เปิดทรัพย์สิน ส.ส.ลูกคนดัง ลูกป๋าเหนาะอู้ฟู่ 250 ล้าน ลูกเนวิน ไม่เบา 161 ล้าน

22 ก.ย. 2566 | 15:30 น.
อัปเดตล่าสุด :22 ก.ย. 2566 | 16:02 น.
606

ป.ป.ช.เปิดทรัพย์สิน ส.ส.ใหม่ ลูกคนดัง "สุรเกียรติ"ลูกป๋าเหนาะสุดอู้ฟู่ 250 ล้าน ปล่อยกู้ 90 ล้าน "ไชยชนก"ลูกเนวิน ไม่เบา 161 ล้าน มีเบนลี่-ดูคาติ นาฬิการิชาร์ดมิลล์ 10.5 ล้าน "พชร" ลูกประเสริฐ 17.5 ล้าน "มดเล็ก" ลูกสุชาติ 9.2 ล้าน เพิ่งถอยป้ายแดง 5.4 ล้านบาท ปืนพกสั้น 13 กระบอก

วันนี้ (22 ก.ย. 66) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยบัญชีทรัพย์สินผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง กรณีเข้ารับตำแหน่ง ส.ส.รวม 91 ราย โดยที่น่าสนใจบางรายพึ่งเป็น ส.ส.สมัยแรก และเป็นทายาทนักการเมืองในปัจจุบันหลายราย อาทิ 

                           เปิดทรัพย์สิน ส.ส.ลูกคนดัง ลูกป๋าเหนาะอู้ฟู่ 250 ล้าน ลูกเนวิน ไม่เบา 161 ล้าน

นายไชยชนก ชิดชอบ ส.ส.บุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย บุตรชายคนโตของ นายเนวิน และ นางกรุณา ชิดชอบ โดยนายไชยชนก แจ้งสถานะโสด ตำแหน่งสุดท้ายก่อน ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. คือ เป็น ที่ปรึกษา บริษัท บุรีรัมย์ยูไนเต็ด จำกัด และ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บุรีรัมย์ยูไนเต็ดอีสปอร์ต จำกัด Event Director บริษัท บุรีรัมย์ยูไนเต็ดอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต จำกัด มีทรัพย์สินรวม 161,625,029 บาท

แบ่งเป็นเงินสด 1.5 ล้านบาท เงินฝาก 11 บัญชี 50,536,446 บาท เงินลงทุน ในบัญชีของบริษัทหลักทรัพย์ พินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) 12,987,940 บาท

ที่ดิน 7 แปลง ในเขตลาดกระบัง และ บุรีรัมย์ ระบุได้มาจากการให้ 24,108,000 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้างเป็นบ้านพัก 2 หลัง ที่เป็นกรรมสิทธิ์ร่วมในเขตลาดกระบัง 3,632,950 บาท

ยานพาหนะจำนวน 6 คัน 14.5 ล้านบาท ในจำนวนนี้เป็น BENTlEY รุ่น CONTINENTAL GTV8 4.0 มูลค่า 8 ล้านบาท รถจักรยานยนต์ DUCATI รุ่น NULTISTRADA 1200 ENDURO มูลค่า 300,000 บาท สิทธิและสัมปทาน 27,409, 692 บาท ส่วนใหญ่เป็นหุ้นในบริษัทบุรีรัมย์ยูไนเต็ด บริษัท บีอาร์พาวเวอร์จำกัด บริษัท บีอาร์กรีน จำกัด  บริษัท บี.พี.เอ็น. 2014 บริษัท เค 2011 สปอร์ต

โดยแจ้งหนังสือสัญญาการโอนหุ้นช่วง ม.ค.-มี.ค. 2566 ทรัพย์สินอื่น 26,950,000 บาท โดยเป็นนาฬิกาหรู Patek Philippe 2 เรือนมูลค่า 1.4 ล้าน และ 1.55 ล้าน นาฬิกา
Richard Mille 3 เรือน มูลค่า 8 ล้าน,10.5 ล้าน และ 5.5 ล้าน

