"SENA"ดัน 10 โครงการรักษ์โลกปั๊มยอดขายปลายปีกว่า 1.6 หมื่นล้าน

28 พ.ย. 2566 | 13:41 น.
อัปเดตล่าสุด :28 พ.ย. 2566 | 13:41 น.

"SENA"ดัน 10 โครงการรักษ์โลกปั๊มยอดขายปลายปีกว่า 1.6 หมื่นล้าน มุ่งตอบโจทย์ผู้บริโภครักษ์โลก เผยแผนเพิ่มศักยภาพทำกำไรโครงการปี 67 เน้นกลยุทธ์บริหารจัดการต้นทุน และการเพิ่มมูลค่าการขายบ้านประหยัดพลังงาน

นางสาวอธิกา บุญรอดชู ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานจัดสรรเงินทุนและการลงทุน บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ เสนา (SENA) เปิดเผยว่า ไตรมาส 4/66 บริษัทยังคงมุ่งเน้นการพัฒนาที่พักอาศัยและธุรกิจที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตที่ดีในทุกช่วงอายุ รวมถึงสนับสนุน Decarbonized Lifestyle หรือการใช้ชีวิตแบบ Low Carbon โดยเฉพาะเรื่องประหยัดพลังงาน โดยมีเป้าหมายนำเสนอ 10 โครงการ คิดเป็นมูลค่าขาย 16,506 ล้านบาท

ทั้งนี้ บริษัทจะดำเนินการ่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจฮันคิว ฮันชิน คอร์ปอเรชั่น ในการพัฒนาแนวคิดบ้านพลังงานเป็นศูนย์ และคอนโด Low-Carbon โดยล่าสุดได้สนับสนุนแนวคิดสภาวะน่าสบาย กับพานาโซนิค และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รวมถึงความร่วมมือกับ Zeroboard แพลตฟอร์มตรวจวัดปริมาณคาร์บอน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพแนวคิดบ้านพลังงานเป็นศูนย์ ที่ถือว่าเป็นข้อได้เปรียบ 

และจะเป็นส่วนสำคัญในการเพิ่มยอดขายและรายได้ให้กับบริษัท ขณะที่บริษัท เซ็น เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ Sen X ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์และบริการด้านการอยู่อาศัยครบวงจร มีความสามารถทำกำไรเพิ่มขึ้น 

"บริษัทมีแผนเพิ่มศักยภาพการทำกำไรของโครงการในปี 67 เพิ่มขึ้น ด้วยกลยุทธ์บริหารจัดการต้นทุน และการเพิ่มมูลค่าการขายภายใต้แคมเปญบ้านประหยัดพลังงาน ที่สามารถลดค่าไฟฟ้าในระยะยาวให้กับลูกค้า สะท้อนได้จากภาพรวมของการทำกำไรขั้นต้นในรอบ 9 เดือนที่ผ่านมา เพิ่มขึ้น 823 ล้านบาท หรือคิดเป็น 66% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

"SENA"ดัน 10 โครงการรักษ์โลกปั๊มยอดขายปลายปีกว่า 1.6 หมื่นล้าน

ส่วนของธุรกิจโซลาร์ ที่ผ่านมามีงานรับจ้างติดตั้งแผงโซลาร์ให้กับห้างสรรพสินค้าและโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ จำนวน 10 แห่ง ทำให้มีรายได้และกำไรเพิ่มขึ้น โดยรายได้งวด 9 เดือน เพิ่มขึ้น 99 ล้าน บาท หรือ 329% 

นอกจากนี้ยังเตรียมลงทุนในธุรกิจปลูกป่า เพื่อสร้างคาร์บอนเครดิต (SENA Reforestation) ที่จะเริ่มในช่วงต้นปีหน้า โดยอยู่ระหว่างศึกษา ซึ่งถือเป็นธุรกิจในเมกะเทรนด์ที่น่าสนใจลงทุนเพื่อต่อยอดธุรกิจ

ขณะที่กลุ่มธุรกิจการเงิน หรือเงินสดใจดีซึ่งเป็นธุรกิจการเงินที่เกี่ยวข้องกับที่อยู่อาศัย ยังคงเดินหน้าให้บริการคำแนะนำเรื่องการขอวงเงินกู้ ด้วยบริการสินเชื่อและให้บริการเช่าซื้อ สำหรับลูกค้าที่ซื้ออสังหาฯ กับกลุ่มบริษัทเสนา โดยการมีธุรกิจด้านการเงินสามารถเกื้อหนุนให้กับธุรกิจหลักด้านอสังหาฯ ซึ่งถือเป็นจุดแข็งที่จะแข่งขันในตลาดอสังหาฯ ได้ดีในช่วงเวลานี้
 

“ภาพรวมตลาดอสังหาฯ ของไทย ยังคงมีการแข่งขันที่รุนแรงและต่อเนื่อง โดยมองว่าบ้านพลังงานเป็นศูนย์ และ คอนโด Low-Carbon จะตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ที่มีความใส่ใจ และต้องการสินค้ารักษ์โลกเพิ่มขึ้น นอกจากจะช่วยดูแลรักษาโลกแล้ว ยังช่วยผู้อยู่อาศัยในระยะยาวโดยเฉพาะเรื่องการใช้พลังงาน และข้อได้เปรียบนี้จะเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยของเสนาเพิ่มขึ้น” 

นางสาวอธิกา กล่าวอีกว่า ผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรกปี 2566 (ม.ค.-ก.ย.66) กลุ่มบริษัทเสนามีรายได้รวมจากการโอนกรรมสิทธิ์อสังหาฯ และรายได้อื่นของโครงการภายใต้กิจการร่วมค้าอยู่ที่ 7,366 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,014 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 38% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้มีกำไรสุทธิ 556 ล้านบาท หรือ คิดเป็น 8.58% ของรายได้รวม

กำไรสุทธิ 9 เดือนแรกปีนี้ หากเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อยู่ที่ 830 ล้านบาท ถือว่าปรับลดลงจำนวน 274 ล้านบาท แต่ปี 2565 ช่วง 9 เดือนแรกนั้นมีรายได้อื่นๆ ที่ไม่ได้เกิดจากการดำเนินธุรกิจหลัก 442 ล้านบาท หากนำส่วนนี้มาหักออกจากกำไรสุทธิจะทำให้เห็นว่าในปี 2565 มีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติเหลือเพียง 388 ล้านบาท และเมื่อเทียบกับกำไรสุทธิในงวด 9 เดือนของปี 2566 บริษัทมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 168 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น 43%