กกต.ตีตกคำร้อง ”เรืองไกร” ไม่รับตรวจสอบคุณสมบัติ ”พิธา” ลงสมัคร ส.ส.

17 มิ.ย. 2566 | 18:20 น.
อัปเดตล่าสุด :17 มิ.ย. 2566 | 18:24 น.

“เรืองไกร” เผยกกต.แจ้งผลการพิจารณาไม่รับคำร้องตรวจสอบคุณสมบัติ “พิธา” พ้นจากสมาชิก และหัวหน้าพรรคก้าวไกล หรือไม่ พร้อมเปิดหนังสือกรมพัฒนาธุรกิจฯ แจงวัตถุประสงค์การจดทะเบียน บมจ.ไอทีวี ย้ำธุรกิจสื่อ

วันนี้ (17 มิ.ย. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ได้เผยแพร่เอกสารหนังสือจากสำนักสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย 3 ซึ่งลงนามโดย พันตำรวจตรีณัฐวัฒน์ เสงี่ยมศักดิ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ปฏิบัติหน้าที่แทนเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้ออกหนังสือ ที่ ลต 0008/11746 ลงวันที่ 14 มิ.ย.2566

แจ้งผลการพิจารณาเรื่องของนายเรืองไกร ที่มีคำร้องฉบับลงวันที่ 10,11,13,16,24 และ 29 พ.ค.2566 ว่า ตามที่ได้ขอให้คณะกรรมการการเลือกตั้งตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 1 พรรคก้าวไกล ว่าเป็นบุคคลที่มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ตามมาตรา 98 (3) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ประกอบมาตรา 42 (3) แห่งพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 หรือไม่ 

และคำร้องฉบับลงวันที่ 11 และวันที่ 16 พฤษภาคม 2566 ขอให้ตรวจสอบว่านายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ จะเข้าข่ายพ้นจากสมาชิกพรรคก้าวไกลและหัวหน้าพรรคก้าวไกล ตามข้อบังคับพรรคก้าวไกล พ.ศ. 2563 และเป็นความผิดตามมาตรา 112 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. หรือไม่ ความละเอียดแจ้งแล้วนั้น

สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ขอเรียนว่า กรณีตามคำร้องฉบับลงวันที่ 11 และวันที่ 16 พฤษภาคม 2566 อยู่ระหว่างการดำเนินการของนายทะเบียนพรรคการเมืองตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560

ส่วนกรณีขอให้คณะกรรมการการเลือกตั้งตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ว่าเป็นบุคคลที่มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ตามมาตรา 98 (3) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560

ประกอบมาตรา 42 (3) แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2561 ตามคำร้องฉบับลงวันที่ 10, วันที่ 13, วันที่ 24 และวันที่ 29 พฤษภาคม 2566

คณะกรรมการการเลือกตั้งพิจารณาแล้ว มีมติสั่งไม่รับคำร้อง ตามข้อ 124 ประกอบ ข้อ 118 ของระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2566

พร้อมกันนี้ นายเรืองไกร ยังได้มีการนำหนังสือรับรองของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ (บมจ.647)  ซึ่งเป็นหนังสือ เลขที่ 100910091220044994 มาเปิดเผยรายละเอียดต่อสื่อฯ โดยมีเนื้อหาระบุว่า

มีการจดทะเบียน เป็นนิติบุคคลตามกฎหมายว่าด้วยบริษัทมหาชนจำกัด เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2541 ทะเบียนเลขที่ 0107541000042 ในชื่อบริษัทไอทีวี จำกัด(มหาชน)

โดยวัตถุประสงค์ของบริษัทมี 45 ข้อ  ซึ่งนายเรืองไกร ได้มีการทำเครื่องหมายดอกจันทร์ ข้อ 18,21,40,41 และ43  ซึ่งมีรายละเอียด ดังนี้

ข้อที่ 18 ระบุว่าประกอบกิจการโรงพิมพ์ รับพิมพ์หนังสือ พิมพ์หนังสือจำหน่าย และออกหนังสือพิมพ์

ข้อ 21 ประกอบกิจการจัดสร้าง และจัดจำหน่ายภาพยนตร์

ข้อ 40 ประกอบกิจการรับบริหารงานและดำเนินกิจการสถานีวิทยุโทรทัศน์ โทรทัศน์ระบบบอกรับ โทรทัศน์ โทรทัศน์ระบบบอกรับ เป็นสมาชิกและโทรภาพทางสาย(เคเบิ้ลทีวี)  ตามมติคณะรัฐมนตรี หรือคณะกรรมการควบคุมการกระจายเสียงของรัฐหรือหน่วยงานผู้มีอำนาจใดๆ ในกิจการวิทยุโทรทัศน์ โทรภาพตามสาย (เคเบิ้ลทีวี)

ข้อ 41 ประกอบกิจการรับจ้างโฆษณาทางโทรทัศน์ โรงภาพยนตร์ วิทยุ หนังสือพิมพ์ หรือสื่อใดๆ รับบริการถ่ายภาพเพื่อโฆษณาผลิตภัณฑ์ ตลอดจนรับจ้างออกแบบโฆษณาทุกชนิดทุกประเภท บริการประชาสัมพันธ์ทางธุรกิจ

ข้อ 43 ประกอบกิจการผลิตจัดจ้างจัดทำ จัดจำหน่ายและจัดการโดยประการอื่น ซึ่งรายการที่เกี่ยวกับข่าว สารคดี ละคร การแสดงและรายการบันเทิงทุกชนิดทางสถานีวิทยุโทรทัศน์ โรงภาพยนตร์ โรงละคร โรงมหรสพ หรือสถานบันเทิงใดๆ