กกต.เผยตัวเลขการใช้สิทธิเลือกตั้ง อบจ.2568 ทั่วประเทศ ชี้ประชาชนตื่นตัวใช้สิทธิกว่า 56% 'ลำพูน-นครนายก' นำโด่งทะลุ 70% ขณะที่ 4 เขตต้องเลือกตั้งใหม่เหตุคะแนนไม่เลือกใครสูงกว่าผู้สมัคร
สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จัดแถลงข่าวสรุปผลการใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาและนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) วันนี้ (3 กุมภาพันธ์ 2568) เวลา 09.30 น ณ สำนักงาน กกต. โดยเป็นการเปิดเผยตัวเลขอย่างไม่เป็นทางการ หลังจากการจัดการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดตรวจสอบความถูกต้องก่อนรายงานต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งต่อไป
สำหรับภาพรวมการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (นายก อบจ.) ใน 47 จังหวัดทั่วประเทศ
ในส่วนของการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) ซึ่งมีการจัดการเลือกตั้งในทุกจังหวัดรวม 76 จังหวัด
ข้อมูลที่น่าสนใจพบว่า จังหวัดที่มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ. สูงสุด 5 อันดับแรก ส่วนใหญ่เป็นจังหวัดในภูมิภาค
สะท้อนให้เห็นถึงความตื่นตัวของประชาชนในการมีส่วนร่วมทางการเมืองท้องถิ่น โดยเฉพาะในจังหวัดขนาดกลางและขนาดเล็ก
ขณะที่การเลือกตั้งสมาชิกสภา อบจ. จังหวัดที่มีประชาชนออกมาใช้สิทธิสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่
ประเด็นสำคัญที่ กกต. ให้ความสนใจเป็นพิเศษคือ การพบว่ามี 4 เขตเลือกตั้งที่จะต้องจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ โดยแบ่งเป็น 2 กรณี
สำหรับการดำเนินการในพื้นที่ที่ต้องจัดการเลือกตั้งใหม่ทั้ง 4 เขตเลือกตั้งนั้น กกต. ได้กำหนดให้ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดทั้ง 4 จังหวัด ต้องประกาศให้มีการเลือกตั้งใหม่ภายใน 7 วันนับแต่วันเลือกตั้ง
และดำเนินการรับสมัครใหม่ในเขตเลือกตั้งดังกล่าว โดยกำหนดวันเลือกตั้งใหม่ต้องไม่เกิน 45 วันนับแต่วันที่ประกาศให้มีการเลือกตั้งใหม่
นอกจากนี้ กกต. ยังได้เตรียมความพร้อมในการตรวจสอบการทุจริตการเลือกตั้งอย่างเข้มงวด โดยได้ระดมเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครในการสังเกตการณ์และรับเรื่องร้องเรียนตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความสุจริตและเที่ยงธรรม
ด้านการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน กกต. ได้จัดให้มีช่องทางการติดตามข้อมูลข่าวสารการเลือกตั้งและผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการหลากหลายช่องทาง ทั้งทางเว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง www.ect.go.th แอปพลิเคชัน Smart Vote ซึ่งสามารถดาวน์โหลดได้ทั้งระบบ iOS และ Android
นอกจากนี้ยังสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัด หรือสายด่วน 1444 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง