“ส.ส.สรรเพชญ”อยากให้ ปชป. เดินหน้าทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างเข้มแข็ง

24 ส.ค. 2566 | 12:11 น.
อัปเดตล่าสุด :24 ส.ค. 2566 | 12:17 น.

“ส.ส.สรรเพชญ”ชี้ไม่เห็นความจำที่ ปชป. ต้องไปเข้าร่วมรัฐบาล อยากให้พรรคเดินหน้าทำหน้าที่เป็น “ฝ่ายค้านอย่างเข้มแข็ง” เหมือนกับที่ประชาธิปัตย์เคยพิสูจน์ผลงานมาแล้วในอดีต และกอบกู้ศรัทธาของพรรคให้กลับคืนมา

นายสรรเพชญ บุญญามณี ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่าวันนี้ ประเทศไทยของเราได้มีนายกรัฐมนตรี คนที่ 30 เป็นที่เรียบร้อย ผมขอแสดงความยินดีกับคุณเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของประเทศไทย และขอเป็นกำลังใจให้รัฐบาลชุดใหม่ที่จะต้องทำงานอย่างหนัก เพื่อแก้ปัญหาที่รุมเร้าประเทศของเราอยู่ในขณะนี้ ทั้งปัญหาปากท้องของประชาชน และสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำที่ทั่วโลกกำลังเผชิญ ปัญหาสังคม และต่าง ๆ อีกมากมาย   

อย่างไรก็ตาม นอกจากการมีรัฐบาลที่มีเสถียรภาพแล้ว ประเทศของเราจำเป็นต้องมีฝ่ายค้านที่เข้มแข็ง ที่จะคอยตรวจสอบและถ่วงดุลอำนาจของรัฐบาล ไม่ให้รัฐบาลใช้อำนาจในทางที่ผิด เอื้อประโยชน์เพื่อพวกพ้อง อันนำมาซึ่งการทุจริตคอร์รัปชัน จนกลายเป็นต้นเหตุทางการเมืองที่ผ่านมา

และผมเชื่ออย่างยิ่งว่าหากฝ่ายค้านทำงานอย่างมีคุณภาพแล้วนั้น ก็จะสามารถสร้างประโยชน์ให้กับประเทศและประชาชนเช่นกัน ดังที่ผมเคยประกาศผ่านทางเฟซบุ๊คของผม เมื่อวันที่ 19 พ.ค. 2566 ภายหลังการเลือกตั้ง และ ณ วินาทีนี้ ความเชื่อของผมก็ยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง

ดังนั้น ผมในฐานะ ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ โดยส่วนตัวผมแล้ว ผมไม่เห็นถึงความจำเป็นใด ๆ ที่พรรคฯ จะต้องไปเข้าร่วมรัฐบาล เนื่องจากจำนวน ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลปัจจุบันนั้น มีมากกว่า 314 เสียงแล้ว ซึ่งถือเป็นรัฐบาลที่มีเสถียรภาพมาก ๆ และถือว่ามีจำนวน ส.ส. มากกว่าชุดรัฐบาลที่ผ่านมาเสียด้วยซ้ำ ดังนั้น จำนวนเสียง ส.ส.ฝ่ายค้าน แทบจะไม่สามารถทำให้รัฐบาลสะดุดล้มได้เลย เว้นแต่รัฐบาลจะสะดุดขาตัวเอง 

ด้วยเหตุผลที่กล่าวมานั้น ผมจึงอยากให้พรรคฯ เดินหน้าทำหน้าที่เป็น “ฝ่ายค้านอย่างเข้มแข็ง” เหมือนกับที่ประชาธิปัตย์เคยพิสูจน์ผลงานมาแล้วในอดีต เพื่อรักษาผลประโยชน์สูงสุดของประเทศชาติและประชาชน สำคัญที่สุดคือการกอบกู้ศรัทธาของพรรคให้กลับคืนมา 

แต่ถ้าหาก ส.ส.ส่วนใหญ่ของพรรคฯ คิดว่าอุดมการณ์ของผมนั้น ขัดแย้งกับเสียงส่วนใหญ่ ที่ได้อ้างกันอยู่ในขณะนี้ และไม่สามารถร่วมอุดมการณ์เดียวกันได้แล้ว ผมยินดีที่จะให้พรรคประชาธิปัตย์ ขับออกจากพรรค โดยไม่มีเงื่อนไขใด ๆ เพราะผมไม่สามารถหักหลังพี่น้องชาวสงขลาที่ได้ให้โอกาสผมมาได้

และผมยินดีที่จะตั้งใจทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้านอย่างมีคุณภาพ ตรวจสอบรัฐบาลอย่างเข้มข้น ในฐานะผู้แทนของราษฎร ตามอุดมการณ์ที่ผมยึดถือมาตลอดครับ 

สุดท้ายนี้ สิ่งที่ผมยึดถือและยึดมั่นเป็นสำคัญ ก็คือ คำขวัญของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ชาวประชาธิปัตย์ ยึดมั่นมาตลอด 77 ปี คือ สจฺจํ เว อมตา วาจา "คำสัตย์แล เป็นวาจาไม่ตาย" 

#ลูกสงขลา

#ยึดมั่นอุดมการณ์

#เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน