การเลือกตั้งประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยคนใหม่ กำลังเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ หลัง “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พ้นจากตำแหน่งตามธรรมนูญ โดยขณะนี้ นายธรรมนูญ หวั่งหลี รองประธานคนที่ 1 ทำหน้าที่รักษาการประธานชั่วคราว
ในรอบการเลือกตั้งครั้งนี้ มี 3 แคนดิเดตเด่นที่กำลังเป็นที่จับตามอง ได้แก่
คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล เป็นนักธุรกิจและนักการศึกษาชาวไทยที่มีบทบาทสำคัญในหลากหลายวงการ ทั้งกีฬา ศิลปวัฒนธรรม และการศึกษา ด้วยตำแหน่งสำคัญหลายตำแหน่ง อาทิ:
ด้านกีฬา
ด้านศิลปวัฒนธรรม
คุณหญิงปัทมาเป็นผู้สร้างความเชื่อมโยงระหว่างกีฬา ศิลปวัฒนธรรม และการบริหารจัดการอย่างมีวิสัยทัศน์ ด้วยความสามารถในการประสานงานและสร้างเครือข่ายทั้งในประเทศและระดับนานาชาติ ทำให้เธอมีบทบาทโดดเด่นในหลากหลายมิติของสังคมไทยและสากล
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ พิมล ศรีวิกรม์ เป็นนักการเมือง นักวิชาการ และผู้บริหารองค์กรกีฬาที่มีบทบาทสำคัญในวงการกีฬาและการเมืองไทย ปัจจุบันดำรงตำแหน่งสำคัญ เช่น นายกสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย รองประธานสหพันธ์เทควันโดโลก กรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ประธานที่ปรึกษานโยบายด้านกีฬา พรรคเพื่อไทย
ด้านธุรกิจ
ด้านการศึกษา
ด้านดนตรี
ผศ.พิมล เป็นบุตรของนายเฉลิมพันธ์ และคุณหญิงศศิมา ศรีวิกรม์ ครอบครัวนักธุรกิจและนักการเมืองที่มีชื่อเสียงในประเทศไทย โดยคุณพ่อเคยเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ก่อนก่อตั้งกลุ่ม “10 มกราฯ” ส่วนคุณแม่เป็นผู้บริหารโรงเรียนศรีวิกรม์ ธุรกิจโรงแรม และอสังหาริมทรัพย์
เขาเริ่มเส้นทางการเมืองจากการทำงานร่วมกับ ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ และได้รับเลือกเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในปี พ.ศ. 2549 ในนามพรรคไทยรักไทย หลังรัฐประหารในปีเดียวกัน เขาถูกตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปี ก่อนกลับมาสู่การเมืองในฐานะที่ปรึกษาด้านกีฬาให้กับพรรคเพื่อไทย
ประสบการณ์สำคัญ
ในฐานะนายกสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย ผศ.พิมลมีบทบาทสำคัญในการพัฒนากีฬาเทควันโดของไทยจนเป็นที่ยอมรับในระดับสากล นอกจากนี้ยังเป็นผู้นำในการเชื่อมโยง Soft Power ผ่านกีฬา เพื่อสร้างชื่อเสียงและความภาคภูมิใจให้กับประเทศ
