ท่ามกลางพายุเศรษฐกิจและปัจจัยเสี่ยงรอบด้าน ตลาดอสังหาริมทรัพย์ซบเซาอย่างหนัก จากกำลังซื้อหายไปจากตลาด ขณะเดียวกันสถาบันการเงินเข้มงวดสินเชื่อ เป็นเหตุให้ต้องนำที่อยู่อาศันหมุนเวียนกลับมาขายใหม่ซึ่งกลายเป็นต้นทุนและในยามที่ไม่มีมาตรการรัฐ ที่เป็นยาแรงออกมากู้วิกฤตในทันที แน่นอนว่า ผู้ประกอบการต้องช่วยเหลือตนเอง จัดกิจกรรมทางการตลาดลดแลกแจกแถมล่อใจดึงยอดขาย
วัดใจแบงก์
ที่น่าจับตางานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 47 ที่ 3สมาคมฯ จัดขึ้น ได้แก่ สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร สมาคมอาคารชุดไทย และสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย ผนึกกำลังจัด "Thailand’s Number One Real Estate Expo" ล่าสุดมียอดขาย ทะลุ 12,000 ล้านบาท พร้อมกระแสขอสินเชื่อ คึกคักตอกย้ำ ความต้องการที่อยู่อาศัย และศักยภาพตลาดอสังหาฯ ไทยที่ยังแข็งแกร่งเติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้ต้องเผชิญกับปัจจัยเสี่ยงทางเศรษฐกิจ
นายกฯสมาคมบ้าน ลุ้นแบงก์ปล่อยกู้
นายสุนทรสถาพร นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรรเปิดเผยกับ”ฐานเศรษฐกิจ”ว่า ยอมรับว่าตลอดที่อยู่อาศัยหดตัวมาตรการรัฐ ยังมาไม่ถึงในช่วงวันจัดงานมหกรรมฯ 3สมาคม ฯ
ได้เสนอขอมาตรการเร่งด่วนต่อรัฐไปทั้งลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนองรวมถึงการผ่อนคลายLTV ให้ทันไตรมาสแรกหรือ ภายในงานมหกรรม ฯ เนื่องจากมีบริษัทอสังหาฯรายใหญ่ต้องแสดงผลประกอบการต่อตลาดหลักทรัพย์เพื่อปิดไตรมาสแรก แต่ปรากฎว่ามาตรการมาไม่ทัน
ทางออกของ ผู้ประกอบการ ที่ นำโครงการมาแสดงในงานต่างใช้กลุยุทธ์ ฟรีค่าโอนเป็นหลัก ส่วนค่าจดจำนอง ให้ผู้ซื้อเป็นผู้จ่าย แต่หลายโครงการอาจออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมดขึ้นอยู่ที่เทคนิค
โดยปีนี้ยอดขายค่อนข้างดีเกินคาด กว่า12,000 ล้านบาท เพียง4วัน (20-23มีนาคม68) ถือว่ามากถึงกว่าเท่าตัว เมื่อเทียบกับงานมหกรรมบ้านและคอนโดครั้งที่46ซึ่งจัดขึ้นช่วงปลายปีที่ผ่านมา ที่มียอดขายในงานกว่า 6,000ล้านบาท แต่ยอดปฎิเสธสินเชื่อ กว่า40 % เหลือประมาณกว่า3,000ล้านบาท ครั้งนี้ก็เช่นกัน ต้องลุ้นสถาบันการเงินว่าจะปฏิเสธสินเชื่อมากน้อยแค่ไหนแม้ว่าในงานจะมีสถาบันการเงินมาให้คำแนะนำ
อย่างไรก็ตามมุมสะท้อนของ ดร.ดลพิวัฒน์ ปรีดาวิภาต รองเลขาธิการสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร และประธานคณะกรรมการจัดงาน เปิดเผยว่า "ปีนี้มหกรรมบ้านและคอนโดทำลายทุกสถิติ ยอดเข้าชมพุ่งทะลุเป้า ตลาดคึกคักเกินคาด
ดร.ดลพิวัฒน์ ปรีดาวิภาต
โดยเริ่มต้นด้วยยอดลงทะเบียนล่วงหน้าทะลุ 10,000 คน ก่อนเปิดงาน ซึ่งเทียบเท่ากับการจัดงานช่วงปลายปีที่ผ่านมา ขณะที่ตลอด 4 วันของการจัดงาน ยอดผู้เข้าชมเพิ่มขึ้นถึง 30% สะท้อนความต้องการที่อยู่อาศัยที่ยังคงแข็งแกร่ง แม้ต้องเผชิญกับสภาวะเศรษฐกิจที่ท้าทาย
คอนโดฯ ยังครองแชมป์ บ้านเดี่ยว-ทาวน์เฮ้าส์มาแรง
