กปภ. ลุยขยายพื้นที่ขอนแก่น อุดรธานี หนองคาย เพิ่มบริการน้ำประปาถึงลูกค้ากว่าแสนราย

การประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) ลุยโครงการปรับปรุงขยายขอนแก่น-น้ำพอง อ.เมือง จ.ขอนแก่น และโครงการก่อสร้างปรับปรุงขยาย กปภ.สาขาอุดรธานี – หนองคาย - หนองบัวลำภู เร่งเสริมประสิทธิภาพ การให้บริการน้ำประปาให้ครอบคลุมและเพียงพอต่อลูกค้ากว่า 100,000 ราย เพิ่มโอกาสการเข้าถึงน้ำสะอาด ปลอดภัยอย่างทั่วถึง

นายวิบูลย์ วงสกุล ผู้ว่าการการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) เปิดเผยว่า พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ถือเป็นพื้นที่ที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงจากการขยายตัวของชุมชนและ ความนิยมในการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม เช่น จ.ขอนแก่น จ.อุดรธานี และ จ.หนองคาย เป็นต้น เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับความต้องการใช้น้ำที่เพิ่มสูงขึ้น กปภ. จึงได้ดำเนินโครงการปรับปรุงขยาย กปภ. สาขาขอนแก่น - น้ำพอง เพื่อดำเนินการปรับปรุงระบบประปาทั้งระบบ

โดยจะมีการก่อสร้างระบบน้ำดิบ ระบบผลิตน้ำประปา และระบบจ่ายน้ำ (สถานีสูบจ่ายน้ำพร้อมหอถังสูง วางท่อส่งน้ำ ท่อจ่ายน้ำ และท่อบริการขนาดต่างๆ) ขนาดกำลังการผลิตวันละ 96,000 ลบ.ม./วัน สามารถรองรับลูกค้าได้กว่า 100,000 ราย เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพของระบบผลิต ระบบส่งน้ำ และระบบจ่ายน้ำประปาในพื้นที่ที่ประสบปัญหาน้ำไหลอ่อนบริเวณพื้นที่สูงรอบมหาวิทยาลัยขอนแก่น และพื้นที่เศรษฐกิจรอบสนามบินขอนแก่น โครงการก่อสร้างท่าเรือบก อ.น้ำพอง

ตลอดจนสามารถให้บริการน้ำประปาแก่ประชาชนในพื้นที่ ต.ศิลา ต.บ้านค้อ ต.แดงใหญ่ ต.สำราญ อ.เมือง อ.บ้านฝาง อ.น้ำพอง อ.กระนวน จ.ขอนแก่น ได้เพิ่มขึ้นในอนาคต 10 ปีข้างหน้าอย่างเพียงพอ ตลอดจนเพื่อกระจายความเจริญสู่ภูมิภาค โดยเฉพาะศูนย์กลางความเจริญของท้องถิ่นและส่งเสริมสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานของประชาชนให้ดียิ่งขึ้น

นอกจากนี้ ยังได้เร่งติดตามโครงการก่อสร้างปรับปรุงขยาย กปภ.สาขาอุดรธานี-หนองคาย-หนองบัวลำภู ณ สถานีผลิตน้ำปะโค อ.เมือง จ.หนองคาย ซึ่งเป็นโครงการผลิตและส่งจ่ายน้ำประปาเพื่อรองรับ ปริมาณความต้องการใช้น้ำและการขยายตัวของสังคม เศรษฐกิจ อุตสาหกรรมในพื้นที่ที่เพิ่มสูงขึ้น

นายวิบูลย์ วงสกุล ผู้ว่าการ กปภ. กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบัน กปภ. ได้นำเทคโนโลยีระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Rooftop) มาใช้ ณ สถานีผลิตน้ำบ้านถ่อน อ.เมือง จ.อุดรธานี พร้อมเตรียมขยายผลนำไปใช้ในพื้นที่อื่น ๆ ต่อไป เพื่อช่วยลดการใช้พลังงานไฟฟ้าและลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมของโลกในอนาคตอย่างยั่งยืน