นายสุชัย พรชัยศักดิ์อุดม เป็นบุคคลที่มีบทบาทสำคัญในวงการกีฬาของประเทศไทยและมีชื่อเสียงในด้านการบริหารองค์กรกีฬา โดยปัจจุบันดำรงตำแหน่ง นายกสมาคมกีฬาลอนเทนนิสแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ พร้อมทั้งมีบทบาทในระดับสากลในการส่งเสริมกีฬาและพัฒนาวงการเทนนิสในประเทศไทยให้มีมาตรฐานระดับโลก
เป็นนักบริหารที่ได้รับการยอมรับในด้านการสร้างเครือข่ายและความสัมพันธ์กับบุคคลสำคัญทั้งในประเทศและต่างประเทศ ด้วยทักษะการประสานงานและการเชื่อมโยงความร่วมมือระหว่างองค์กรกีฬา นักกีฬา และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องต่าง ๆ ทำให้เขาเป็นหนึ่งในแคนดิเดตสำคัญในการดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยในอนาคต
บทบาทในวงการกีฬา
สุชัย มีบทบาทในการส่งเสริมกีฬาเทนนิสในประเทศไทยให้ก้าวหน้า ทั้งในด้านการจัดการแข่งขันระดับชาติและการสนับสนุนนักกีฬาไทยสู่เวทีโลก
แม้มี 3 แคนดิเดตในสนาม แต่ตัวเต็งจริงๆ เหลือเพียง 2 คน ได้แก่ คุณหญิงปัทมาและนายสุชัย โดยคุณหญิงปัทมาได้เปรียบด้านบารมีและการสนับสนุนจากผู้ทรงอิทธิพล ขณะที่นายสุชัยมีจุดเด่นด้านความสามารถในการประสานงานและสร้างเครือข่ายที่แข็งแกร่ง รวมถึงความสัมพันธ์ที่ดีกับอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร และพล.อ.ประวิตร
ขั้นตอนการเลือกตั้งประธานเริ่มจาก 37 สมาคมกีฬาในประเทศไทยเสนอชื่อผู้แทนสมาคมเพื่อรับเลือกเป็นกรรมการบริหารใหม่จำนวน 23 คน ซึ่งจะรวมกับตัวแทนคณะกรรมการโอลิมปิกสากลและตัวแทนนักกีฬาโอลิมปิกชาวไทย รวมเป็น 25 คน
จากนั้นจะมีการเลือก "ผู้ทรงคุณวุฒิ" เพิ่มอีก 10 คน รวมเป็น 35 คนที่มีสิทธิ์ลงคะแนนเลือกประธาน โดยการโหวตจะเป็นแบบลับเพื่อความโปร่งใส
รายงานล่าสุดชี้ว่า นายสุชัยมีคะแนนเสียงนำคู่แข่งในตอนนี้ แต่โค้งสุดท้ายอาจมีการพลิกเกม เนื่องจากการสนับสนุนจากกลุ่มการเมืองและสมาคมกีฬายังเป็นปัจจัยสำคัญ
ตำแหน่งประธานโอลิมปิคแห่งประเทศไทยมีอิทธิพลอย่างมากในวงการกีฬา ทั้งในประเทศและระดับนานาชาติ ไม่เพียงแต่เกี่ยวข้องกับการส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันระดับโลก แต่ยังมีอำนาจในการกำหนดทิศทางกีฬาไทย รวมถึงการประสานความร่วมมือกับภาคเอกชน โดยโอลิมปิกไทยมีรายได้ปีละ 27 ล้านบาท และเงินสนับสนุนจากสมาคมกีฬาอีกปีละ 400 ล้านบาท ซึ่งเป็นฐานอำนาจทางเศรษฐกิจและการเมืองที่สำคัญ
การชิงตำแหน่งครั้งนี้ไม่ใช่แค่เรื่องกีฬา แต่ยังสะท้อนความสัมพันธ์เชิงอำนาจทั้งในและนอกวงการกีฬา ผู้ชนะจะต้องเป็นผู้ที่สามารถประสานทุกฝ่ายเข้าด้วยกัน ทั้งนักกีฬา สมาคมกีฬา และการเมือง เพื่อยกระดับวงการกีฬาไทยสู่มาตรฐานสากล
ผลสุดท้ายจะเป็นอย่างไร? อีกเพียง 2 เดือนเราจะได้รู้คำตอบในการประชุมครั้งสำคัญที่มีทั้งอำนาจและอนาคตวงการกีฬาไทยเป็นเดิมพัน!