ผลาญงบแผ่นดิน 3 สส.ปชป. ยื่นแก้“ผู้บริหารท้องถิ่น”ชิงลาออกก่อนครบวาระ

27 ธ.ค. 2567 | 15:03 น.
อัปเดตล่าสุด :27 ธ.ค. 2567 | 15:11 น.

3 สส.ประชาธิปัตย์ “ชวน หลีกภัย-บัญญัติ บรรทัดฐาน- จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์”ทำหนังสือยื่น “ผู้ตรวจการแผ่นดิน-กกต.” หาทางป้องกัน“ผู้บริหารท้องถิ่น”ชิงลาออกก่อนครบวาระ ชี้เปลืองงบแผ่นดินโดยไม่จำเป็น

วันที่ 27 ธ.ค.2567 นายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เปิดเผยว่า ตนพร้อมด้วย นายบัญญัติ บรรทัดฐาน และ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ได้ทำหนังสือถึงประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน เรื่องการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) และ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (นายก อบจ.) 
ที่มีบางจังหวัด นายกฯ อบจ. ลาออกก่อนครบวาระ

ทำให้ต้องมีการจัดการเลือกตั้งใหม่ และจะต้องมีการจัดการเลือกตั้งเฉพาะตำแหน่งสมาชิก อบจ. ในบางจังหวัดที่อยู่ครบวาระอีกครั้ง ซึ่งจะทำให้องค์การบริการส่วนจังหวัดเดียวกันต้องจัดการเลือกตั้งถึง 2 ครั้งในระยะเวลาที่ไม่ห่างกัน ทำให้สูญเสียงบประมาณแผ่นดินซึ่งเป็นภาษีของประชาชน 

และยังส่งผลกระทบต่อความเชื่อถือศรัทธาของประชาชนต่อระบบการเมือง การปกครอง เพิ่มภาระการคลังของประเทศ และประชาชนโดยไม่จำเป็น จึงขอให้มีการพิจารณา และศึกษาแนวทางเพื่อปรับปรุงกฎหมาย และเสนอต่อหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องต่อไป 

นายชวน กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 17 ธ.ค.2567 ที่ผ่านมา ตนยังได้ทำหนังสือถึง นายอิทธพร บุญประครอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เรื่องการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล และนายกเทศมนตรี ที่จะครบวาระการดำรงตำแหน่ง 4 ปี ในวันที่ 28 มี.ค. 2568 โดยระบุว่า

ตามมาตรา 11 ของพ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือ ผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 กำหนดให้จัดการเลือกตั้งภายใน 45 วัน นับแต่วันที่สมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่นดำรงตำแหน่งครบวาระ 

แต่ขณะนี้ปรากฏข้อเท็จจริงว่า ในหลายเทศบาลนายกเทศมนตรีได้ลาออกจากตำแหน่ง และเชื่อว่า จะมีการทยอยลาออกจากตำแหน่งก่อนครบวาระ เหมือนกรณี นายก อบจ. ที่ผ่านมาที่ผู้บริหารลาออก ทำให้มีการจัดการเลือกตั้งในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเดียวกันซ้ำ2 รอบ ในระยะเวลาใกล้เคียงกัน ส่งผลให้ต้องสูญเสียงบประมาณแผ่นดิน ที่มาจากภาษีอากรของประชาชนโดยไม่จำเป็น และไม่เกิดประโยชน์แต่อย่างใด 

นายชวน กล่าวว่า โดยมาตรา 22 วรรคสอง ของพ.ร.ป.ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ. 2560 ที่บัญญัติให้กกต.มีหน้าที่และอำนาจในการควบคุมกำกับดูแลการเลือกตั้งให้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม หรือเป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมาย ให้ถือเป็นหน้าที่ และอำนาจของคณะกรรมการที่จะต้องดำเนินการสอดส่ง และสอบสวน หรือไต่สวน เพื่อป้องกันและขจัดการกระทำ หรือการงดเว้นการกระทำใดอันจะก่อให้เกิดความไม่สุจริต หรือเที่ยงธรรมในการเลือกตั้งได้ ไม่ว่าจะเป็นเวลาในระหว่างประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งหรือไม่ก็ตาม 

ดังนั้น เพื่อปกป้องประโยน์ของส่วนรวมและประชาชนจึงขอให้ ประธานกกต. ได้รับทราบและพิจารณาดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง อันจะทำให้เกิดความตระหนักทั้งผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และต่อประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง ในผลเสียหายที่จะเกิดจากการลาออกก่อนครบวาระการดำรงตำแหน่ง 

แม้การลาออกก่อนครบวาระจะเป็นสิทธิ์ที่สามารถกระทำได้ตามกฎหมายก็ตาม รวมทั้งให้สำนักงาน กกต.ได้พิจารณาศึกษาเพื่อหาแนวทางการปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวในอนาคต