นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ชี้แจงข้อกล่าวหาที่นายภัทรพงษ์ ลีลาภัทร สส.เชียงใหม่ พรรคประชาชน กล่าวหารัฐบาลกรณีการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5 ว่า ตนเป็นผู้เสนอให้ปัญหาดังกล่าวและยกเป็นวาระของอาเซียน เพราะฝุ่นควันจากประเทศเพื่อนบ้าน ต้องประสานงานในทุกระดับ
พร้อมขอความร่วมมือช่วยเหลือให้ประเทศเพื่อนบ้านไม่เผาพื้นที่เกษตร โดยยืนยันว่า ในการสั่งการต่าง ๆ นั้นมีข้าราชการพร้อมทำหน้าที่ที่จะทำเพื่อประเทศชาติ ไม่ได้มีเฉพาะกลุ่มฝ่ายค้านเท่านั้นที่ต้องการแก้ปัญหาและทำเพื่อประเทศเพราะข้าราชการ ก็ต้องการทำเพื่อประเทศเช่นเดียวกัน
นายกรัฐมนตรี กล่าวยืนยันว่า ค่าฝุ่นลดลงจากมาตรการต่าง ๆ ที่รัฐบาลได้ดำเนินการซึ่งได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่าย โดยกระทรวงมหาดไทยได้สั่งการไปทั้ง 76 จังหวัดบังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาด ประกาศห้ามเผา ส่งผลให้การเผาลดลงในช่วง 3 เดือน ดำเนินคดีผู้ที่จงใจเผา จำนวน 133 คดี, กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ นั้น รัฐบาลได้อนุมัติงบกลางเพื่อเฝ้าระวังไฟป่า และมีชุดลาดตระเวนชุดปฏิบัติการพิเศษดับไฟป่าได้ระดมสรรพกำลังทุกฝ่ายมากกว่า 1.8 หมื่นคน ทำให้จุดความร้อนลดลง 30%
นอกจากนี้คณะรัฐมนตรียังได้อนุมัติงบประมาณ 200 ล้านบาทให้กรมฝนหลวง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำแล้ง บรรเทาปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก รวมถึงกระทรวงอุตสาหกรรมยังมีนโยบายงดรับซื้ออ้อยเผา ทำให้ปีนี้อ้อยเผาลดลงเหลือร้อยละ 15%
กระทรวงสาธารณสุขมีการแจ้งเตือนค่าฝุ่นในพื้นที่ต่าง ๆ พร้อมให้ความรู้ประชาชน จัดชุดดูแลสุขภาพ จัดทำห้องปลอดฝุ่นกว่า 1.7 หมื่นห้องรองรับประชาชนกว่า 2 ล้านคน กระทรวงคมนาคมเข้มงวดจับรถควันดำทั่วประเทศโดยได้ตรวจจับรถเกือบ 1.5 แสนคัน มากกว่าปีที่ผ่านมาถึง 7 เท่าและมีคำสั่งห้ามใช้รถที่ปล่อยควันดำ 2,400 คันหรือมากกว่าปีที่แล้ว 2 เท่า
นายกรัฐมนตรี กล่าวย้ำว่า รัฐบาลจะใช้ทุกสรรพกำลังเพื่อให้อากาศในประเทศไทยดีขึ้น คืนอากาศบริสุทธิ์ให้กับคนไทยโดยเร็ว และหากฝ่ายค้านมีข้อใดอยากจะแนะนำเพิ่มเติมจากสิ่งที่รัฐบาลได้ดำเนินการก็พร้อม และยินดีรับฟัง