มีหนี้สินเป็นเงินเบิกเกินบัญชี 19,934 บาท มีรายได้ต่อปีจากเงินเดือนประมาณ 1.2 ล้านบาท และ มีรายจ่ายเป็นค่าอุปโภคบริโภค 600,000 บาท

                               สุรเกียรติ เทียนทอง

นายสุรเกียรติ เทียนทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ลูกชาย นายเสนาะ เทียนทอง อดีตส.ส. นายสุรเกียรติ ก่อนเข้าดำรงตำแหน่ง ส.ส. เป็นกรรมการผู้จัดการ บริษัท จันทร์ธนัง จำกัด โดยแจ้งว่าตนเอง และ น.ส.วิลันดา รัตนะพร คู่สมรส มีทรัพย์สินรวม 250 ,932,775 บาท มีหนี้สินรวม 2,025,800 บาท เป็นทรัพย์สินของ นายสุรเกียรติ 133 ,357,993 บาท

แบ่งเป็นเงินสด 1.5 ล้านบาท เงินฝาก 6,125,872 บาท เงินลงทุน 181,915 บาท เงินให้กู้ยืม 90,753,060 บาท กับ บจก.ฮีโร่ เอ็กซ์พีเรียนซ์ เป็นส่วนใหญ่ ที่ดิน 1 แปลงในเขตบางเขน กรุงเทพฯ 16,750,000 บาท

โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้างเป็นบ้านเดี่ยว 1 หลัง ย่านดอนเมือง กรุงเทพฯ 16,080,000 บาท ยานพาหนะเป็นรถจักรยานยนต์ 1 คัน 750,000 บาท ทรัพย์สินอื่น 2,717,146 บาท มีหนี้สินเป็นเงินเบิกเกินบัญชี 187,593 บาท

ส่วน น.ส.วิลันดา มีทรัพย์สินรวม 104,266,681 บาท แบ่งเป็นเงินสด 300,000 บาท เงินฝาก6,192,458 บาท เงินให้กู้ยืม 5,831,222 บาท ที่ดิน 4 แปลง ในเขตบางซื่อกรุงเทพฯ ซึ่งได้มาจากการให้ รวม 50,220,000 บาท

โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ย่านจตุจักร กทม. ที่ถือครองกรรมสิทธิ์ร่วมกับพี่น้อง 30,480,000 บาท ทรัพย์สินอื่น 11,543,000 บาท มีหนี้สินเป็นเงินกู้จากสถาบันการเงินอื่น 1,838,206 บาท

ส่วนบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะมีทรัพย์สินรวม 13,308,100 บาท โดยเป็นที่ดิน 3 แปลง ใน อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ได้มาจากการให้ รวม13 ,078,100 และ ทรัพย์สินอื่น 230,000 บาท

ทั้งนี้รายการทรัพย์สินอื่นของบุคคลทั้งสอง ที่น่าสนใจ อาทินาฬิกาข้อมือ 5 เรือนมูลค่า 1,890,000 บาท 281 บาททองรูปพรรณ 10 บาทมูลค่า 312,290 บาทพระเครื่องบูชา 4 องค์ประเมินไม่ได้ พระพิฆเนศบูชา 2 องค์ประเมินไม่ได้กระเป๋า 10 ใบมูลค่า 2 ,098,000 บาทแหวนเพชร 3 วง มูลค่า 4,262,000 บาท ทองคำแท่ง 51 บาทมูลค่า 1,621,800 บาทนาฬิกาข้อมือ 5 เรือน 2,306,000 บาท สร้อยเพชร 1 เส้น 800,000 บาท  เป็นต้น

นายพชร จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทยลูกชาย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.ดีอีเอส โดยนายพชร แจ้งสถานะโสด ก่อนเป็น ส.ส. ดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาเทศบาลเมืองสีคิ้ว นครราชสีมา มีทรัพย์สินรวม 17,551,720 บาท เป็นเงินสด 1.5 ล้านบาท เงินฝาก 68,570 บาท

เงินลงทุน 881,940 บาท ในส่วนนี้พบว่า มีการลงทุนในเงินสกุลดิจิตอลกับ Bingnce มูลค่า 205089.99 Bitkub มูลค่า 18,873.52

