เอ็มบาสซี ดิโพลแมท สกรีน เปิดกลยุทธ์สื่อโฆษณา แบบ 360 องศา

07 ส.ค. 2567 | 12:25 น.
อัปเดตล่าสุด :07 ส.ค. 2567 | 12:33 น.

เอ็มบาสซี ดิโพลแมท สกรีน เปิดกลยุทธ์สร้างประสบการณ์ให้กับลูกค้าผ่านสื่อโฆษณา แบบ 360 องศา เพื่อสร้างแบรนด์ให้ครบทุกมิติ

โรงภาพยนตร์เอ็มบาสซี ดิโพลแมท สกรีน จัดงาน “Cinematicverse Movie Coming Attraction 2025”  โชว์ Line up ภาพยนตร์ครึ่งปีหลัง 2024 และปี 2025 ให้กับ Exclusive Partner & Sponsorship เพื่อความร่วมมือในการวางแผนและทำกิจกรรมขยายฐานลูกค้าร่วมกันตลอดทั้งปี ผ่านสื่อโฆษณาแบบ 360 องศา ไม่ว่าจะเป็นสื่อโฆษณาในโรงภาพยนตร์และ ป้ายโฆษณาแบบ Digital Signage ในพื้นที่โรงภาพยนตร์, สื่อโซเชียลมีเดียในเครือที่มีผู้ติดตามเป็นจำนวนมาก, การทำ CRM Program, ทำ Packaging Sponsorship Strategy เพื่อสื่อสารกับลูกค้าผ่าน Packaging popcorn และกิจกรรมการตลาด On ground Marketing เพื่อให้ลูกค้ามีประสบการณ์ร่วมกับแบรนด์ โดยได้รับความสนใจจากบริษัทชั้นนำในตลาดหลักทรัพย์ นักธุรกิจและเอเยนซี่พร้อมด้วยเหล่าเซเลบิตี้ แวดวงธุรกิจเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้

 

เอ็มบาสซี ดิโพลแมท สกรีน เปิดกลยุทธ์สื่อโฆษณา แบบ 360 องศา

เอ็มบาสซี ดิโพลแมท สกรีน เปิดกลยุทธ์สื่อโฆษณา แบบ 360 องศา

 

ไบรอัน ฮอลล์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็กซ์เซกคิวทีฟ ซีนิม่า คอร์ปอเรชั่น จำกัด เปิดเผยว่า “ในปัจจุบันมีแพลตฟอร์มวีดีโอสตรีมมิ่งขยายตัวอย่างรวดเร็ว และเข้ามามีบทบาทในอุตสาหกรรมภาพยนตร์มากขึ้น แต่ภาพรวมธุรกิจโรงภาพยนตร์และอุตสาหกรรมภาพยนตร์ทั่วโลกจะยังคงเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง เพราะโรงภาพยนตร์ก็ยังมีจุดแข็งที่สตรีมมิ่งสู้ไม่ได้ เห็นได้จากผลสำรวจพฤติกรรมการชมภาพยนตร์ของลูกค้าที่มาดูหนังที่ในโรงภาพยนตร์ว่าแพลตฟอร์มวีดีโอสตรีมมิ่ง ไม่มีผลต่อการ ดูหนังในโรงภาพยนตร์ เนื่องจากการดูหนังในโรงภาพยนตร์ทำให้ลูกค้ารู้สึกถึงความแตกต่างจากการ ชมผ่านช่องทางอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นภาพ เสียง หรือบรรยากาศที่แตกต่าง สอดคล้องกับ รายได้ของภาพยนตร์ ที่เข้าฉายในปีนี้ที่มีรายได้ระดับ 100 ล้านบาทขึ้นไปหลายเรื่อง เริ่มจากฝั่งฮอลลีวูด เรื่อง Inside Out 2 ที่ทำรายได้ 1,300 ล้านเหรียญทั่วโลก, Despicable Me 4 ทำรายได้ 700 ล้านเหรียญ, Godzilla x Kong: The New Empire ทำรายได้ 569 ล้านเหรียญ นอกจากนี้ยังมีหนังไทย เช่น หลานม่า ทำรายได้ในประเทศไทย 320 ล้านบาท ถ้าในเอเชียทั้งหมดรวมกัน 1,300 ล้านบาท จะเห็นได้ว่า จากผลสำรวจและรายได้หนังที่เข้าฉายสะท้อนว่า หลังจากสถานการณ์โควิด คนเริ่มกลับมาดูหนังในโรงภาพยนตร์มากขึ้น เห็นได้จากตัวเลขคนดูหนังในปี 2023 ซึ่งเป็นช่วงหลังสถานการณ์โควิดมีคนดูหนังถึง 90% เทียบกับในปี 2019 โดยในช่วงครึ่งปีแรกมีหนังไทยที่ ประสบความสำเร็จสร้างรายได้เกิน 100 ล้านบาทหลายเรื่อง และยังมีอีก 4 เรื่องที่กำลังจะเข้าฉาย คาดว่าจะสร้างรายได้สูงอีกเช่นกัน อาทิ ธี่หยด 2 ตั้งเป้า 1,000 ล้านบาท ซึ่งในปีหน้าเริ่มมีหนังฟอร์มยักษ์จากฮอลลีวูดเข้ามาอาจ ทำให้สัดส่วนปรับอยู่ที่ 50% แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทย

