กฟผ. ยืดหนี้ เก็บเอฟทีค่าไฟ งวด ก.ย.-ธ.ค.ลดลง 25 สตางค์

29 ก.ค. 2566 | 12:58 น.
อัปเดตล่าสุด :29 ก.ค. 2566 | 16:56 น.

กกพ.ไฟเขียวลดค่าไฟงวด ก.ย.-ธ.ค.66 ลง 0.25 บาทต่อหน่วย หลังเปิดรับฟังความเห็น เสียงส่วนใหญ่ รับข้อเสนอ กฟผ.ให้ยืดหนี้ชำระค่าเอฟที ออกไปเป็น 5 งวด ส่งผลค่าไฟฟ้าเรียกเก็บเฉลี่ย 4.45 บาทต่อหน่วย

นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) ในฐานะโฆษกคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการกากับกิจการพลังงาน (กกพ.) ในการประชุม ครั้งที่ 34/2566 (ครั้งที่ 862) เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2566 มีมติรับทราบผลเสียงส่วนใหญ่จากการรับฟังความคิดเห็นค่าเอฟที และได้พิจารณากรณีศึกษาการปรับค่าเอฟทีขายปลีก สำหรับเรียกเก็บในงวดเดือนกันยายน- ธันวาคม 2566 โดยมีมติเห็นชอบค่าเอฟทีเรียกเก็บจำนวน 66.89 สตางค์ต่อหน่วย (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

ส่งผลให้ค่าไฟฟ้าเฉลี่ยปรับลดลงจากงวดปัจจุบัน (พฤษภาคม-สิงหาคม 2566) จาก 4.70 บาทต่อหน่วย เหลืออยู่ที่ 4.45 บาทต่อหน่วย และให้มีผลตั้งแต่รอบบิลเดือนกันยายน 2566 ซึ่งการพิจารณาดังกล่าว กกพ.ยึดประโยชน์ของประเทศ รวมถึงสภาพการแข่งขันและความสามารถในการให้บริการของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และการรักษาเสถียรภาพความมั่นคงการให้บริการระยะยาว

กฟผ. ยืดหนี้ เก็บเอฟทีค่าไฟ งวด ก.ย.-ธ.ค.ลดลง 25 สตางค์

ทั้งนี้ ในการประชุมกกพ.ที่ผ่านมาได้มีมติเห็นชอบผลการคำนวณค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (Ft) งวดเดือนกันยายน-ธันวาคม 2566 ออกเป็น 3 กรณี และได้เปิดรับฟังความเห็นประชาชนระหว่างวันที่ 7-21 ก.ค. 2566 โดยกรณีแรก จ่ายคืนหนี้ที่กฟผ.แบกรับทั้งหมด จะทำให้ค่า Ft อยู่ที่ 249.81 สตางค์ต่อหน่วย (2.50 บาทต่อหน่วย) รวมกับค่าไฟฟ้าฐานที่ 3.78 บาทต่อหน่วย ทำให้ค่าไฟฟ้า (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ปรับเพิ่มขึ้นเป็น 6.28 บาทต่อหน่วย โดยค่า Ft 2.50 บาทต่อหน่วย เกิดจากค่า Ft ที่แท้จริงเดือนกันยายน-ธันวาคม 2566 จำนวน 28.58 สตางค์ต่อหน่วย และการชำระหนี้ กฟผ.ทั้งหมด ที่ กฟผ. กู้มาเพื่อตรึงค่าไฟฟ้าตั้งแต่เดือนกันยายน 2564-เมษายน 2566 คิดเป็นเงินจำนวน 135,297 ล้านบาท

กรณีที่ 2 ตรึงค่า Ft เท่างวดเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม 2566 โดย ค่า Ft จะอยู่ที่ 91.19 สตางค์ต่อหน่วย รวมกับค่าไฟฟ้าฐาน 3.78 บาทต่อหน่วย ทำให้ค่าไฟฟ้า (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) คงเดิมที่ 4.70 บาทต่อหน่วย โดยค่า Ft 91.19 สตางค์ต่อหน่วย เกิดจากค่า Ft ที่แท้จริงเดือนกันยายน-ธันวาคม 2566 จำนวน 28.58 สตางค์ต่อหน่วย และการทยอยชำระหนี้คืนกฟผ. จำนวน 38,291 ล้านบาท (ประมาณ 3 งวด) เพื่อลดภาระดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มปรับสูงขึ้น โดยคาดว่าสิ้นเดือนธันวาคม 2566 ประชาชนยังเหลือหนี้ที่ต้องชำระคืนให้กฟผ. 97,006 ล้านบาท

กรณีที่ 3 กฟผ.เสนอจ่ายคืนภาระต้นทุนคงค้างใน 5 งวด ทำให้ค่า Ft ลดลงอยู่ที่ 66.89 สตางค์ต่อหน่วย เมื่อรวมกับค่าไฟฟ้าฐาน 3.78 บาทต่อหน่วย จะทำให้ค่าไฟฟ้าโดยรวมปรับลดลงจากงวดพฤษภาคม-สิงหาคม 2566 มาอยู่ที่ 4.45 บาทต่อหน่วย โดยค่า Ft 66.89 สตางค์ดังกล่าว เกิดจากค่า Ft ที่แท้จริงเดือนกันยายน-ธันวาคม 2566 จำนวน 28.58 สตางค์ต่อหน่วย และการทยอยชำระหนี้ของ กฟผ. ที่แบ่งเป็น 5 งวด ๆ ละ 23,428 ล้านบาท โดยคาดว่าสิ้นเดือนธันวาคม 2566 ประชาชนยังเหลือหนี้ที่ต้องชำระคืนให้ กฟผ. 111,869 ล้านบาท