MEGA HALAL Bangkok 2025 เปิดประตูไทยสู่ตลาดฮาลาลโลก 16-18 ก.ค.

17 ม.ค. 2568 | 16:10 น.
อัปเดตล่าสุด :17 ม.ค. 2568 | 16:44 น.

กระหึม! ครั้งแรกในประเทศไทยกับการจัดงานแสดง MEGA HALAL Bangkok 2025 ประตูเชื่อมสินค้า ฮาลาลไทย& เอเชีย สู่ตลาดโลก 

บริษัท คอมเอเชีย จำกัด (ComAsia) และ บริษัท เวิลด์เด็กซ์ จี.อี.ซี. จำกัด สำนักงานคณะกรรมการการอิสลามแห่งประเทศไทย แถลงข่าวพิธีลงนามความร่วมมือในการจัดงาน MEGA HALAL Bangkok 2025 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 16-18 กรกฎาคม 2568 ณ. ศูนย์นิทรรศการ และการประชุมไบเทคบางนา โดยงานนี้จะจัดขึ้นพร้อมกับงาน MEGA Show Bangkok 2025 

โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อต้องการสร้างความแข็งแกร่งของประเทศไทยในฐานะที่เป็นประตู หรือ ศูนย์กลางฮาลาลแห่งเอเชียในเชื่อมต่อชาวมุสลิมกว่า 2,000 ล้านคน ขณะเดียวกัน ตลาดฮาลาลในประเทศไทยปัจจุบันก็เป็นตลาดที่ใหญ่มาก โดยปี 2566-2567 ที่ผ่านมา มีมูลค่าตลาดถึง 2,247 ล้านเหรียญสหรัฐ

 

MEGA HALAL Bangkok 2025 เปิดประตูไทยสู่ตลาดฮาลาลโลก 16-18 ก.ค.

 

อย่างไรก็ดี บรรยากาศของงานแถลงข่าวครั้งนี้ ทางคณะผู้จัดงานยังได้รับเกียรติอย่างสูงจาก รศ.ดร.อิสมาแอ อาลี ประธานฝ่ายกิจการฮาลาล คณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย มาร่วมกล่าว ปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ HALAL : " PURITY WAY OF LIFE " ว่า ฮาลาลไม่ใช่แค่เรื่องของอาหาร การกิน อย่างเดียว แต่รวมถึงวิถีชีวิตทุก ๆ ด้านของชาวมุสลิมที่ต้องรักษาตนเองให้อยู่ทางที่บริสุทธิ์ และทำทุกสิ่งอย่างถูกต้อง ตามหลักคำสอนของศาสนาอิสลาม 

คุณนิคม เลิศมัลลิกาพร

นอกจากนี้ ภายในงานยังได้นำเสนอภาพรวมของงาน MEGA HALAL Bangkok 2025 โดย คุณนิคม เลิศมัลลิกาพร ประธาน บริษัท เวิลด์เด็กซ์ จี อี ซี จำกัดในฐานะผู้จัดงาน และ การเปิดเวทีร่วมรับฟังเสวนา ในหัวข้อต่าง ๆ เช่น  ฮาลาลกับวิถีชีวิตระดับโลก (Thai Halal as a Global Lifestyle) และโอกาสของสินค้า บริการ ฮาลาลไทยในตลาดโลก, นวัตกรรมและโอกาสทางธุรกิจฮาลาลในอนาคต รวมถึงเรื่องศักยภาพของกรุงเทพฯ ในการเป็นศูนย์กลางฮาลาลแห่งเอเชีย จาก 6 ผู้เชี่ยวชาญ ด้วยกัน ได้แก่ คุณสุวัฒน์ กูบกระบี่ เลขานุการฝ่ายกิจการฮาลาลคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการการอิสลามแห่งประเทศไทย

ตามมาด้วย รศ.ดร.ปกรณ์ ปรียากร ที่ปรึกษาเลขาธิการคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย , คุณดรัสวันต์ ชูวงษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) , ดร.ชาญชัย สิริเกษมเลิศ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ, ดร.ศราวุฒิ อารีย์ ผู้อำนวยการศูนย์มุสลิมศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ ผู้แทนจาก ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย

ทั้งนี้ คุณนิคม เลิศมัลลิกาพร ประธาน บริษัท เวิลด์เด็กซ์ จี อี ซี จำกัด ในฐานะผู้จัดงาน MEGA HALAL Bangkok 2025 ร่วมกับ บริษัท ComAsia เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา จุดเริ่มต้นของตลาดฮาลาลมาจากความร่วมมือของชาวมุสลิมกับผู้ประกอบการไทยที่ไม่ใช่ชาวมุสลิม และองค์กรศาสนาอิสลาม โดยมีเป้าหมายที่จะช่วยกันพัฒนาสินค้า และอุตสาหกรรมฮาลาล จนนำไปสู่การสร้างรายได้กลับคืนมายังเศรษฐกิจภายในประเทศอย่างมากมาย

 

MEGA HALAL Bangkok 2025 เปิดประตูไทยสู่ตลาดฮาลาลโลก 16-18 ก.ค.

 

จนปัจจุบันตลาดฮาลาล กลายเป็นตลาดที่ใหญ่มาก ทั่วโลกมีมูลค่าถึง 78,645 ล้านบาท หรือ 2,247 ล้านเหรียญสหรัฐ และ มีชาวมุสลิมมากกว่า 2,000 ล้านคนทั่วโลก ซึ่งปัจจุบันเป็นกลุ่มคนอายุน้อยที่ถือว่าเป็นตลาดใหม่ที่สำคัญ ทั้งเรื่องของการมีศักยภาพในการทำธุรกิจ และความต้องการสินค้าที่มีหลากหลายมากขึ้น

ดังนั้น การจัดงาน MEGA HALAL Bangkok 2025 ระหว่างวันที่ 16-18 กรกฎาคม 2568 ณ. ศูนย์นิทรรศการ และการประชุมไบเทคบางนา ถือว่าเป็นงานที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรกของประเทศไทย ซึ่งจะรวบรวมผลิตภัณฑ์ฮาลาล ที่ถูกคัดสรรมาอย่างดีจากผู้ขาย, ผู้ผลิตผู้จัดจำหน่าย, ผู้ค้าปลีกโรงแรม ที่มีเครื่องหมายการค้า HALAN ในทุกภาคอุตสาหกรรม กว่า 15,000 ราย หรือ 400-500 บริษัท ใน 10 ประเทศ อาทิ ธุรกิจแฟชั่นเสื้อผ้า รองเท้า, Food & Beverage ทั้งอาหารแห้ง, ขนมขบเคี้ยว, ธุรกิจความงาม Wellness & Health เครื่องสำอาง, น้ำหอม, สปา, ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และธุรกิจ Tourism Package ท่องเที่ยวที่พัก,ความบันเทิง, ของที่ระลึก มาร่วมออกบูธจัดงานแสดงสินค้า ในครั้งนี้ เพื่อเป็นจุดเริ่มต้น หรือ การใช้ประเทศไทยเป็นประตูเปิดเชื่อมไปสู่การขยายธุรกิจและการลงทุน ของตลาดฮาลาลออกไปสู่ตลาดโลก มากขึ้น

"นับว่าการจัดงาน MEGA HALAL Bangkok 2025 ครั้งนี้ จะเป็นการจัดงานครั้งยิ่งใหญ่ที่จะขึ้นปีละ 1 ครั้ง โดยปีนี้ถือว่าเป็นปีแรกที่จัดขึ้นครั้งแรกในประเทศไทย ซึ่งสามารถการันตีได้ว่าจะมีผู้เข้ามาร่วมงาน รวมถึงผู้ซื้อต่างชาติอื่น ๆ เข้ามา Checkin ที่พักในโรงแรมไม่ต่ำกว่า 5,000 ห้องขึ้นไป เนื่องจากตลาด ฮาลาล หรือ ตลาดมุสลิม กำลังเป็นเทรนด์ที่ทั่วโลกกำลังให้ความสนใจอย่างมาก "คุณนิคม ฯ ประธาน บริษัท เวิลด์เด็กซ์  กล่าว 

 

MEGA HALAL Bangkok 2025 เปิดประตูไทยสู่ตลาดฮาลาลโลก 16-18 ก.ค.

