงียบกว่าเดิมและอายุการใช้งานยาวนานถึง 10 ปี 

นอกจากนี้ยังมาพร้อมระบบกระจายกำลังไฟฟ้าอัจฉริยะที่ช่วยประหยัดพลังงาน ลดภาระโหลดของระบบไฟฟ้า และเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้พลังงาน ยิ่งไปกว่านั้น ชุดจ่ายไฟฟ้ายังรองรับการเชื่อมต่อกับระบบกักเก็บพลังงาน (ESS) ในอนาคตได้อย่างราบรื่นอีกด้วย จึงเป็นโซลูชันที่เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า นอกจากนี้ หัวเว่ยยังตั้งเป้าที่จะขยายการใช้งานเทคโนโลยีเครื่องจ่ายพลังงานไฟฟ้าอันล้ำสมัยนี้ไปสู่ภาคธุรกิจอื่นๆ รวมถึงเพื่อการใช้งานในภาคครัวเรือนในอนาคตอีกด้วย

นายเผิง เผิง รองประธานกรรมการ ธุรกิจไฟฟ้าอัจฉริยะ หัวเว่ย ดิจิทัล พาวเวอร์ กล่าวว่า “ในฐานะผู้นำด้านเทคโนโลยีพลังงานหมุนเวียนและผู้ออกแบบโซลูชันพลังงานดิจิทัลอัจฉริยะสำหรับภาคธุรกิจและครัวเรือน หัวเว่ยมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เปิดตัวโซลูชันเทคโนโลยีจ่ายพลังงานไฟฟ้าแบบเร็วพิเศษที่ใช้นวัตกรรมการระบายความร้อนด้วยของเหลวเครื่องนี้ในประเทศไทย

ซึ่งเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของการขับเคลื่อนการใช้โซลูชันพลังงานสะอาดและการชาร์จพลังงานแบบอัจฉริยะที่มีความคุ้มค่าในประเทศไทย ขณะที่ทั่วโลกกำลังมีความต้องการเทคโนโลยีการชาร์จไฟฟ้าแบบเร็วพิเศษเพิ่มมากขึ้น เทคโนโลยีเครื่องจ่ายพลังงานไฟฟ้าที่ติดตั้งระบบระบายความร้อนด้วยของเหลวของเราให้ประสิทธิภาพที่เหนือกว่าโซลูชันที่มีอยู่ในปัจจุบัน อีกทั้งสามารถปลดล็อคปัญหาสำคัญของผู้ใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าในด้านความรวดเร็วและความสะดวกสบายในการชาร์จ เทคโนโลยีการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าของหัวเว่ยจึงไม่เพียงเร็วที่สุดในตลาดเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของเราในการเดินหน้าส่งมอบโซลูชันพลังงานดิจิทัลอัจฉริยะเพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านไปสู่พลังงานสะอาด ซึ่งสอดคล้องกับภารกิจของเราในการสนับสนุนประเทศไทยในการบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืน”       

ข้อได้เปรียบ 4 ด้าน ของเครื่องจ่ายพลังงานไฟฟ้า ‘Liquid-cooled Power Unit’ ประกอบด้วย  

1.   ประสิทธิภาพการชาร์จที่ดียิ่งขึ้น: ระบบการจัดสรรพลังงานที่ได้รับการปรับปรุงและระบบสำรองพลังงานแบบสองชั้นช่วยให้เครื่องทำงานได้ประสิทธิภาพสูงขึ้น (สูงสุด 95.5%) ทั้งยังช่วยจัดสรรพลังงานได้อย่างชาญฉลาดมากขึ้น

2.    คุณภาพที่เหนือกว่า: ระบบระบายความร้อนด้วยของเหลวเต็มรูปแบบและการออกแบบที่แยกการจัดเก็บไฟฟ้า ช่วยยืดอายุการใช้งานเครื่องได้ยาวนานถึง 10 ปี

3.   สถาปัตยกรรมที่ยืดหยุ่น: การออกแบบโมดูลแบบแยกส่วน ความสามารถในการปรับเพิ่มพลังงาน และการกำหนดหัวจ่ายได้หลายแบบ ทำให้ง่ายต่อการปรับปรุงและอัปเกรดต่างๆ ในอนาคต ทั้งยังสามารถรองรับการติดตั้งและใช้งานได้ในหลากหลายรูปแบบและสถานการณ์  

4.   ประสบการณ์ที่ดีกว่า: สามารถชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าได้เร็วเป็นพิเศษ ด้วยกำลังไฟสูงสุด 720 กิโลวัตต์ โดยสามารถชาร์จได้ระยะทาง 200 กิโลเมตร ภายใน 5 นาที ขณะเดียวกัน ด้วยดีไซน์การออกแบบที่เป็นอัจฉริยะ ระดับความดังของเสียงในระหว่างการใช้งานค่อนข้างเงียบ น้อยกว่า 55 เดซิเบล ที่อุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียส

ปัจจุบัน หัวเว่ยร่วมกับพันธมิตร วางแผนผลักดันการสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านการชาร์จพลังงานไฟฟ้าให้ครอบคลุมทั่วประเทศเพื่อเป็นการสนับสนุนแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืนและการเปลี่ยนผ่านสู่เทคโนโลยีดิจิทัลของประเทศไทย สำหรับในอนาคต หัวเว่ยตั้งเป้าที่จะขยายการใช้งานเทคโนโลยีล้ำสมัยนี้ให้ครอบคลุมทั้งในภาคธุรกิจและครัวเรือนทั่วไป โดยการต่อยอดจากเทคโนโลยี FusionSolar ของหัวเว่ย ซึ่งรวมไปถึงโซลูชันการจัดเก็บพลังงานในครัวเรือน หัวเว่ยพร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนระบบนิเวศด้านการชาร์จพลังงานไฟฟ้าอัจฉริยะที่ยั่งยืน พร้อมตั้งเป้าสนับสนุนชาวไทย 60,000 ครัวเรือน ภายในปี 2568 นี้