“ก้าวไกล”ยังครองแชมป์รับเงินบริจาคภาษีปี 65 มากสุด 39.9 ล้าน พท.แค่ 4.5 ล้าน

03 ต.ค. 2566 | 17:54 น.
อัปเดตล่าสุด :03 ต.ค. 2566 | 18:03 น.
587

กกต.เปิด 10 พรรคการเมืองที่ประชาชนบริจาคเงินภาษีปี 2565 อุดหนุน “ก้าวไกล”ครองแชมป์โดนใจรับทรัพย์ 39.9 ล้านบาท เพื่อไทย 4.5 ล้าน รทสช. 4.1.ล้าน ปชป.รับ 3 ล้าน

วันนี้ (3 ต.ค.66) เพจกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมืองของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ได้เผยแพร่ข้อมูล ผู้เสียภาษีเงินได้ แสดงเจตนาอุดหนุนเงินภาษีให้กับพรรคการเมือง ปีภาษี 2565 รวม 78 พรรคการเมือง เป็นเงิน 54,945,623.18  บาท  

โดยพบว่า 10 พรรคการเมืองที่ได้อุดหนุนภาษี พรรคก้าวไกล ยังคงมาเป็นอันดับ 1 มีผู้แสดงเจตนาอุดหนุน 83,733 ราย เป็นเงิน 39,991,672.23 บาท  จากที่ปีภาษี 2563 ได้รับการอุดหนุนเงินภาษี 12 ล้านบาท และปีภาษี 2564 ได้รับอุดหนุนเงินภาษี 27.5 ล้านบาท

                             “ก้าวไกล”ยังครองแชมป์รับเงินบริจาคภาษีปี 65 มากสุด 39.9 ล้าน พท.แค่ 4.5 ล้าน

ตามมาด้วย 2. พรรคเพื่อไทย(พท.) มีผู้แสดงเจตนาอุดหนุน 11,904 รายเป็นเงิน 4,588,711.64 บาท

3 .พรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.) มีผู้แสดงเจตนาอุดหนุน 10,768 รายเป็นเงิน 4,173,914.62บาท

4.พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) มีผู้แสดงเจตนาอุดหนุน 8,705 ราย เป็นเงิน 3,052,368.70 บาท

5.พรรคชาติพัฒนากล้า มีผู้แสดงเจตนาอุดหนุน 2,604 ราย เป็นเงิน 1,070,570.06 บาท 

6.พรรคเสรีรวมไทย มีผู้แสดงเจตนาอุดหนุน 3,204 ราย เป็นเงิน 1,306,120.82 บาท

7.พรรคไทยภักดี มีผู้แสดงเจตนาอุดหนุน 1,866 ราย เป็นเงิน 772,704.94บาท 

8.พรรคพลังประชารัฐ มีผู้แสดงเจตนาอุดหนุน 1,166 ราย เป็นเงิน 353,188.80 บาท

9.พรรคภูมิใจไทย มีผู้แสดงเจตนาอุดหนุน 921 ราย เป็นเงิน 344,521.60 บาท

10.พรรคสังคมประชาธิปไตยไทย มีผู้แสดงเจตนาอุดหนุน 523 ราย เป็นเงิน 237,199.57 บาท

                       “ก้าวไกล”ยังครองแชมป์รับเงินบริจาคภาษีปี 65 มากสุด 39.9 ล้าน พท.แค่ 4.5 ล้าน

ทั้งนี้ การสนับสนุนพรรคการเมืองของผู้เสียภาษีเงินได้ เป็นไปตามมาตรา 69 พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 ที่กำหนดว่า ผู้เสียภาษีเงินได้ซึ่งมิใช่นิติบุคคลมีสิทธิแสดงเจตนาในแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจำปี ให้รัฐนำเงินที่ตนได้เสียภาษีไว้ไปอุดหนุนพรรคการเมืองที่ตนระบุพรรคใดพรรคหนึ่งปีละ 500 บาทได้ ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดีกรมสรรพากรกำหนด