“นพดล” ชี้ถ้าไทยผลักดันปัญหาเมียนมาสำเร็จ จะกลับอยู่ในจอเรดาร์โลกทันที

17 มี.ค. 2567 | 12:15 น.
อัปเดตล่าสุด :17 มี.ค. 2567 | 12:27 น.

กมธ.ต่างประเทศ ชี้ถ้าไทยผลักดันปัญหาเมียนมาสำเร็จ จะกลับอยู่ในจอเรดาร์โลกทันที เสนอ 4 ข้อ ขอรัฐบาลมีแผนรองรับการทะลักหนีภัยสู้รัฐบาลเพิ่มช่วยเหลือมนุษยธรรม

วันนี้ 17 มีนาคม 2657 นายนพดล ปัทมะ  ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ประธานคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ(กมธ.) สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ในฐานะสส.พรรคเพื่อไทยนั้น ขอยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยให้ความสำคัญกับปัญหาประเทศเพื่อนบ้านโดยเฉพาะปัญหาเมียนมาร์เนื่องจากขณะนี้การสู้รบภายในเมียนมาร์ยังมีอย่างต่อเนื่องและการสู้รบกับชนกลุ่มน้อยฝั่งตรงข้ามแม่สอดก็ยังดำเนินอยู่ ในเรื่องนี้ กมธ.ต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎรได้ติดตามปัญหาของเมียนมาร์อย่างใกล้ชิดและสนับสนุนทุกฝ่ายที่จะเดินหน้าแก้ไขปัญหาให้สำเร็จโดยเร็ว อย่างไรก็ตาม กมธ.ต่างประเทศมีข้อเสนอดังนี้

1.เสนอรัฐบาลตั้งคณะกรรมการติดตามสถานการณ์ในเมียนมาร์เป็นการเฉพาะ เพื่อรวมหน่วยงานความมั่นคงและต่างประเทศมารวมกันเพื่อขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาเมียนมาร์อย่างมีเอกภาพและประสิทธิภาพ และ

2. ทำแผนมาตรการรองรับฉุกเฉินเพื่อรองรับในกรณีมีการสู้รบตามตะเข็บแนวชายแดนไทยมากขึ้นซึ่งอาจจะมีปัญหาการทะลักเข้ามาของผู้หนีภัยสงครามและที่อาจทะลักเข้ามาในไทยภายหลังจากที่มีการประกาศเกณฑ์ทหารในเมียนมา

3.สนับสนุนรัฐบาลในการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่เมียนมาร์ แต่ควรให้ครอบคลุมบุคคลจำนวนมากขึ้นไม่ใช่เพียง 10,000 คนเศษ 3 หมู่บ้านและควรกระจายการช่วยเหลือให้ครอบคลุมทุกฝ่ายรวมทั้งกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆและควรดึงเอาทรัพยากรและความช่วยเหลือจากอาเซียนเข้ามาร่วมด้วยเพื่อให้การช่วยเหลือเป็นไปอย่างกว้างขวางและเป็นรูปธรรม

4.เสนอให้ไทยเป็นหัวหอกในการแก้ไขปัญหาเมียนมาร์อย่างเป็นรูปธรรมและรวดเร็วมากขึ้นโดยการไม่เพียงเป็นแค่ผู้อำนวยความสะดวก แต่ควรเพิ่มบทบาทเป็นผู้ผลักดันสันติภาพในเมียนมาร์ โดยตั้งเมียนมาร์ทรอยก้าพลัสขึ้น ประกอบด้วยไทย ประธานอาเซียน จีนและอินเดีย เพื่อเป็นเวทีผลักดันการสร้างสันติภาพอย่างยั่งยืน นำไปสู่การเลือกตั้งที่ทุกฝ่ายมีส่วนร่วมในเมียนมา ซึ่งสอดคล้องกับฉันทามติ 5 ข้อของอาเซียน

นายนพดล ปัทมะ 

 

 

 

“เราไม่ขาดแคลนแนวคิด แต่ต้องเพิ่มความมุ่งมั่น จริงจัง ปัญหาเมียนมาร์นั้นเป็นปัญหาที่มีความซับซ้อน แต่ก็ไม่ยากเกินไปที่อาเซียน และไทยจะเป็นหัวหอกในการผลักดัน การสร้างสันติภาพให้สำเร็จเพราะถ้าทำได้ เกียรติภูมิของไทยจะเพิ่มขึ้นและกลับเข้ามาอยู่ในจอเรดาร์ของโลกอย่างชัดเจน".