จ่อร้องป.ป.ช.สอบจริยธรรม"หมออ๋อง"ใช้งบหลวงหิ้ว ส.ส. ดูงานสิงคโปร์

18 ก.ย. 2566 | 13:52 น.
อัปเดตล่าสุด :18 ก.ย. 2566 | 14:06 น.

"ศรีสุวรรณ”จ่อร้องป.ป.ช.สอบ "หมออ๋อง" ใช้งบหลวง หิ้วส.ส.ก้าวไกล- เพื่อไทย ดูงานสิงคโปร์ เข้าข่ายผิดจริยธรรม ซัดพฤติกรรมย้อนแย้ง ก่อนรับตำแหน่งประกาศกร้าวไม่ใช้เงินแผ่นดินทัวร์นอก เล็งยื่นตรวจสอบนายกฯ ใช้งบ 30 ล้านประชุมต่างประเทศ

วันนี้(18 ก.ย. 66 ) นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติรักแผ่นดิน กล่าวถึงกรณี นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 ขอใช้งบประมาณจากสภาผู้แทนราษฎร จำนวน 1.3 ล้านบาท เพื่อเดินทางไปดูงานที่สิงคโปร์ โดยมี ส.ส.พรรคก้าวไกล และ พรรคเพื่อไทย ร่วมคณะเดินทางไปด้วย ว่า เรื่องนี้ตนจะไปร้องให้มีการตรวจสอบจริยธรรม ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) โดยเรื่องไม่จำเป็นต้องให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ตรวจสอบ เพราะจะอ้างว่า เป็นการขอไปตามระเบียบการขออนุญาตอย่างถูกต้องแล้ว 

แต่ประเด็นคือ การใช้เงินภาษีประชาชนจำนวนมากไปใช้ อาจจะไม่คุ้มค่า ซึ่งการไปดูงานแค่นี้ไม่มีผลดีมากเมื่อเทียบกับเงินนับล้านบาท และการนำ ส.ส.พรรคตัวเองเกือบทั้งหมด และมีส.ส.พรรคเพื่อไทย 1 คน ร่วมขบวนไปด้วย ทั้งที่ส.ส.เหล่านั้นไม่ได้มีอำนาจในเชิงบริหาร ไม่มีหน้าที่ใดๆ ในการบริหารของรัฐสภา แม้จะดูงานได้ แต่ไม่สามารถนำมาปรับปรุงการบริหารของรัฐสภาได้ 

ดังนั้น การนำคนเหล่านี้ติดสอยห้อยตามไป และใช้จ่ายเงินภาษีประชาชนน่าจะเป็นการใช้อำนาจโดยไม่ชอบ ดังนั้น การกระทำของ หมออ๋องก็น่าจะเข้าข่ายความผิด หรือฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งเป็นอำนาจหน้าที่ของป.ป.ช.ในการสอบสวน ไต่สวน เอาผิด 

ทั้งนี้ เบื้องต้นหลักฐานที่ตนมีเป็นหนังสือคำขออนุญาตเดินทางไปดูงานสิงคโปร์ จำนวน 5-6 แผ่น และรายละเอียดเรื่องค่าใช้จ่าย ซึ่งน่าจะครบองค์ประกอบทั้งหมด นอกเหนือจากที่มีการเปิดเผยข้อมูลผ่านโซเชียลมีเดีย 

เมื่อถามว่าจะไปร้องเรียนหน่วยงานอื่นให้ตรวจสอบด้วยหรือไม่ นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า หากไปร้องเรียนที่รัฐสภา ก็อาจจะมีการลูบหน้าปะจมูกกัน ป.ป.ช.ถือว่าเป็นไม้เด็ดสุดแล้ว 

“หมออ๋อง เคยเป็นกรรมการบริหารพรรคก้าวไกล ซึ่งพรรคก้าวไกลเคยรณรงค์เรื่องการไม่ใช้งบฯ แผ่นดินไปในการดูงานต่างประเทศ หรือ ทัวร์นอก แต่พอตัวเองเข้ามาสู่ตำแหน่งทางการบริหาร นิติบัญญัติ กลับทำในลักษณะตรงกันข้าม นโยบายการหาเสียงจึงเป็นเรื่องที่ย้อนแย้งในตัวเอง ซึ่งเข้าข่ายเรื่องการฝ่าฝืนจริยธรรม" นายศรีสุวรรณ กล่าว

เมื่อถามว่าที่ผ่านมา นายปดิพัทธ์ มักถูกตั้งข้อสังเกตเรื่องการใช้งบประมาณหลายๆ เรื่อง เช่น เรื่องเลี้ยงหมูกระทะ และการไปดูงานสิงคโปร์ ควรมีมาตรการอะไรออกมาเพื่อตอบสังคมหรือไม่ นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า ส่วนตัวเห็นว่า หมออ๋องเป็นเด็กรุ่นใหม่ การคร่ำหวอด หรือเข้าใจในกฎระเบียบของราชการ อาจจะไม่เชี่ยวชาญ ไม่ถนัดมากนัก อาจจะใช้ความรู้สึกส่วนตัว หรือ การเอาแต่ใจตัวเองเป็นที่ตั้งหรือไม่ นี่ก็เป็นประเด็น 

ดังนั้น การที่บุคคลที่อาจจะไม่ช่ำชองในกฎระเบียบมากนัก จริงๆ ต้องมีทีมที่ปรึกษา ที่มีความแม่นในระเบียบ ข้อกฎหมายจำนวนพอสมควร ไม่ใช่คิดอะไร ทำอะไรแล้วก็ทำไปเลยโดยไม่คำนึงถึงกฎระเบียบของราชการ เพราะเงินแผ่นดิน คือ เงินภาษีประชาชน ตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้อยู่แล้ว 

“การเอาไปใช้ไม่ถูกต้อง ไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ รังแต่จะก่อให้เกิดผลกระทบ หรือความผิดย้อนกลับมาสู่ตัวเองได้ ดังนั้น ภาครัฐเองควรมีมาตรการในเรื่องนี้ที่ชัดเจน โดยเฉพาะการกำหนดบทลงโทษของการใช้เงินที่ไม่คุ้มค่า สตง.ไม่ควรอยู่เฉยมองเหตุการณ์นี้ผ่านแล้วผ่านไป แต่ควรออกมาส่งสัญญาณว่า สิ่งใดทำได้ สิ่งใดทำไม่ได้ เพื่อให้สังคมได้รับรู้ หรือตระหนักร่วมกัน”

นายศรีสุวรรณ กล่าวด้วยว่า จะไปร้องเรียนให้ สตง. ตรวจสอบการใช้งบฯ 30 ล้านบาท ในการเดินทางไปปฏิบัติภารกิจร่วมประชุมองค์การสหประชาชาติ ที่สหรัฐอเมริกา ของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ด้วย