ประชุมใหญ่ก้าวไกล "ชัยธวัช" ลั่น “ไม่มีอะไรต้องหวั่นไหว”

06 เม.ย. 2567 | 12:06 น.
อัปเดตล่าสุด :06 เม.ย. 2567 | 12:54 น.

พรรคก้าวไกลประชุมใหญ่เช้าวันนี้ (6 เม.ย.) “ชัยธวัช” ยันพรรคก้าวไกลเท่านั้นเป็นคำตอบสุดท้าย “ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ไม่มีอะไรต้องกังวล มีแต่แสงสว่างอยู่ข้างหน้า” พร้อมเป็นฝ่ายค้านเชิงรุก เดินหน้า ปฏิบัติ 3 ภารกิจใหญ่ รอวันเป็นรัฐบาลที่ดีที่สุดในการเลือกตั้งครั้งหน้า

การประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2567 พรรคก้าวไกล ที่โรงแรมเมเปิล เขตบางนา กทม. เปิดฉากแล้วอย่างเป็นทางการ โดยนายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค รวมถึง สส.ของพรรค และสมาชิกพรรค เข้าร่วมประชุมกันอย่างพร้อมเพรียง

ในช่วงการกล่าวเปิดการประชุม นายชัยธวัชกล่าวว่า ครั้งนี้นับเป็นการประชุมใหญ่สามัญครั้งแรกหลังการเลือกตั้ง “นับตั้งแต่เป็นพรรคอนาคตใหม่ เปลี่ยนมาเป็นพรรคก้าวไกล เรามีความเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยยะสำคัญมากๆ สิ่งที่ถือว่า พวกเราได้ช่วยกันร่วมแรงร่วมใจกันทุกองคาพยพในการทำงานอย่างหนักตั้งแต่ระดับพื้นที่ไปจนถึงระดับชาติ และสามารถพิสูจน์ตนเองให้กับพี่น้องประชาชนได้ เป็นผลสำคัญอย่างยิ่งที่ทำให้เราประสบความสำเร็จที่สุดในการเลือกตั้งทั่วไปครั้งที่ผ่านมา ถือว่าเป็นความสำเร็จของพวกเราทุกคน” นายชัยธวัชกล่าว และว่า

ในฐานะหัวหน้าพรรค ต้องขอบคุณทุกคนอีกครั้ง ที่สำคัญหลังการเลือกตั้ง ทุกการสำรวจความนิยมของพรรคการเมืองเกี่ยวกับตำแหน่งผู้นำประเทศที่ผู้คนอยากเห็น ทางพรรคได้รับการยอมรับมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่มีแผ่ว จนวันนี้ นักวิเคราะห์การเมืองมีความเห็นว่า ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับพรรคก้าวไกล ทางพรรคก็จะยังคงครองความนิยมอันดับหนึ่งอีกอย่างแน่นอนในการเลือกตั้งครั้งหน้า

นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค (ศูนย์ภาพเนชั่น)

 

ถึงไม่ได้เป็นรัฐบาล ก็จะเป็นฝ่ายค้านเชิงรุก

นายชัยธวัชยังกล่าวต่อไปว่า ประเด็นสำคัญคือ ผลการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ประกอบกับผลสำรวจความเห็นประชาชน สะท้อนว่า การเมืองแบบอนาคตใหม่ การเมืองแบบก้าวไกลนี่แหละ คือสิ่งที่ประชาชนต้องการ การเมืองแบบก้าวไกลที่ก่อนหน้านี้สังคมไทยไม่เชื่อว่าจะประสบความสำเร็จเป็นจริงได้ สังคมไทยไม่เชื่อว่า การเมืองที่ไม่ใช่อำนาจ อิทธิพล ระบบอุปถัมภ์ เงินทองในการซื้อเสียง จะสามารถชนะในการเลือกตั้งอันดับหนึ่งได้ในประเทศนี้

แต่ผลการเลือกตั้งที่ผ่านมาได้ทำลายเพดานความคิดนี้ไปแล้ว วันนี้สังคมไทยเชื่อแล้วว่า การเมืองแบบก้าวไกล ที่ให้ความสำคัญกับการทำงานความคิด การนำเสนอนโยบาย การเมืองที่ทำงานแบบตรงไปตรงมา เน้นคุณภาพ การเมืองที่เกิดจากพรรคการเมืองที่ประชาชนช่วยกันสร้าง ประสบความสำเร็จได้จริงๆในการเมืองของไทย

“การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของการเมืองไทยได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว และเมื่อความคิด ความเชื่อ ความเป็นจริงได้เปลี่ยนแปลงแล้ว หมายความว่า วันนี้ประชาชนเห็นและเชื่อมั่น มีความหวังว่า เราสามารถร่วมกันเปลี่ยนแปลงประเทศอย่างที่เคยฝันไว้ในอดีตได้ ผ่านการเมืองระบบรัฐสภาที่มาจากการเลือกตั้ง นี่คือสิ่งสำคัญที่สุดของความสำเร็จที่ได้ทำร่วมกันในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา”

