"อุ๊งอิ๊ง"เลี่ยงตอบ ปมร้อน"ตั๋วเพื่อไทย" บอกนายกฯพูดแล้ว

จากกรณีที่เกิดกระแสข่าว นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง กล่าวในที่ประชุมพรรคเพื่อไทย ว่ามีสส.เพื่อไทยฝากตำแหน่งผู้กำกับ จนเกิดไวรัล #ตั๋วเพื่อไทย ติดเทรนX(ทวิตเตอร์) ต่อเนื่องติดต่อกันหลายวัน รวมทั้งมีนักการเมือง ออกมาตำหนินายกฯในเรื่องนี้ ล่าสุดมีความเคลื่อนไหวจากหัวหน้าพรรคเพื่อไทย

โดยวันนี้(23 พ.ย.2566) น.ส.แพทองธาร​ ชินวัตร​ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายเศรษฐา​ ทวี​สิน​ นายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​การคลัง​ เข้าอวยพรวันคล้ายวันเกิด คุณหญิงพจมาน​ ดามาพงศ์​ ครบ​ 66 ปี​ ว่า​ "นายกฯแวะไปแป๊บเดียวเพียงแค่ 5 นาที"
 

เมื่อถามว่าในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ตีความอย่างไรถึงกรณีนายเศรษฐาพูดกลางวงประชุม สส.พรรคเพื่อไทยถึงประเด็นการแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจในระดับผู้กำกับการ​ ว่า​ “อ๋อ​ ​นายกฯได้ออกมาพูดแล้วนี่​” ก่อนที่จะเดินขึ้นห้องประชุมที่ตึกบัญชาการในทันที

นายรังสิมันต์ โรม ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ แถลงผลการประชุม กมธ. ว่า ที่ประชุมได้มีมติในเรื่องเรื่องตั๋วตำรวจ ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญที่เพิ่งเกิดขึ้น

และเนื่องจากคณะของเราเคยไปเยือนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) และได้รับคำยืนยันจากที่ประชุม ตร. ว่าจะไม่มีเรื่องตั๋วต่างๆ เมื่อเกิดประเด็นออกมา โดยการชี้เบาะแสจากนายเศรษฐา ว่าอาจจะมีในเรื่องของตั๋วผู้กำกับ นายชุติพงศ์ พิภพภิญโญ สส.ระยอง พรรคก้าวไกล

ในฐานะ กมธ. จึงได้เสนอในที่ประชุมว่าเราควรมีการพิจารณาเรื่องนี้ จึงได้มีการแลกเปลี่ยนหารือกันในที่ประชุม และมีมติว่าในวันที่ 7 ธ.ค. นี้ เวลา 09.30 น. สมควรมีการพิจารณาเรื่องของตั๋วตำรวจ โดยเรียกนายกรัฐมนตรีให้มาชี้แจงในประเด็นดังกล่าว
 

“กมธ. มีเวลา 2 สัปดาห์ ในเรื่องการทำหนังสือและให้เวลานายกรัฐมนตรีในการเตรียมตัวมาตอบข้อซักถามของ กมธ. ต่อไป หวังว่าจะได้รับความร่วมมือ และเป็นโอกาสอันดีที่นายกรัฐมนตรี จะได้ใช้พื้นที่ กมธ. ในการอธิบายถึงข้อห่วงใย ข้อกังวล ของพวกเราว่า ตกลงแล้วนายกรัฐมนตรี หรือ สส. ที่สังกัดในพรรคเดียวกันกับนายกรัฐมนตรี เข้าไปเกี่ยวข้องกับตั๋วตำรวจหรือไม่ และคงจะได้ติดตามกันต่อไป” นายรังสิมันต์ กล่าว

นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า นอกจากนั้น ที่ประชุมยังมีมติให้ส่งหนังสือถึงรัฐบาล เพื่อขอให้เตรียมรับมือในเรื่องสถานการณ์ความรุนแรงในเมียนมา ที่อาจส่งผลให้เกิดคลื่นผู้อพยพจำนวนมาก ซึ่งคาดว่าจะมีประมาณ 3 แสนคน ที่อาจอพยพเข้ามาในประเทศไทย ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ที่รัฐบาลต้องเตรียมความพร้อมในการรับมืออย่างเต็มที่ นอกจากนั้น ทาง กมธ. จะเดินทางไปหารือในประเด็นความมั่นคงร่วมกับกองทัพบก ในวันที่ 15 ธ.ค. นี้ด้วย