 

สำหรับรายละเอียดอื่น ๆ ในส่วนของการเปิดเวทีร่วมรับฟังเสวนาตามหัวข้อต่าง ๆ เช่น  ฮาลาลกับวิถีชีวิตระดับโลก (Thai Halal as a Global Lifestyle) และโอกาสของสินค้า บริการ ฮาลาลไทยในตลาดโลก, นวัตกรรมและโอกาสทางธุรกิจฮาลาลในอนาคต รวมถึงเรื่องศักยภาพของกรุงเทพฯ ในการเป็นศูนย์กลางฮาลาลแห่งเอเชีย จาก 6 ผู้เชี่ยวชาญ มีดังนี้ 

คุณสุวัฒน์ กูบกระบี่ เลขานุการฝ่ายกิจการฮาลาลคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการการอิสลามแห่งประเทศไทย และ รศ.ดร.ปกรณ์ ปรียากร ที่ปรึกษาเลขาธิการคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย กล่าวถึง เรื่องฮาลาลกับวิถีชีวิตระดับโลก (Thai Halal as a Global Lifestyle) ว่า ประเทศไทยเป็นประเทศหนึ่งที่มีเอกลักษณ์ในเรื่องของอาหารการกิน จนขึ้นชื่อว่าเป็นครัวของโลก 

ขณะเดียวกัน ศาสนาอิสลามก็มีประชากรมากจนติดเป็นอันดับ 2 ของประชากรโลก ประมาณ 2,000 ล้านคน  จึงส่งผลแบรนด์สินค้าต่าง ๆ หันมาให้ความสำคัญ และสนใจเกี่ยวกับเรื่องของฮาลาล มากขึ้น เพราะเป็นผู้บริโภคกลุ่มใหญ่ ดังนั้นสินค้าฮาลาล จึงเป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการไทยควรให้ สนใจ และศึกษา เพราะเวลาที่พี่น้องชาวมุสลิมเห็นสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้าฮาลาลจะเกิดความไว้วางใจที่จะบริโภค มากกว่า 

ดังนั้นเครื่องหมายฮาลาล สำหรับผู้ประกอบการประเทศไทยเป็นเหมือนการเปิดประตูสู่โอกาสในการ ขยายตลาดไปยังชาวมุสลิมมากขึ้น เพราะจากข้อมูลล่าสุดของเว็บไซต์คณะกรรมการจากอิสลามแห่งประเทศไทย ระบุว่า ปัจจุบันมีผู้ประกอบการประเทศไทยที่ได้รับการรับรองเครื่องหมายฮาลาลทั้งสิ้น 7,085 ราย มีผลิตโรงงาน 4,467 แห่ง ที่ได้รับเครื่องหมายการค้า จำนวน 17,134 เครื่องหมาย คิดเป็นผลิตภัณฑ์ทั้งหมด 19,580 ผลิตภัณฑ์ 

ตัวเลขนี้แสดงให้เห็นว่าผู้ประกอบการไทยจำนวนไม่น้อยตื่นตัวในเรื่องของการผลิตสินค้าที่ต้องมีฮาลาล ส่งผลทำให้ประเทศไทยเป็นประเทศอันดับต้น ๆ ของการส่งออกสินค้าฮาลาลไปทั่วโลก

ขณะที่ คุณดรัสวันต์ ชูวงษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) พร้อมด้วยผู้บริหารหน่วยงานภาครัฐและเอกชน กล่าวถึง โอกาสของสินค้าและบริการฮาลาลไทยในตลาดโลก ว่า ที่ผ่านมา EXIM BANK ก็ พร้อมให้สนับสนุนการเสริมสร้างศักยภาพผู้ประกอบการ SMEs ไทยให้สามารถส่งออกสินค้าฮาลาลไปยังตลาดต่างประเทศได้ ผ่านการเติมความรู้ เติมโอกาส และเติมเงินทุน รวมถึงเครื่องมือบริหารความเสี่ยงทางการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการสนับสนุนส่งเสริมให้ผู้ประกอบการไทยสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนในการนำไปใช้ผลิตสินค้าฮาลาลเพื่อการแข่งขันในตลาดโลกให้ได้มากที่สุด 

