เปิดธงฝ่ายค้าน"ซักฟอกนายกฯ"ถล่มดีลแลกประเทศ

การอภิปรายไม่ไว้วางใจ (ซักฟอก)  นายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร สามารถเดินหน้าต่อไปได้ หลังฝ่ายค้าน ที่นำโดยพรรคประชาชน (ปชน.) ยอมแก้ไขญัตติ โดยขีดฆ่าชื่อ “ทักษิณ ชินวัตร” และคำว่า “ผู้เป็นบิดา” ออก แล้วเปลี่ยนเป็น “บุคคลในครอบครัว” แทน  

นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านฯ  เชื่อว่าประธานสภาฯ จะบรรจุญัตติดังกล่าวเข้าสู่วาระโดยไม่มีปัญหาใด ๆ และสามารถเปิดอภิปรายได้ในวันที่ 24 มี.ค. ตามข้อเสนอของรัฐบาล

นายกฯขอรมต.เตรียมข้อมูลรับมือ  

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี วันที่ 18 มี.ค. นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการ ว่า การประชุม ครม.ในสัปดาห์หน้า จะเลื่อนออกไปเป็นวันพฤหัสบดีที่ 27 มี.ค. 2568 

นายกรัฐมนตรี ได้ขอให้รัฐมนตรีทุกท่านได้เตรียมความพร้อมในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ในวันจันทร์ที่ 24-วันพุธที่ 26 มี.ค. 2568 นี้ โดยให้เตรียมข้อมูลให้พร้อมในทุกมิติของส่วนราชการ ที่อาจจะมีการอภิปรายไปถึงทุกกระทรวง เพื่อชี้แจงต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรต่อไป

นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงดินเนอร์และการหารือระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล ในวันที่ 21 มี.ค. ซึ่งผู้เข้าร่วมก็เหมือนครั้งที่แล้วคือ หัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค 

“เชื่อว่า ในการรับประทานอาหารครั้งนี้ ไม่น่าจะมีการกำชับกัน หรือเช็คคะแนน เพราะการทำงานของนายกฯ เป็นที่ไว้วางใจของหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรค”

ส่วนปัญหาระหองระแหงแดง-น้ำเงิน ที่เป็นข่าว นายสรวงศ์ มั่นใจว่า แม้จะไม่ตรงใจเรา 100% แต่เสียงส่วนใหญ่ในรัฐบาล บางทีไม่ต้องเป็นพระเอกมากก็ได้ แต่ก็อยากให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน และนายกฯ ก็อยากให้มีการอภิปรายแน่นอน 

ปชน.ชูแคมเปญ“ดีลแลกประเทศ”

ด้านความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับประเด็นที่ฝ่ายค้านจะใช้อภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ นั้น พรรคประชาชน ได้เริ่มโหมโรงปล่อยประเด็นต่าง ๆ ออกมาทางโซเชียลมีเดียแล้ว 
เริ่มจาก เมื่อวันที่ 17 มี.ค. 2568 พรรคประชาชน เผยแพร่แคมเปญที่ระบุว่า ดีลแลกประเทศ เมื่อช้างสารชนกัน หญ้าแพรกก็แหลกลาญ เมื่อช้างสารดีลกัน ประชาชนก็แหลกลาญ 

18 เดือนภายใต้รัฐบาลที่ดีลกันบนผลประโยชน์ของชนชั้นนำ เหยียบย่ำเสียงของประชาชน คนไทยต้องสูญเสียไปเท่าไร เพื่อให้คนบางคนได้กลับบ้าน ประเทศเสียหายไปแค่ไหน เพื่อให้แพทองธาร ชินวัตร ได้เป็นนายกรัฐมนตรี

งัด 3 ปมถล่มรัฐบาล

1.ดิจิทัลวอลเล็ต กลายพันธุ์ จนจำรูปร่างเดิมไม่ได้ แจกจ่ายไม่ทั่วถึง เศรษฐกิจโตต่ำ รั้งท้ายอาเซียน คนไทยตกงานนับแสน ค่าครองชีพสูง ค่าแรงไม่ขึ้นตามสัญญา 

2.กองทัพ กลายเป็น “เขตทหาร ห้ามเข้า” รัฐบาลพลเรือนแตะต้องไม่ได้ ปฏิรูปกองทัพเป็นเพียงลมปาก  

3.แก้รัฐธรรมนูญ ไร้ความคืบหน้า นักโทษการเมืองติดคุกไม่ได้ประกัน ประเทศไทยถูกประณามเป็นที่อับอายในเวทีโลก 

“ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชน ร่วมติดตามการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งแรกของพรรคประชาชน เปิดทุกดีลลับ คิดบัญชีทุกความสูญเสีย เปิดทุกแผลที่ถูกหมกเม็ด ของ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี 24 มีนาคม นี้ เป็นต้นไป” พรรคประชาชน ระบุ

