"พลังงาน" เล็งใช้อินโดนีเซีย-มาเลเซียต้นแบบกำหนด "ราคาน้ำมัน" ในประเทศ

06 มี.ค. 2567 | 14:22 น.
อัปเดตล่าสุด :06 มี.ค. 2567 | 14:22 น.

"พลังงาน" เล็งใช้อินโดนีเซีย-มาเลเซียต้นแบบกำหนด "ราคาน้ำมัน" ในประเทศ พร้อมศึกษาการนำเข้า ส่งออกสัดส่วนการใช้และการจัดเก็บสำรอง รวมไปถึงวิธีการบริหารจัดการการหมุนเวียน LPG ญี่ปุ่นเชิงลึก

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการจัดตั้งระบบสำรองน้ำมันและก๊าซเพื่อความมั่นคงทางยุทธศาสตร์และระบบรักษาระดับราคาน้ำมันเชื้อเพลิงและก๊าซ ครั้งที่ 6/2567 ว่า มีการพิจารณาประเด็นสำคัญในการวางรูปแบบการสำรองน้ำมันทางยุทธศาสตร์ (SPR) เพื่อความมั่นคงทางยุทธศาสตร์ และรักษาเสถียรภาพทางด้านราคา 

โดยมีการหารือร่วมกันในคณะกรรมการเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ของการปรับเปลี่ยนรูปแบบการสำรองน้ำมันและก๊าซ รวมทั้งเป็นการแก้ปัญหาหนี้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงและที่สำคัญจะเป็นการแก้ไขปัญหาการแบกรับค่าใช้จ่ายด้านราคาพลังงานของประชาชนอีกด้วย
 

นอกจากนี้ ยังมีการศึกษาการจัดซื้อจัดหา การกลั่น การส่งออก และการใช้น้ำมันและก๊าซ การกำหนดราคาขายน้ำมันส่งออกและที่จำหน่ายภายในประเทศของประเทศเพื่อนบ้าน เช่น อินโดนีเซีย และมาเลเซีย เพื่อเปรียบเทียบกับประเทศไทยในปัจจุบัน 

"พลังงาน" เล็งใช้อินโดนีเซีย-มาเลเซียต้นแบบกำหนด "ราคาน้ำมัน" ในประเทศ

อีกทั้ง ยังมีการศึกษา การนำเข้า – ส่งออก สัดส่วนการใช้และการจัดเก็บสำรอง รวมไปถึงวิธีการบริหารจัดการการหมุนเวียน LPG ของญี่ปุ่นในเชิงลึก ตลอดจนการจัดหาน้ำมันดิบ น้ำมันสำเร็จรูป ก๊าซธรรมชาติ

และการเก็บภาษีน้ำมันของสิงคโปร์เพื่อเป็นข้อมูลสนับสนุนการตัดสินใจเลือกรูปแบบการสำรองน้ำมันและก๊าซเพื่อความมั่นคงทางยุทธศาสตร์ รวมถึงเพื่อรักษาเสถียรภาพทางด้านราคาของประเทศ ซึ่งประชาชนเชื่อมั่นและมั่นใจได้ว่าการจัดตั้งระบบการสำรองน้ำมันและก๊าซของประเทศไทยในครั้งนี้ จะมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างแน่นอน โดยจะพิจารณาใช้แนวทางที่ไม่เป็นภาระในการบริหารจัดการน้ำมันของภาครัฐ รวมทั้งไม่กระทบงบประมาณแผ่นดินในภาพรวม 

อย่างไรก็ดี ได้สั่งการให้นายณอคุณ สิทธิพงศ์ ประธานคณะอนุกรรมการบริหารจัดการระบบ และศาสตราจารย์พิเศษ อธึก อัศวานันท์ ประธานคณะอนุกรรมการพิจารณาร่างกฎหมายภายใต้คณะกรรมการดังกล่าวเร่งมือจัดทำรูปแบบการจัดตั้งระบบสำรองน้ำมันและก๊าซให้เหมาะสมกับบ้านไทยและครอบคลุมในทุกมิติทางยุทธศาสตร์ให้มากที่สุด

โดยเตรียมร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องและรับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่าย ให้สามารถจัดตั้งระบบสำรองน้ำมันและก๊าซเพื่อความมั่นคงทางยุทธศาสตร์ และการรักษาระดับราคาที่ยุติธรรมสำหรับประชาชน