 

เอ็มบาสซี ดิโพลแมท สกรีน เปิดกลยุทธ์สื่อโฆษณา แบบ 360 องศา

เอ็มบาสซี ดิโพลแมท สกรีน เปิดกลยุทธ์สื่อโฆษณา แบบ 360 องศา

 

ในปี 2025 ช่วงเดือน พ.ค.-ก.ค. และ ต.ค.-ธ.ค. เป็นช่วงไฮซีซั่นที่จะมีหนังฮอลลีวูดฟอร์มใหญ่เข้าฉาย คาดว่าช่วง 6 เดือนนี้น่าจะมีคนดูหนังในโรงภาพยนตร์เพิ่มมากขึ้น และในปลายปีนี้พบกับ ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ อาทิ เช่น  Folie à Deux , Wicked , Gladiator , Avatar 3 และแอนนิเมชันอย่าง Zootopia

จะเห็นได้ว่าจากที่กล่าวมาล้วนเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ สื่อโฆษณาในโรงภาพยนตร์นั้นแข็งแกร่ง ถือว่าเป็นสื่อโฆษณาที่มีจุดแข็งต่างกับสื่ออื่น ๆ เพราะเรามีสื่อโฆษณาแบบ 360 องศาครบทุกมิติ สามารถเข้าถึงลูกค้าได้ครอบคลุมทุกกลุ่มทุกเซกเมนต์ ซึ่งจะสามารถสร้าง Brand Awareness ให้กับพาร์ตเนอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ”

 

เอ็มบาสซี ดิโพลแมท สกรีน เปิดกลยุทธ์สื่อโฆษณา แบบ 360 องศา

เอ็มบาสซี ดิโพลแมท สกรีน เปิดกลยุทธ์สื่อโฆษณา แบบ 360 องศา

เอ็มบาสซี ดิโพลแมท สกรีน เปิดกลยุทธ์สื่อโฆษณา แบบ 360 องศา

 

สำหรับ “กลยุทธ์สร้างประสบการณ์ให้กับลูกค้าผ่านสื่อโฆษณาแบบ 360 องศา” เพื่อสร้างแบรนด์ให้ครบทุกมิติ ตอบโจทย์ลูกค้าให้ครอบคลุมทุกเซกเมนต์ ประกอบไปด้วย

1. สื่อโฆษณาในโรงภาพยนตร์ มีไลน์อัปหนังฟอร์มยักษ์จากฮอลลีวูด และหนังไทยที่ทยอยกำหนด เข้าฉายอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งคอนเทนต์ทางเลือกที่ไม่ใช่ภาพยนตร์ (Alternative Content) ด้วยความหลากหลายของคอนเทนต์ครอบคลุมทั้งตลาด Mass และตลาด Localization ส่งผลให้จำนวนคนชมภาพยนตร์จะเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก

2. การทำ CRM Program ด้วยกลยุทธ์ “เนมมิ่ง สปอนเซอร์” (Naming Sponsor) โรงภาพยนตร์ เพื่อช่วยให้แบรนด์ใกล้ชิดกับกลุ่มเป้าหมายที่ชื่นชอบความบันเทิงนอกบ้าน พร้อมมอบประสบการณ์ให้กับลูกค้า และสร้างเอนเกจเม้นต์ได้เป็นอย่างดี โดยปัจจุบัน ทางสปอนเซอร์หลักของ Embassy Diplomat Screen ได้แก่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) , ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) , เครื่องดื่มตราช้าง บริษัทไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน)

3. Campaign Promotion ซึ่งทางโรงภาพยนตร์เปิดมานานกว่า 10 ปี และมีฐานลูกค้าประจำ member มากกว่า 2,000 รายต่อปี ที่เป็นลูกค้า Heavy User ที่ดูหนังไม่น้อยกว่า 4 ครั้งต่อเดือน โดยสามารถสร้างสรรค์กิจกรรมเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้ามากขึ้น โดยมุ่งเน้นสร้าง Brand Awareness ให้เข้าไปอยู่ในใจกลุ่มเป้าหมาย