บมจ.ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ คว้ารางวัล จากองค์กร IFM สหราชอาณาจักร

08 ก.พ. 2566 | 12:55 น.
อัปเดตล่าสุด :08 ก.พ. 2566 | 12:58 น.

บมจ.ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ คว้ารางวัล จากองค์กร International Finance Magazine (IFM) ของสหราชอาณาจักร

นายภัคพล เลี่ยวไพรัตน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ และดร.ปรกฤษฎ์ เลี่ยวไพรัตน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ เป็นตัวแทน บริษัท ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TPIPP รับรางวัล 'Most Innovative Green Practices Towards ESG – Waste Management' จากงาน International Finance Awards 2022 จัดโดย International Finance Magazine (IFM) นิตยสารด้านธุรกิจและการเงินชั้นนำระดับโลกจากประเทศอังกฤษ ซึ่งรางวัลดังกล่าวจะมอบให้บริษัทหรือบุคคลที่มีความโดดเด่นในด้านต่าง ๆ โดยผ่านการพิจารณาคัดเลือกจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความโปร่งใสซึ่งได้รับความเชื่อถือเป็นอย่างดี โดยทาง IFM ได้ตัดสินมอบรางวัลอันทรงเกียรติให้กับ TPIPP ที่เป็นผู้นำในธุรกิจโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงขยะชุมชน (Municipal Solid Waste-MSW) รายใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและในภูมิภาคอาเซียน โดยเป็นโรงกำจัดขยะที่มีนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนด้วยหลักการ ESG ที่ดีที่สุดประจำปี พร้อมยึดมั่นและให้ความสำคัญในกระบวนการทำงานเพื่อสร้างการเติบโตด้วยแนวปฏิบัติสีเขียว

บมจ.ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ คว้ารางวัล จากองค์กร IFM สหราชอาณาจักร

ปัจจุบัน TPIPP ยังคงเป็นโรงไฟฟ้าและโรงกำจัดขยะมูลฝอยชุมชนที่ใหญ่ที่สุดในสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) และเป็นแห่งเดียวในโลกที่มีนโยบาย ของเสียเป็นศูนย์ อีกทั้งยังเริ่มเปิดตัวโครงการของบริษัทฯ ด้วย ประการแรก เพื่อเปลี่ยนโรงไฟฟ้าถ่านหินขนาด 220 เมกะวัตต์ให้เดินเครื่องโดยใช้ขยะ และประการที่สอง เพื่อสนับสนุนการแปลงเปลี่ยนของบริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) หรือ TPIPL เพื่อดำเนินการเครื่องเตาเผาปูนซีเมนต์ด้วยเชื้อเพลิงทางเลือก (AF) แทนถ่านหิน เมื่อเสร็จสิ้นโครงการเหล่านี้แล้ว ภายในปี 2569 การผลิตพลังงานทั้งหมดจะเป็นพลังงานหมุนเวียน 100% และจากนั้น การดำเนินงานของ TPIPP จะกำจัดปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ ได้มากกว่า 19.5 ล้านตัน และต่ำกว่าระดับ ความเป็นกลางทางคาร์บอนถึง 12.6 ล้านตัน คาร์บอนเครดิตของบริษัทฯ จะชดเชยปริมาณคาร์บอนของบริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) โดยทั้งกลุ่มจะบรรลุถึงการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์(carbon-neutral) ภายในปี 2567 ด้วยกำหนดการนี้ กลุ่มบริษัทฯ จะเป็นโรงปูนรายแรกของโลกที่สามารถเป็น carbon-neutral ได้ และทางกลุ่มบริษัทฯ จะสร้างนวัตกรรมใหม่ๆเพื่อนำประเทศในการก้าวเข้าสู่สังคมไร้คาร์บอน หรือ Net Zero Emissionsต่อไป