                      

“วิโรจน์”ฉะสัญญาปีศาจ

ต่อมาวันที่ 18 มี.ค. 2568 พรรคประชาชน เผยแพร่คลิปวีดีโอสั้นผ่านสื่อโซเชียลมีเดียของพรรค @PPLEThai โดยให้ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ แกนนำพรรค อธิบายถึงสาเหตุการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ว่า เมื่ออยากกลับบ้านมาเป็นใหญ่ โดยไม่อยากติดคุกเลยแม้แต่วันเดียว ถึงกับต้องยอมทำสัญญาปีศาจ ทำดีล แลกผลประโยชน์ประเทศ ผลประโยชน์ประชาชน เพื่อให้ตนเสวยอำนาจได้คืนทรัพย์สินเดิม เพิ่มเติมทรัพย์สินใหม่ มีกินมีใช้ทั้งครอบครัว และบริวาร  

นายวิโรจน์ ระบุว่า นายกฯที่ดี กับนายกฯ ที่เรามี แตกต่างกันราวฟ้ากับเหว ขาดวุฒิภาวะ ขาดความสามารถ ขาดเจตจำนงทางการเมือง ไม่สน 4 สน 8 ลอยตัวเหนือปัญหาไปวัน ๆ นโยบายที่เคยวาดฝันไว้ถึงดวงดาว วันนี้แม้แต่ยอดมะพร้าวก็ไปไม่ถึง เศรษฐกิจไม่กระเตื้อง นิติรัฐล่มสลาย องค์กรอิสระกลายเป็นเครื่องมือกำจัดศัตรูทางการเมือง ปฏิรูปกองทัพถอยหลังลงคลอง 

“พอกันทีกับดีลแลกประเทศ เอาความทุกข์ยาก เลือดเนื้อ ชีวิตของคนไทย แลกกับอำนาจของตนเอง และครอบครัว ได้เวลาล้มดีล 24 มี.ค.นี้” นายวิโรจน์ ระบุ

พท.โต้ฝ่ายแค้น-อย่าหลงตัวเอง

ขณะที่เพจเฟซบุ๊ก “พรรคเพื่อไทย” โพสต์ข้อความวันที่ 18 มี.ค. 2568 ระบุว่า... “ไปไหนอ่ะ กลับมานี่ ! อย่าอภิปรายเป็นฝ่ายแค้น หลงประเด็น หลงประเทศ หลงวาทกรรม หลงตัวเอง

24 มีนาคม เป็นต้นไป ฟังคำชี้แจงแสดงผลงานของ นายกฯ แพทองธารและรัฐบาล”

ไม่แปลกใจโหมดีลแลกประเทศ 

ขณะที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีพรรคประชาชน ยอมตัดชื่อ นายทักษิณ ออกจากญัตติการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เป็นคำว่า "บุคคลในครอบครัว"ว่า "ก็ได้หมด มันเป็นไปตามกระบวนการของเอกสารอยู่แล้ว ก็เป็นตามขั้นตอนที่ทำไป ทำขั้นตอนถูกก็โอเคแล้ว"

เมื่อถามว่าเรื่องของกรอบเวลาทางฝ่ายค้านมองว่านายกฯ ไฟเขียว 30 ชั่วโมงก็ได้ นายกฯ กล่าวว่า เป็นสิ่งที่ต้องแบ่งกัน แต่ทางวิป 3 ฝ่ายจะไปคุย และในการประชุม ครม. ก็ได้มีการพูดคุยถึงวาระสภาอยู่แล้ว และบอกว่าน่าจะมีการคุยกันในวันที่ 19 มี.ค. ตกลงในเรื่องของจำนวนชั่วโมง

เมื่อถามถึงกรณีที่ฝ่ายค้านโหมโรงถึงดีลแลกประเทศ ถือเป็นข้อกล่าวหาที่รุนแรงหรือไม่ นายกฯ ย้อนถามว่า “ดีลแลกประเทศหรอค่ะ ไม่ได้แปลกใจ ก็ต้องทำอย่างนั้นเพื่อให้ได้รับความสนใจ เป็นเรื่องธรรมดาเรื่องปกติ ฝ่ายรัฐบาลก็มีเช่นกัน พรรคต่างๆ ก็มีถือเป็นเรื่องปกติ ไม่ได้อะไร”

เมื่อถามว่าที่มีการปล่อยของออกมาถือว่าตรงกับที่นายกฯ ทำการบ้านไว้หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า เตรียมข้อมูลมากกว่าการบ้านที่ทำของทุกๆ กระทรวง ทุกนโยบายที่ปล่อยไปว่ามีคำถามอะไรหรือไม่ที่ฝ่ายค้านสนใจ ก็เตรียมข้อมูลคำตอบเท่านั้น ไม่ได้มีอะไรที่มากมายไปกว่านั้น ก็หวังว่า 2 วันจะจบ