ที่ดิน 3 แปลง ในอ.สีคิ้ว 1,320,000 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง เป็นคอนโดและบ้านพักอาศัยรวม 3 หลัง 6, 941,667 บาทสิทธิและสัมปทาน 6,839,542 บาท ทรัพย์สินอื่นไม่มี

มีหนี้สินเป็นเงินเบิกเกินบัญชี และเงินกู้จากธนาคารและสถาบันการเงินอื่น รวม 2,040,550 บาท แจ้งมีรายได้ต่อปี จากเงินเดือน 2,082,720 บาท และมีรายจ่ายต่อปีจากการผ่อนคอนโด ค่าอุปโภคบริโภค ค่าประกันชีวิต ค่าท่องเที่ยว เงินบริจาครวม 1,155,200 บาท

นายนรินทร์ คลังผา ส.ส.ลพบุรี พรรคภูมิใจไทย บุตรชายนายอำนวย คลังผา ส.ส.ลพบุรี พรรคพลังประชารัฐ โดยนายนรินทร์ และ นางวัฒนา คลังผา คู่สมรส แจ้งมีทรัพย์สินรวม 20,494,191 บาท

โดยเป็นทรัพย์สินของนายนรินทร์ 19,899,041 บาท เป็นเงินฝาก 1,041 บาทที่ดิน 13 แปลง ส่วนใหญ่ใน อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี 9.92 ล้านบาท

โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง เป็นบ้าน 4 หลัง 6.5 ล้านบาทยานพาหนะ 2,848,000 บาท ทรัพย์สินอื่น 630,000 บาท

เป็นปืนรวม 5 กระบอก วัว 7 ตัว และ สร้อยคอทองคำพร้อมพระเครื่องเลี่ยมทองล้อมเพชร 1 เส้น ที่ซื้อมาวันที่15 พ.ค. 66 หลังวันเลือกตั้ง ส.ส. มูลค่า 2 แสนบาท

และมีหนี้สินเป็นหนี้ที่มีหลักฐานเป็นหนังสือ 1,493,769 บาท

แจ้งมีรายได้ต่อปีจากค่าตอบแทนและทำการเกษตรรวม 1,662,720 บาทมีรายจ่ายต่อปี 1,200,664 บาท

ส่วนนางวัฒนา มีทรัพย์สินรวม 552,692 บาท เป็นเงินฝาก 52,692 บาท และยานพาหนะ 5 แสนบาท มีรายได้ต่อปีจากค่าตอบแทน 159, 555 บาท และมีรายจ่ายต่อปี 210,000 บาท สำหรับบุตรที่ยังไม่รู้บรรลุนิติภาวะมีทรัพย์สิน 42,457 บาท มีรายจ่ายต่อปี 150,000 บาท

                            ศักดิ์ชาย ตันเจริญ

นายศักดิ์ชาย ตันเจริญ ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคเพื่อไทย บุตรชาย นายสุชาติ ตันเจริญ อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ส.ส.พรรคเพื่อไทย นายศักดิ์ชาย ก่อนเข้าดำรงตำแหน่ง ส.ส. เป็นสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดฉะเชิงเทรา

แจ้งสถานะโสด มีทรัพย์สินรวม 9,240,315 บาท เป็นเงินสด 1715 บาท ที่ดินมรดก 1 แปลงในอ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา 2,320,000 บาท ยานพาหนะ ระบุ เป็นรถยนต์นั่งส่วนบุคคลป้ายแดง ได้มาเมื่อ มิ.ย.2566 มูลค่า 5,430,000 บาท

สิทธิและสัมปทาน 300,000 บาท ทรัพย์สินอื่นทั้งหมดเป็นปืนสั้นกึ่งอัตโนมัติขนาด 9 มม. 13 กระบอก มูลค่ารวม 1,179,600 บาท โดยในจำนวนนี้ 10 กระบอก พึ่งได้มาในช่วง ม.ค.-ก.ค. 66  มีหนี้สินที่มีหลักฐานเป็นหนังสือรวม 4,621,408 บาท