วันที่ 24 ต.ค. 2566 นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการชะลอโครงการจัดซื้อเรือดำน้ำและเปลี่ยนมาเป็นเรือฟริเกต ว่า เรือฟริเกตของจีนอยู่ที่ราคาประมาณ 14,000 ล้านบาท ส่วนที่ตั้งราคา 17,000 ล้านบาทนั้น เป็นการตั้งจากปีงบประมาณ 67 เป็นการตั้งเผื่อไว้สำหรับเรือฟริเกตของยุโรป ซึ่งกองทัพยังไม่รู้ว่าจะเอาจากประเทศไหนจึงต้องตั้งเผื่อไว้
ส่วนเรือที่เราจะแลกเปลี่ยนกับเรือดำน้ำเราดูแล้วราคา 14,000 ล้านบาท ซึ่งเรากำลังต่อรองหากจีนให้เราซื้อเรือฟริเกตราคาจะเท่าไรกันแน่ ซึ่งอาจจะไม่ใช่ราคา 14,000 ล้านบาท อาจจะลดลง หรืออย่างไรก็แล้วแต่
เมื่อถามเรื่องการผิดสัญญาจะต้องมีการปรับอะไรหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า เรามี 2 สัญญา ถ้าเราทำกับเอกชนนั้นเรียกการซื้อขาย ถ้าเป็นจีทูจีนั่นคือข้อตกลง ซึ่งเขาเขียนไว้ท้ายว่า ถ้าฝ่ายใดไม่สามารถดำเนินการได้ตามข้อตกลง ก็ให้มีการเจรจากัน ซึ่งยังไม่มีการบังคับของสัญญา มันสามารถยืดหยุ่นได้ ฉะนั้นของเราคือเมื่อจีนไม่สามารถทำได้ตามข้อตกลงก็เจรจาก่อน
ถามว่า แนวโน้มเราจะได้ประโยชน์ที่เหนือขึ้นใช่หรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า ก็ทำให้เราไม่เสียประโยชน์ ก็เจรจาให้ดีที่สุดเพื่อไม่ให้ไทยเสียประโยชน์ ทั้งเรื่องการลดราคา การชดเชย และเงื่อนไขต่างๆ เราก็ต้องเจรจาให้เราได้ประโยชน์ที่สุด ซึ่งจากการดูข้อกฎหมาย จากเรือดำน้ำสามารถเปลี่ยนเป็นเรือฟริเกตได้ ด้วยการแก้ข้อตกลงเท่านั้นเพราะมันไม่ใช่สัญญา ซึ่งเป็นการทำระดับกองทัพ เพราะการเซ็นสัญญาจีทูจีในเรื่องเรือดำน้ำเป็นเรื่องที่กองทัพเรือไทยเซ็นกับทางจีน
เมื่อถามว่า การแก้ข้อตกลง กับการเริ่มต้นใหม่อันไหนจะง่าย หรือยากกว่ากัน นายสุทิน กล่าวว่า ในเรื่องเดียวกันการแก้ของเก่าเป็นของใหม่ เดิมที่ตกลงว่าจะเป็นเรือดำน้ำก็กลายเป็นเรือฟริเกต
เมื่อถามว่า พรรคก้าวไกล ระบุว่า อยากให้ขอเงินคืน หรือหาผลประโยชน์อันอื่นแทนได้หรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า ลองเจรจาบนพื้นฐานของเดิมกันไปก่อน และถ้าไม่บรรลุผลจริงๆ ค่อยว่ากันตอนนั้น แต่อย่างไรก็ตามเรื่องของข้อตกลงในแบบจีทูจีมีมิติความร่วมมือกันหลายด้านที่จะต้องคิดควบคู่ด้วย ถ้าคิดแบบขอคืน หรือยกเลิกสัญญาก็จะกระทบกระเทือนความร่วมมือด้านอื่นและความสัมพันธ์ด้วย ก็ต้องคิดให้คุ้ม อย่างที่เราไปเยือนจีนครั้งที่ผ่านมา เราขอความร่วมมือกับจีนได้เยอะ ได้อะไรมาเยอะแยะ แต่หากเราจะต้องไปหักกันเรื่องใดเรื่องหนึ่ง อาจจะทำให้เสียประโยชน์ด้านอื่น
เมื่อถามว่า การแก้ข้อตกลงจากเรือดำน้ำเป็นเรือฟริเกตจะต้องใช้ระยะเวลานานเท่าไร นายสุทิน กล่าวว่า วันเดียวกันนี้เวลา 14.00 น. จะมีการพูดคุยกับกองทัพเรือและกระทรวงกลาโหม ส่วนกับจีนยังไม่ได้มีการพูดคุย แต่จะเดินทางไปในเร็ววันนี้ ซึ่งมีข้อจำกัดเรื่องของเวลาที่ภายในเดือนพฤศจิกายนนี้ข้อตกลงจะหมดอายุ ก็ต้องรีบทำให้เร็วที่สุด โดยจะให้ไปเจรจาไม่เกินสัปดาห์หน้า ซึ่งต้องรอทางจีนว่าเขาพร้อมหรือไม่
เมื่อถามว่ากองทัพเรือพอใจหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า ข้อเสนอนี้ก็เป็นข้อเสนอที่กองทัพเรือเสนอมา เพราะเขารู้แล้วว่าเครื่องยนต์จากเยอรมนีมันปิดประตูสนิทแล้ว เราก็บอกว่าถ้าประตูนั้นปิดสนิทแล้วจะเอาอย่างไร ทางกองทัพเรือก็เสนอมาเป็น 2 ตัวเลือกคือเรือฟริเกต หรือ เรือตรวจการระยะไกล (OPV) แต่กองทัพเรือบอกว่าฟริเกตดีกว่า ซึ่งเขาจะพอใจหรือไม่พอใจก็เป็นคนให้ทางเลือกมา และเขาก็ถือว่าเขาต้องสนองนโยบายรัฐบาล
"เชื่อว่าน่าจะทันก่อนหมดอายุสัญญา แต่ถ้ามีรายละเอียดเยอะต้องไปทำอะไรเพิ่มอีกตนก็ว่าไม่แน่ แต่ว่าตรงนี้จะมีความชัดเจนก่อนหมดอายุข้อตกลง"นายสุทิน กล่าว