40 อสังหาฯ จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ครึ่งแรกปี 67 รายได้ –กำไรหด สต๊อกพุ่ง

18 ส.ค. 2567 | 16:48 น.
อัปเดตล่าสุด :18 ส.ค. 2567 | 17:03 น.

แอล ดับเบิลยู เอส LWS สำรวจ 40 บริษัทอสังหาฯ จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ครึ่งแรกปี 67 รายได้และกำไรหดตัว ลดลง 0.08% และ 23.33% ตามลำดับ เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปี 66  ขณะสต๊อกพุ่ง 3.02% ใช้เวลาในการขาย 27-28 เดือน

ตลาดอสังหาริมทรัพย์หนึ่งในเฟืองจักรสำคัญที่ทุกรัฐบาลใช้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ อย่างไรก็ตามแม้จะเห็นแสงสว่างปลายอุโมงค์

จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์อยู่บ้างแต่มองว่า ไม่ใช่เรื่องง่ายเนื่องจากกำลังซื้ออ่อนแอ หนี้ครัวเรือนสูงขณะสต๊อกมีเพิ่มขึ้น  

ส่งผลให้ผลประกอบการ ของบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์มีรายได้และผลกำไรครึ่งปีแรกปี2567ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของที่ผ่านมา

 

 

 

 

 

บริษัท แอล ดับเบิลยู เอส วิสดอม แอนด์ โซลูชั่นส์ จำกัด หรือ LWS บริษัทวิจัย และ พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ในเครือ บริษัท แอล พี เอ็น ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด(มหาชน)

สำรวจ ผลประกอบการครึ่งแรกของปี 2567 ของ 40 บริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ที่รายงาน ณ วันที่ 15 สิงหาคม 2567 พบว่ามีมูลค่ารวม 154,767.62  ล้านบาท  และกำไรสุทธิที่ 13,322.01 ล้านบาท

ลดลง 0.08% และ 23.33 % ตามลำดับ เมื่อเทียบกับรายได้รวม และกำไรสุทธิ ในช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่มีมูลค่ารวม  154,894.87  ล้านบาท และกำไรสุทธิรวม 17,376.28  ล้านบาทตามลำดับ

 ขณะความสามารถในการทำกำไรเฉลี่ยของทั้ง 40 บริษัท ในครึ่งปีแรก 2567 อยู่ที่ 8.60% ดีกว่าไตรมาสแรกของปี 2567 ที่มีความสามารถในการทำกำไรที่ 7.68% แต่ลดลง จากความสามารถในการทำกำไร ที่ 11.22% ในช่วงครึ่งแรกของปี 2566

ขณะที่สินค้าคงเหลือ บวกกับสินค้าที่อยู่ระหว่างการพัฒนาครึ่งแรกของปี 2567 อยู่ที่ 707,738.38. ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.02% จาก  686,956.35 ล้านบาท ณ สิ้นไตรมาสแรกของปี 2567 ซึ่งเมื่อเทียบกับรายได้ ในครึ่งแรกของปี 2567 แล้ว

สินค้าคงเหลือบวกกับสินค้าที่อยู่ระหว่างการพัฒนาของบริษัทอสังหาฯ ทั้ง 40 บริษัท จะใช้เวลาในการขายประมาณ 27-28 เดือน ในกรณีที่ไม่มีการเปิดตัวโครงการใหม่ 

ทั้งนี้ บริษัท แสนสิริ จำกัด(มหาชน)  มีสินค้าคงเหลือและที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างสูงสุดเมื่อเทียบกับทั้ง 40 บริษัทมีสินค้าคงเหลือและที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างที่ 103,970.83 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 14.69% ของสินค้าคงเหลือและที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง

เมื่อพิจารณารายได้รวมของ 10 บริษัทที่มีรายได้สูงสุด พบว่า อยู่ที่  113,481.92 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 73.32% ของรายได้รวมทั้ง 40 บริษัท ขณะที่กำไรสุทธิของบริษัท 10 อันดับแรกที่มีกำไรสูงสุดมีมูลค่ารวม 14,213.78 ล้านบาท

สูงกว่ากำไรสุทธิรวมของ 40 บริษัท เนื่องจาก มีบริษัทที่ ขาดทุนสุทธิทั้งสิ้น 15 บริษัทจาก 40 บริษัท ฉุดให้กำไรสุทธิรวมของทั้ง 40 บริษัท ต่ำกว่าของ 10 บริษัทที่มีกำไรสูงสุด

ทั้งนี้ บริษัทที่มีรายได้และกำไรสูงสุด 3 อันดับแรกได้แก่ บริษัท แสนสิริ จำกัด(มหาชน) บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด(มหาชน) และ บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด(มหาชน)ตามลำดับ