นายชัยธวัชกล่าวยอมรับว่า ในสถานการณ์ที่ปฏิเสธไม่ได้ว่า พรรคก้าวไกลกำลังเผชิญพายุใหญ่ในทางการเมือง ในสถานการณ์นี้ หลายคนอาจจะหวั่นไหว ประชาชนถามไถ่ทุกวันพร้อมมีความกังวลกับพรรคก้าวไกล แต่หากย้อนคิดในสิ่งที่ตนเองได้เคยพูดไป จะเห็นว่า การเปลี่ยนแปลงมันมาไกลมากเกินกว่าที่การเมืองแบบก้าวไกลจะถอยหลังหรือพ่ายแพ้แล้ว ดังนั้น จึงขอยืนยันว่า

“พวกเราไม่มีอะไรต้องหวั่นไหว เพราะคนที่หวั่นไหว คือคนที่อยากจะทำลายพรรคก้าวไกล คนที่หวั่นไหว ไม่ใช่เรา แต่คือคนที่อยากจะทำลายพรรคการเมืองที่ประชาชนต้องการ โดยส่วนตัวขอยืนยันว่า มาถึงวันนี้ ไม่มีใครสามารถทำลายความคิด ความเชื่อและความหวังของประชาชนได้อีกแล้ว ไม่มีใครสามารถทำลายและหยุดยั้งความเปลี่ยนแปลงของสังคมไทยได้อีก”

ประชุมใหญ่ก้าวไกล \"ชัยธวัช\" ลั่น “ไม่มีอะไรต้องหวั่นไหว”

"คนที่หวั่นไหว ไม่ใช่เรา แต่คือคนที่อยากจะทำลายพรรคการเมืองที่ประชาชนต้องการ"

หัวหน้าพรรคก้าวไกลกล่าวย้ำในตอนท้ายของการเปิดประชุมว่า ภารกิจของพรรคก้าวไกลหลังจากนี้ ไม่ใช่หวั่นไหว มีแต่เดินหน้าเต็มร้อย มั่นคง แน่วแน่ในเป้าหมายและอุดมการณ์ ทำพรรคก้าวไกลให้แข็งแรงมากขึ้น ตอบสนองความต้องการของประชาชนมากขึ้น ด้วยเป้าหมายภารกิจ 3 ประการคือ

1) ช่วยกันสานต่อปฏิรูปพรรคอย่างต่อเนื่อง เรียนรู้จากปัญหาและความผิดพลาดภายในพรรค คิดค้นแนวทางการทำงานใหม่ๆ เพื่อฝ่าฟันปัญหาและความท้าทาย เพื่อให้พรรคก้าวไกลเป็นสถาบันทางการเมืองของประชาชน ให้สมาชิกและประชาชนมีส่วนร่วม เป็นเจ้าของ ร่วมขับเคลื่อน เป็นพรรคของประชาชนอย่างแท้จริง

2) เดินหน้าเป็นฝ่ายค้านเชิงรุก ให้ประชาชนเห็น แม้จะเป็นฝ่ายค้านที่ต้องทำหน้าที่ตรวจสอบถ่วงดุลฝ่ายบริหาร แต่ฝ่ายค้านเชิงรุกเป้าหมายของเรา คือ เตรียมพร้อมเป็นพรรคการเมือง เป็นรัฐบาลที่ดีที่สุดสำหรับประชาชนในการเลือกตั้งครั้งหน้า ดังนั้น ระหว่างเป็นฝ่ายค้าน ต้องใช้ทุกกลไก ทุกพื้นที่ ผลักดันวาระที่ก้าวหน้าเพื่อแก้ปัญหาให้ประชาชน เตรียมแนวทางในการนำเสนอสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับประชาชน

3) ทุกองคาพยพของพรรค ต้องช่วยกันทำงานอย่างสุดความสามารถ พิสูจน์ด้วยการทำงานจริง ปฏิบัติจริง ให้ผู้มีอำนาจประจักษ์ว่า พรรคก้าวไกลไม่ใช่ภัยคุกคามของสังคมไทย เราไม่ใช่ภัยคุกคามของใคร แต่พรรคก้าวไกลจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุดของสังคมไทย พรรคก้าวไกลจะเป็นสะพานเชื่อมระหว่างสังคมไทยในอดีต เพื่อเดินหน้าไปสู่อนาคต เราจะเป็นคนที่เชื่อมอดีตที่มีข้อจำกัดที่ต้องการความเปลี่ยนแปลง เดินหน้าสู่อนาคตให้พวกเราเท่าเทียมกัน เท่าทันโลก พรรคก้าวไกลเท่านั้นเป็นคำตอบสุดท้าย 

นายชัยธวัชย้ำกับลูกพรรคก่อนการประชุมใหญ่สามัญประจำปีในวันนี้ว่า “ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ขอให้พวกเราไม่ต้องกังวล ไม่มีอะไรต้องกังวล มีแต่แสงสว่างอยู่ข้างหน้า”

เครดิตภาพ: ศูนย์ภาพเนชั่น