คอนโดมิเนียมยังคงเป็นประเภทอสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในงานนี้ คิดเป็น 60% ของยอดขายทั้งหมด รองลงมาคือ บ้านเดี่ยว 25% ทาวน์เฮ้าส์ 10% และอีก 5% เป็นบ้านแฝด อาคารพาณิชย์ และอสังหาฯ ประเภทอื่น ๆ แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มการเลือกซื้อที่อยู่อาศัยของประชาชนที่ยังคงให้ความสำคัญกับทำเลที่เดินทางสะดวกและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่
เจาะพฤติกรรมผู้ซื้อ สะท้อนเทรนด์อสังหาฯ ยุคใหม่
การกระจายตัวของผู้เข้าชมงานบ่งชี้ถึงความต้องการที่อยู่อาศัยที่ขยายตัวครอบคลุมทุกช่วงวัย โดยกลุ่มอายุ 30 - 45 ปี เป็นสัดส่วนหลักถึง 40% ตามมาด้วยกลุ่ม 25 -30 ปี 30% , 45 - 50 ปี 20%, และ 50 ปีขึ้นไป 5 -10% ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความต้องการบ้านและคอนโดมิเนียมที่เติบโตอย่างต่อเนื่องในทุกกลุ่มอายุ
ปัจจัยความสำเร็จ ดันยอดจองพุ่งทะลุเป้า
เบื้องหลังความสำเร็จของงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 47 ไม่ได้มาจากเพียงแค่ดีมานด์ในตลาด แต่ยังได้รับแรงหนุนจากหลายปัจจัย ทั้ง มาตรการ LTV และนโยบายกระตุ้นจากภาครัฐ ตลอดจนโปรโมชั่นพิเศษจากผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ร่วมงาน
ทำให้เกิดยอดจองทะลุ 12,000 ล้านบาท โดยมาจากผู้ประกอบการด้านอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ รายกลาง รายเล็ก ที่มาร่วมออกบูธในงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 47 และคาดว่าหลังจบงาน จะมียอดขายและยอดโอนเพิ่มเติมไม่ต่ำกว่าสองเท่า
การจัดงานมหกรรมบ้านและคอนโดไม่ได้เป็นเพียงแค่งานแสดงที่อยู่อาศัย แต่เป็นเวทีสำคัญที่ช่วยให้คนไทยมีบ้านในฝัน และเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยให้เดินหน้าอย่างมั่นคง ดร.ดลพิวัฒน์ กล่าว
จับตาตลาดอสังหาฯ ปลายปี 2568 โอกาสและความท้าทาย
แนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงปลายปี 2568 ยังคงเผชิญปัจจัยท้าทายหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นต้นทุนก่อสร้างและราคาวัสดุที่เพิ่มสูงขึ้น อัตราดอกเบี้ยที่อาจมีการเปลี่ยนแปลง รวมถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับโครงการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ทำให้ดีเวลลอปเปอร์ต้องปรับตัวและสร้างจุดขายใหม่ ๆ ให้โดดเด่นเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของตลาดที่เปลี่ยนไป
โดยแผนจัดงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 48 จะจัดขึ้นปลายปีนี้ระหว่างวันพฤหัสบดีที่ 30 ต.ค. – วันอาทิตย์ที่ 2 พ.ย. 2568 ณ ฮอลล์ 5 ชั้น LG ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์โดยมี สมาคมอาคารชุดไทย เป็นผู้รับหน้าที่ประธานคณะกรรมการจัดงานและคาดว่าน่าจะคึกคักมากขึ้นเนื่องจากมีมาตรการทั้งลดค่าโอนจดจำนองและผ่อนLTVมาครบ