น้องแรมโบ้อัด“ก่อแก้ว”คนหนีเวทีเพื่อไทยเหตุไม่อยากฟัง“พาพ่อกลับบ้าน”

28 ก.พ. 2566 | 14:57 น.
อัปเดตล่าสุด :28 ก.พ. 2566 | 15:08 น.

“น้องแรมโบ้”อัด“ก่อแก้ว”คนฟังเวที “เพื่อไทย” เดินหนีเหตุไม่อยากฟังนโยบาย พาพ่อกับอากลับบ้าน ก่อนวิจารณ์เวทีปราศรัยพรรคอื่นย้อนดูเพื่อไทยคนฟังหนีหรือไม่ ฉะไม่มีผลงานชูช่วงหาเสียงมีแต่นโยบายขายฝัน

วันนี้ (28 ก.พ.66) นายชนะศักดิ์ อัตถาวงศ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี นายก่อแก้ว พิกุลทอง อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย วิจารณ์เวทีปราศรัยพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ที่จังหวัดนครราชสีมา ไม่มีคนฟังหรือนโยบายใหม่ๆ ว่า หาก นายก่อแก้ว ได้ไปฟังการปราศรัยก็จะเห็นว่า มีประชาชนมาฟังการปราศรัยจำนวนมากกว่าเวทีของพรรคเพื่อไทย เยอะแยะในหลายๆ จังหวัด  

ส่วนเรื่องนโยบายนั้น นายกฯ ได้ย้ำตลอดว่า การเสนอนโยบายใดๆจะต้องดูว่าสามารถทำได้จริงหรือไม่ และต้องดูว่างบประมาณเพียงพอหรือไม่ และการที่ พล.อ.ประยุทธ์ นำเรื่องเดิมมาพูด ก็เพราะว่าเป็นผลงานที่นายกฯหรือรัฐบาลได้ทำไว้ให้กับประชาชน และอยากให้รู้ว่า นายกฯส ามารถพัฒนาประเทศให้ก้าวหน้าได้มากน้อยแค่ไหน 

“ผมมองว่าทำได้มากกว่ารัฐบาลนายทักษิณ และ นางสาวยิ่งลักษณ์ อีก เพราะสองรัฐบาลนี้ มีแต่เรื่องการทุจริตในหลายๆ โครงการ จนต้องเผ่นหนีกระเจิงออกนอกประเทศ” 

สำหรับนโยบายใหม่ๆ ก็ไม่ใช่ว่าพรรครวมไทยสร้างชาติจะไม่มี โดยจากนี้ไปช่วงการหาเสียง พรรคจะทยอยเปิดนโยบายใหม่ๆ ให้กับพี่น้องประชาชนได้รับทราบอย่างต่อเนื่อง ไม่ต้องมากังวล นโยบายจะไม่มีขี้โม้โอ้อวดเหมือนพรรคเพื่อไทย ทุกอย่างเคมเปญพรรครวมไทยสร้างชาติ ทำได้จริง ประชาชนได้ประโยชน์

“ผมก็แอบเป็นห่วงพรรคเพื่อไทย ว่า จะเอาผลงานที่ไหนไปบอกกล่าวกับประชาชน เพราะไม่มีผลงานใดๆ เลย มีเพียงนโยบายขายฝันเท่านั้น สุดท้ายหากได้เป็นรัฐบาลจริง ก็คงไม่ได้นำมาขับเคลื่อน เนื่องจากข้อเท็จจริงแล้วที่พรรคเพื่อไทย อยากเป็นรัฐบาล เพื่อจะได้ช่วยนายใหญ่-นายหญิงกลับประเทศเท่านั้น” 

ส่วนการหาเสียงตามเวทีต่างๆ ก่อนที่ นายก่อแก้ว จะดูถูกเวทีปราศรัยคนอื่นว่าไม่มีคนไปฟัง พูดโดยไม่ดูข้อเท็จจริง ไม่เบิกตาดูให้ชัดว่า ประชาชนมาอย่างเนืองแน่น นายก่อแก้ว แน่ใจแล้วหรือว่า เวทีของพรรคเพื่อไทย คนแน่นตลอดการปราศรัย ซึ่งตนพอทราบมาว่าเวลา นางสาวแพทองธาร ชินวัตร และ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ขึ้นเวทีปราศรัยคนฟังก็แห่ออกตลอด คนจะหนี ไม่อยากฟังนโยบาย “พาพ่อพาอากลับบ้าน” และไม่อยากฟังตลกสภาโจ้ก แสดงตลกบนเวทีปราศรัยมากกว่า