กกต.ซักซ้อมขั้นตอนเลือก สว.ระดับประเทศ นับคะแนนยึด “ช้า-ชัด-ชัวร์”

บ่ายวันนี้ (24 มิ.ย.67) นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ร่วมสังเกตการณ์การอบรมคณะกรรมการประจำสถานที่เลือก เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และเจ้าหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยประจำสถานที่เลือกระดับประเทศ และผู้ช่วยเหลือการปฏิบัติงานของผู้อำนวยการเลือกระดับประเทศรวมถึงซักซ้อมขั้นตอนการปฏิบัติ สำหรับการเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.)ระดับประเทศ ที่สำนักงานกกต.จัดขึ้น เพื่อให้การเลือก สว.ระดับประเทศ ที่จะมีขึ้นในวันที่ 26 มิ.ย. ที่อิมแพคอารีน่า เมืองทองธานี จ.นนทบุรี เป็นไปด้วยความเรียบร้อย  

โดยการอบรมได้มีอธิบายขั้นตอนการลงคะแนน วิธีการนับคะแนน การวินิจฉัยบัตรดี-บัตรเสีย และการขานคะแนน  เพื่อให้ขั้นตอนการปฏิบัติเป็นไปในทิศทางเดียวกัน และให้เกิดความเรียบร้อย 

ทั้งนี้ประธาน กกต. เน้นย้ำว่า ขอให้ทุกคนปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ทุกคน ถือว่าปฏิบัติตามกฎหมายอย่างชัดเจน ขณะที่ระเบียบต่างๆ ที่ กกต.ออกไป ก็ถือว่าเป็นการเลือก สว.ครั้งแรกในชีวิตก็ว่าได้ ซึ่งเป็นการหาสิ่งที่ถูกต้องมากที่สุด และเป็นเหตุเป็นผลมากที่สุด จนนำมาสู่การปรับปรุงระเบียบหลายครั้ง และได้มีการทำหนังสือสั่งการให้กับเจ้าหน้าที่ทุกคนได้ปฏิบัติตาม อาจทำให้ทุกคนปวดหัว และกกต.เองก็ปวดหัวด้วยเช่นกัน 

โดยเฉพาะเมื่อคิดว่าทำละเอียดแล้ว แต่เมื่อไปทบทวนกลับยังไม่ดีพอ จึงเป็นกระบวนการทบทวนการทำงาน และผลสุดท้ายมาถึงการเลือกระดับประเทศ 

ทั้งนี้ ส่วนตัว และ กกต.ทุกคนมีความภาคภูมิใจในการทำงานของเจ้าหน้าที่ทุกคน งานนี้ถือว่าเป็นการผนึกกำลัง อย่างจริงจัง จริงใจ และสู้กันทุก ขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจตนเอง และทราบดีว่าทุกคนผ่านการคัดเลือกมาเป็นอย่างดีแล้ว จึงมีความมั่นใจในคุณภาพและประสิทธิภาพจากทุกคน 

แต่สิ่งที่มั่นใจไปมากกว่านั้น คือ การเตรียมความพร้อมนำประสบการณ์ และการเผชิญปัญหามาปรับแก้ไข โดยสิ่งที่ยาก คือ เมื่อเกิดปัญหาแล้วจะต้องรับมือกับปัญหาให้ได้อย่างไร ในฐานะเป็นผู้ปฏิบัติงานควบคุมหลักเกณฑ์

นายอิทธิพร กล่าวอีกว่า กกต.ตระหนักดีว่า การเลือก สว.ครั้งนี้คือ ต้องทำให้ผู้สมัครรับรู้และเข้าใจในกระบวนการเลือก เริ่มตั้งแต่การรายงานตัว จนเสร็จสิ้นกระบวนการ โดยทุกขั้นตอนเจ้าหน้าที่ต้องปฏิบัติด้วยใจบริการให้มากที่สุด และต้องใช้ความอดทนความเข้าใจ ความเป็นมืออาชีพ อธิบายให้ผู้สมัครเข้าใจ 

ส่วนตัวเชื่อว่าในความสามารถของทุกคนจะรับมือ และมีแผนในการเผชิญเหตุได้ พร้อมกำชับว่า ยังเหลือเวลาอีก 2 วัน คือ วันนี้และพรุ่งนี้ จึงอยากให้ทุกคนทำการซักซ้อมอย่างต่อเนื่อง

โดยอยากให้ซ้อมในทุกกลุ่มเพื่อความเข้าใจซึ่งกันและกัน เชื่อว่ายิ่งซ้อมมากเท่าไร ความเข้าใจในการทำงานก็จะทำให้เกิดความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น เพราะเป็นการฝึกฝนอาวุธที่มีของเรา จนกว่าจะเริ่มวันเลือกจริง ขณะเดียวกันขั้นตอนการนับคะแนนอยากให้ทำอย่างช้าๆ ชัดๆ และให้มีความชัดเจนทั้งหมดในกลุ่ม เพื่อให้ทุกคนได้เข้าใจ

ส่วนประเด็นที่เป็นปัญหาที่จะเกิดขึ้น โดยเฉพาะการขานคะแนน จึงจำเป็นจะต้องขานอย่างช้าๆ และชัดๆ  คนขีดต้องทวนให้ตรงกัน เพื่อเป็นการตรวจทานซึ่งกันและกัน เพื่อให้ผู้สมัครคนอื่นที่อยู่ในกลุ่มก็จะช่วยเป็นพยานให้กับเจ้าหน้าที่ได้ในอนาคตหากเกิดข้อร้องเรียน

นอกจากนี้อาจจะเกิดปัญหาผู้สมัครร้องเรียน เพราะเมื่อสถานที่ใกล้กันแล้วกลุ่มอื่นพูดหมายเลขทับกัน ดังนั้นจึงต้องระมัดระวังและต้องใช้ความช้า ชัดๆ และจิตบริการให้ความเข้าใจ และอธิบายให้มากที่สุด และการใช้เวลาในการพิจารณาก็อย่าทำให้เรื่องที่ขัดแย้งกันกระทบกับคนอื่น ก็อธิบายให้ผู้สมัครไปเขียนคำร้องเพื่อเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบ เพราะหากเกิดการโต้เถียงกันก็จะไม่ได้ข้อยุติ

“เน้นเรื่องการนับคะแนน ตอนนั้นเป็นช็อตสำคัญที่สุด ช้าๆ ชัดๆ มองตากันให้ดี คลี่กระดาษดูช้าๆ อ่านช้าๆ กลุ่มเรามีกี่คนให้เห็นแบบทั่วไปหมดแล้วพอพูดอะไรไป มองตาคนที่ขีด คนขีดตอบมาทวนมา ตรงกัน ชัดเจน คนที่ฟังก็จะเข้าใจและมีความชัดเจน ประเด็นที่อาจจะเป็นปัญหาที่ได้มาจากคำร้องคือผู้สมัครบอกว่า ก็นั่งฟังได้ยินการขานเบอร์ 5  ห้าครั้ง ทำไมบนกระดานมี 4 ถ้าเผื่อเราขานคะแนนช้าๆ ชัดๆ ตรวจทานซึ่งกันและกัน ผู้สมัครคนอื่นที่ไม่เห็นความผิดปกติก็ไม่ค้าน คนที่จะค้านก็มีคนเดียว ที่เหลือก็สามารถจะเป็นพยานให้กับเราได้ในอนาคต หากมีการร้องขั้นมา”