บิ๊กอสังหาบูมธุรกิจ”เวลเนส” 1.5 แสนล้าน

ปัจจุบันคนหันมาดูแลสุขภาพมากขึ้นหลังจากเกิดสถานการณ์โควิด-19 รวมถึงการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ส่งผลให้ ธุรกิจ เวลเนส เป็นกระแสนิยม ที่มีระบบการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ทั้งร่างกายและจิตใจ มุ่งเน้นที่การป้องกันก่อนการเกิดโรค และมีการปรับ ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์สมัยใหม่มาดูแล  ประเมินว่าตลาดนี้มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง สะท้อนจากผู้ประกอบการต่างๆขยายฐานเข้าสู่ธุรกิจนี้ 

เช่นเดียวกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ระดับแถวหน้าของเมืองไทยต่างผนึกพันธมิตร พัฒนาที่อยู่อาศัยควบคู่ไปกับการบริการรูปแบบต่างๆเพื่อให้ตอบโจทย์ กลุ่มลูกค้า จุดขายสำคัญ และเป็นโอกาสทองเชื่อมโยงธุรกิจหลัก สำหรับผู้มองกาลไกลนับตั้งแต่วิกฤตโควิด

 ที่สำคัญรัฐบาลชุดที่ผ่านมาต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน มีเป้าหมายผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางเวเนสโลก และเมดิคอล ฮับ  เพราะการสาธารณสุขของไทย รวมถึงแพทย์แผนไทย สมุนไพรไทย มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับในสายตาชาวโลกดังปรากฏในช่วงโควิด ทำให้พวกเขาชื่นชมและเห็นไทยเป็นบ้านหลังที่สองเสมอมาดังนั้นจึงจุดประกายให้เป็นโอกาสที่ดีทางธุรกิจที่น่าจับตา 

 ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร.นายแพทย์สมอาจ วงษ์ขมทอง ประธานคณะกรรมการหลักสูตรโอกาสธุรกิจและการแพทย์สำหรับผู้บริหารระดับสูง (WHB) กล่าวถึง โอกาสทางธุรกิจสุขภาพและการแพทย์ ในงาน Health & Wealth Expo 2023 โดย เครือเนชั่นกรุ๊ป  ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2566ที่ผ่านมาว่า  ปี 2024 จะเป็นโอกาสทองของประเทศไทย ในเรื่องการทำธุรกิจเกี่ยวกับสุขภาพและธุรกิจอื่นที่เกี่ยวข้อง เมื่อธุรกิจด้านสุขภาพเจริญเติบโตจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจของประเทศ เนื่องจาก1.ประเทศไทยจะเป็นศูนย์กลางการบริการด้านสุขภาพและการแพทย์ระดับโลก  2.เวลเนสและเวลเนสทัวริซึม 3.นวัตกรรมดิจิทัลเฮลท์และเทเลเมดิซีน 4.ธุรกิจในสังคมสูงวัย สร้างรายได้ให้กับประเทศ1ล้านล้านบาท

ที่น่าจับตาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ขยับขยายมายังตลาดเวลเนส มากขึ้นนับตั้งแต่เกิดโควิดโดยพบว่าหลายค่ายได้ร่วมกับพันธมิตร ทำธุรกิจเวลเนสลงทุนรวม 1.5 แสนล้านบาท สะท้อนถึงการเติบโตในธุรกิจนี้จะมีสูงขึ้นต่อเนื่องในอนาคต

เริ่มจากบริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ MQDC ยักษ์อสังหาริมทรัพย์ พัฒนาโครงการผู้สูงอายุ The Aspen Tree ในโครงการ เดอะ ฟอเรสเทียส์ โครงการอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ มูลค่ากว่า 125,000 ล้านบาท  ตั้งอยู่ทำเลกิโลเมตรที่ 7 ถนนบางนา-ตราด  ทำเลศักยภาพท่ามกลางผืนป่าบนที่ดิน 380 ไร่ 

บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน)  บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับแนวหน้าของเมืองไทย  ลงทุนก่อสร้างโรงพยาบาลวิมุต แห่งแรกทำเลพหลโยธิน เมื่อปี 2564 โดยเปิดให้บริการแล้วในปัจจุบัน ด้วยงบลงทุน 10,000 ล้านบาท  ทั้งนี้กลุ่มพฤกษายัง มีเป้าหมาย  ขยายธุรกิจสุขภาพ เพื่อสร้างรายได้ต่อเนื่อง เปิดโรงพยาบาลวิมุต แห่งใหม่ ทำเลปิ่นเกล้า พร้อมประกาศแผน 5 ปีธุรกิจสุขภาพด้วยเม็ดเงินลงทุน 17,000 ล้านบาทเป็นต้น   

“มนทาระ ฮอสพิตาลิตี้ กรุ๊ป”   ธุรกิจบริการด้านอสังหาริมทรัพย์ การโรงแรม และที่พักชั้นนำของประเทศไทย พัฒนาโครงการ ตรีวนันดา  Integrative Wellness Community แห่งแรกของเอเชีย วงเงิน 6,600 ล้านบาท จังหวัดภูเก็ต บนพื้นที่กว่า 600 ไร่ ประกอบด้วย 3 โซนหลัก ได้แก่ โซนที่พักอาศัย  รีสอร์ตเพื่อสุขภาพ และ คอมมูนิตี้เฮ้าส์  นายกิตติศักดิ์ ปัทมะเสวี ประธานกรรมการบริหาร “มนทาระ” ระบุว่า จากโควิด-19  จุดประกายให้เห็นแล้วว่าผู้บริโภคให้ความสำคัญต่อสุขภาพและความเป็นอยู่ โดยเฉพาะการใช้ชีวิตประจำวันของผู้คนที่มุ่งเน้นความสมดุลทั้ง กาย ใจ และจิต เพื่อป้องกันและหลีกเลี่ยงความเจ็บป่วย ภายในสิ่งแวดล้อมที่เป็นธรรมชาติและการนำเทคโนโลยีลํ้าสมัยมาใช้อย่างชาญฉลาดและลงตัว