เช่นเดียวกับ ทางธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ที่ผ่านมาก็ให้การสนับสนุนเรื่องแหล่งเงินทุน เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถมีเงินทุนที่เป็นเงินทุนฮาลาล คือ เงินที่มาอย่างถูกต้องในการนำไปใช้ผลิตสินค้าขาย เพราะสินค้าฮาลาล ไม่ใช่มีแค่เรื่องของอาหาร อย่างเดียว แต่มีเรื่องของเงินด้วย ดังนั้น การเข้าสู่ตลาดฮาลาลก็จำเป็นต้องใช้เงินที่เป็นฮาลาลด้วย ปัจจุบันทั่วโลกมีธนาคารอิสลาม ทั้งหมด 240 ประเทศ หรือ 240 แห่ง เป็นธนาคารที่ติดตลาดอยู่อันดับที่ 69 ถือว่าเป็นธนาคารที่ฐานะการเงินที่เข้มแข็งมาก เช่นกัน

ขณะที่ ดร.ชาญชัย สิริเกษมเลิศ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ กล่าวถึง เรื่องนวัตกรรมและโอกาสทางธุรกิจฮาลาลในอนาคต ว่า ตลาดฮาลาลเป็นตลาดที่มีมาตรฐานและคุณภาพสูง ผู้บริโภคกลุ่มมุสลิมมีกำลังการซื้อสูง ดังนั้นจำเป็นต้องพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตรงกับความต้องการตลาด ด้วยนำผลงานวิจัยมาช่วยขับเคลื่อนให้กลายเป็นสินค้านวัตกรรมใหม่ ๆ มีความหลากหลายมิติ ทั้งมิติของการใช้วัสดุ, มิติของการออกแบบ, มิติของการพัฒนาอาหารทางเลือก เช่น Plant Base โปรตีนจากพืช และ สินค้าที่ช่วยในเรื่องของการรักษาสิ่งแวดล้อม ลดโลกร้อน เป็นต้น  

สุดท้าย ทางด้านดร.ศราวุฒิ อารีย์ ผู้อำนวยการศูนย์มุสลิมศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวเสริมว่า ปัจจุบันประเทศไทยถือว่าเป็นศูนย์กลางฮาลาลแห่งเอเชีย ที่ไม่ได้มีแค่ 3 ชายแดนจังหวัดภาคใต้ ที่ป็นเส้นทางน้ำ หรือ พื้นที่ชื่อมต่อลงไปยังประเทศอินโดนีเซียและ มาเลเซีย เท่านั้น แต่อีกมุมมองหนึ่ง ภาคเหนือของประทศไทยถือว่าเส้นทางบกในการเชื่อมพื้นที่ไปสู่ประเทศ บังคลาเทศ, ปากีสถาน, อัฟกานิสถาน และ อินเดีย ประเทศเดียวที่มีประชากรมุสลิมมากกว่า 200 ล้านคน โดยประเทศเหล่านี้ถือว่าเป็นตลาดมุสลิมที่อยู่ใกล้กับประเทศไทย และเป็นตลาดที่ใหญ่มากสุดที่ไม่สามารถมองข้ามได้ 

"ด้วยเหตุนี้การจัดงาน MEGA HALALBangkok 2025 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 16-18 กรกฎาคม 2568 ณ. ศูนย์นิทรรศการ และการประชุมไบเทคบางนา จึงเป็นงานสำคัญระดับโลกเพราะเป็นการเน้นย้ำบทบาทของประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางฮาลาลระดับโลก และส่งเสริมโอกาสทางธุรกิจที่ยั่งยืนในอุตสาหกรรมฮาลาลของประเทศไทยเพื่อก้าวไปสู่ ตลาดโลกในอนาคตมากยิ่งขึ้น แล้วพบกันในงานครับ" ดร.ศราวุฒิ ผู้อำนวยการศูนย์มุสลิมศึกษา จุฬาลงกรณ์ ฯ กล่าวปิดท้าย