จากกรณีที่ ผู้ช่วยศาตราจารย์ ดร.ภูมิศิษฐ์ มหาเวสน์ศิริ อดีตรองเลขาธิการ กสทช. และ อดีตรักษาการแทนเลขาธิการ กสทช. ได้ส่งหนังสือถึง คณะกรรมาธิการการเทคโนโลยีสารสนเทศ การสื่อสาร และการโทรคมนาคม วุฒิสภา โดยขอให้วุฒิสภาดำเนินการตรวจสอบคุณสมบัติของ ศ.(คลินิก) นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ว่า เป็นไปตาม พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯหรือไม่
ล่าสุด ผู้ช่วยศาตราจารย์ ดร.ภูมิศิษฐ์ มหาเวสน์ศิริ อดีตรองเลขาธิการ กสทช. และ อดีตรักษาการแทนเลขาธิการ กสทช. ได้ทำหนังสือ ลงวันที่ 7 มิถุนายน 2567 ถึง นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา เพื่อสอบถามความคืบหน้าในการตรวจสอบคุณสมบัติของ ศาสตราจารย์ นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธาน กสทช. เพื่อเร่งรัดให้ประธานวุฒิ ส่งผลพิจารณาตรวจสอบการขาดคุณสมบัติของศาสตราจารย์คลีนิค นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธาน กสทช. ไปยัง นายกรัฐมนตรีโดยเร็วที่สุด รวมถึงส่งผลการพิจารณาดังกล่าวให้กับสำนักงาน กสทช. ซึ่งเป็นหน่วยงานสังกัดโดยตรง เนื่องจากเป็นผู้ได้รับผลกระทบโดยตรงจากการปฏิบัติหน้าที่ของ ประธาน กสทช. ที่ขาดคุณสมบัติในการเป็น กสทช. ตั้งแต่แรกเริ่ม
โดยก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 27 พ.ค. 67 กมธ.ไอซีที ได้ส่งเรื่องรายงานผลการพิจารณาและลงมติสรุปแล้วว่า นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ เป็นผู้ที่ขาดคุณสมบัติและมีลักษณะต้องห้ามตามกฎหมาย ตามพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ พ.ศ. 2553 มาตรา 7 ข. (12) มาตรา 8 มาตรา 18 มาตรา 20 และมาตรา 26 ไปยังประธานวุฒิสภาแล้ว เพื่อให้ประธานวุฒิสภานำเรียนต่อนายกรัฐมนตรี ให้นำความกราบบังคมทูล เพื่อมีพระบรมราชโองการให้พ้นจากตำแหน่ง โดยหน้าที่และอำนาจตามกฎหมายต่อไป
แต่ระยะเวลาล่วงเลยมา 2 สัปดาห์แล้ว ตั้งแต่วันที่ กมธ. ไอซีที ส่งผลรายงานสรุป ทางประธานวุฒิสภา นายพรเพชร วิชิตชลชัย ยังไม่ได้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่แต่อย่างใด
โดยใจความในเอกสาร ระบุว่า
ตามที่ข้าพเจ้า ผู้ช่วยศาตราจารย์ ดร. ภูมิศิษฐ์ มหาเวสน์ศิริ รองเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ในขณะนั้น และ เป็นรองเลขาธิการ กสทช. สายงานกิจการกระจายเสียงและโทรทัศน์ และเป็นผู้รักษาการแทนเลขาธิการ กสทช. โดย ศาสตราจารย์คลีนิค นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการ กสทช. โดยประธาน กสทช. มีหน้าที่ในการแต่งตั้งข้าพเจ้าในฐานะรองเลขาธิการ กสทช. เป็นผู้รักษาการแทนเลขาธิการ กสทช. กรณีที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการฯ เพื่อให้เป็นไปตามมติของที่ประชุม กสทช. แต่ ประธาน กสทช. มิได้ดำเนินการ ซึ่งเมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่า การดำรงตำแหน่งและสถานะของ ประธาน กสทช. ในขณะนั้นมิชอบ ขาดคุณสมบัติมาตั้งแต่ต้น ย่อมส่งผลต่อการดำเนินการในอดีตซึ่งกระทบต่อตัวข้าพเจ้าโดยตรง
ทั้งนี้ ข้าพเจ้าได้มีหนังสือตามที่ส่งมาด้วย 1. กราบเรียนท่านประธานวุฒิสภาเพื่อขอสอบถามความคืบหน้าในการตรวจสอบคุณสมบัติของศาสตราจารย์คลีนิค นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ที่ คณะกรรมาธิการเทคโนโลยีสารสนเทศ การสื่อสารและการโทรคมนาคม วุฒิสภา ได้สรุปผล และ เผยแพร่ออกมาแล้วบางส่วน ว่ามีลักษณะต้องห้ามในการดำรงตำแหน่งกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ตามมาตรา 7 และการกระทำอันเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 8 มาตรา 18 และมาตรา 26 แห่งพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมและที่แก้ไขเพิ่มเติม อันจะทำให้ศาสตราจารย์คลีนิค นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ต้องพ้นจากตำแหน่งกรรม กสทช. นั้น
บัดนี้ ข้าพเจ้าได้รับทราบข่าวจากสื่อมวลชนเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2567 ว่าคณะกรรมาธิการการเทคโนโลยีสารสนเทศ การสื่อสารและการโทรคมนาคม วุฒิสภา ซึ่งได้รับมอบหมายจากท่านประธานวุฒิสภาให้เป็นผู้พิจารณาเรื่องดังกล่าว ได้ดำเนินการพิจารณาและมีรายงานผลการพิจารณาส่งถึงประธานวุฒิสภา เรียบร้อยแล้ว รายละเอียดตามสิ่งที่ส่งมาด้วย 2.
ดังนั้น ข้าพเจ้าจึงใคร่ขอความอนุเคราะห์จากท่าน เพื่อขอผลการพิจารณาการตรวจสอบคุณสมบัติของศาสตราจารย์คลีนิค นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ เนื่องจากข้าพเจ้าเป็นผู้ได้รับผลกระทบโดยตรงจากการปฏิบัติหน้าที่ของ ประธาน กสทช. ท่านนี้ และเพื่อความโปร่งใสและระมัดระวังผลกระทบทางกฎหมายที่จะเกิดขึ้นจากการปฏิบัติหน้าที่ของ ประธาน กสทช ที่ขาดคุณสมบัติในการเป็น กสทช. จึงใคร่ขอความกรุณาจากท่านให้ส่งรายงานผลการพิจารณาในกรณีดังกล่าวให้แก่ข้าพเจ้าและสำนักงาน กสทช. โดยด่วนจักเป็นพระคุณยิ่ง