 เช่นเดียวกับ ซิซซา กรุ๊ป (CISSA Group) ผู้ดำเนิน ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน (InvestmentProperty : IP) เจ้าตลาดพูลวิลล่าหรูจังหวัดภูเก็ตและพังงาโดยปีนี้ประกาศแผนลงทุนทางภาคใต้ หลายโครวการ นายอรรถนพ พันธุกำเหนิด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซิซซา กรุ๊ป จำกัด ระบุว่า เริ่มรุกธุรกิจธุรกิจอสังหาเพื่อการลงทุนผ่านรูปแบบ Medical Center & Resort  นับตั้งแต่เกิดระบาดโควิด ส่งผลให้บริษัท หันมาลงทุนโครงการด้าน สุขภาพมากขึ้น โดยเริ่มตั้งแต่ปี 2564 พัฒนาโครงการ นาใต้ เมดิคอล เซ็นเตอร์ แอนด์ รีสอร์ต  ซึ่ง เป็นศูนย์การแพทย์และความงามระดับเวิลด์คลาส ควบคู่กับรีสอร์ตหรูระดับ 6 ดาว บนหาดส่วนตัว นาใต้ จังหวัดพังงา อีกโปรเจ็กต์สำคัญ ฟื้นการลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์และการท่องเที่ยวไทย 

 ทางด้านบริษัท เอ็น.ซี.เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ NC GROUP ผู้เชี่ยวชาญในด้านอสังหาริมทรัพย์ที่มีชื่อเสียงมาอย่างยาวนานในด้านของคุณภาพมาตรฐาน กว่า 25 ปี ร่วมกับ เดอะแคร์ แอนด์ เฮลธ์ กรุ๊ป ที่มีประสบการณ์ด้านการฝึกอบรมบุคลากรทางด้านสุขภาพที่มีคุณภาพและมาตรฐาน ตลอดจนประสบการณ์ในสายธุรกิจการพยาบาล ศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพ ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ และทุกช่วงวัย ร่วมกัน พัฒนาโครงการ “ศิริอรุณแคร์”  ศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพและการดูแลผู้สูงอายุ  และเปิดให้บริการ ที่สร้างความเชื่อมั่น ในการให้บริการฟื้นฟูสุขภาพและดูแลผู้สูงอายุ ด้วยการดูแลเอาใจใส่ที่มีคุณภาพและมาตรฐาน โดยมีการให้บริการทั้งในรูปแบบการพักอาศัยระยะสั้น และการพักอาศัยระยะยาว อีกด้วย

 ค่าย วัน ออริจิ้น ได้ พัฒนา โครงการ ออริจิ้น เวลเนส เรสซิเดนซ์ คอนโดสำหรับวัยเก๋ามาตั้งแต่ปี 2564 โดยผนึก KIN และพันธมิตร รพ. ชั้นนำ ดูแลผู้สูงวัย 2 โครงการ  ออริจิ้น เวลเนส เรสซิเดนซ์ สุขุมวิท 107 และ ออริจิ้น เวลเนส เรสซิเดนซ์ รามอินทรา มูลค่ากว่า 995 ล้านบาท  และยังมีแผนพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ด้านสุขภาพ

  ส่วนค่ายศุภาลัย บริษัทอสังหา ริมทรัพย์รายใหญ่ชั้นนำของไทย เปิดโครงการศุภวัฒนาลัย พร้อมอยู่อาศัยปี 2563 เป็นต้นมา นายประทีป ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน)  กล่าวว่า  ด้วยประสบการณ์ความเชี่ยวชาญด้านการออกแบบโครงการอสังหาฯ มาอย่างยาวนาน และเข้าใจไลฟ์สไตล์ผู้ที่ เข้าสู่ผู้สูงวัย จึงเป็นแรงบันดาลใจให้เริ่มสร้างสรรค์ “ศุภวัฒนาลัย” (Supalai Wellness Valley) โครงการเพื่อสังคมคุณภาพของผู้ที่มีอายุ 50+ ท่ามกลางป่าธรรมชาติ ใกล้ แม่นํ้าป่าสัก อำเภอแก่งคอย  จังหวัดสระบุรี ราคาเริ่มต้น 1.1 ล้านบาท เลือกได้ 2 รูปแบบ เช่าระยะยาว 30 ปี และอยู่ได้ตลอดชีวิตเป็นต้น

 ล่าสุดที่จังหวัดระยองหนึ่งในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกหรืออีอีซี สร้างความฮือฮาไม่น้อยเมือน บริษัทแกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้  จำกัด (มหาชน)   ดึง “อมาธารา เวลเลเชอร์ รีสอร์ต” แบรนด์ธุรกิจ Holistic Wellness ชื่อดังที่ประสบความสำเร็จจากภูเก็ต มาพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยระดับ อัลตราลักชัวรี  “อมาธารา เรสซิเดนซ์เซส ระยอง”  92ไร่เศษ ที่ นายวิทวัส วิภากุล กรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บมจ.แกรนด์ แอสเสท  ระบุว่า นอกจากการอยู่อาศัยแล้วยัง มอบบริการด้านสุขภาพแบบองค์รวม (Holistic Wellness) สอดรับกับเมกะเทรนด์ของโลกยุคใหม่อีกด้วย

    เรียกว่า “เวลเนส” ขุมทรัพย์ใหญ่ ที่น่าจับตามากในเวลานี้!!!