“กิตติรัตน์”ชี้เศรษฐกิจไทยต้องมีทั้งเอกภาพและสมดุล

09 ก.พ. 2566 | 19:23 น.
อัปเดตล่าสุด :09 ก.พ. 2566 | 19:29 น.

“กิตติรัตน์”ชี้เศรษฐกิจไทยต้องมีทั้งเอกภาพและสมดุล ทั้งส่งออก  การท่องเที่ยว สร้างรายได้ให้คนในประเทศและการลงทุนของเอกชน ส่วนความขัดแย้งของชาติมหาอำนาจชี้ไทยควรวางตัวเป็นกลาง

นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองประธาน คณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง พรรคเพื่อไทยและอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง  เปิดเผยว่า พรรคเพื่อไทย ที่ชูนโยบาย Three Track Policy ที่ซึ่งเป็นการต่อยอดนโยบายของพรรคไทยรักไทยในอดีตที่เคยทำเกี่ยวกับ Duo Track Policy  ไม่ได้ต้องการเน้นการเพิ่มรายได้ของภาคประชาชน แต่ต้องการผลักดันทั้งภาคการส่งออก ท่องเที่ยว และการลงทุน ซึ่งจะเป็นตัวผลักดันกำลังซื้อประชาชน พร้อมกับยืนยันว่านโยบายการเพิ่มค่าแรงเป็น 600 บาท ไม่ได้ทำทันทีจึงไม่อยากให้ผู้ประกอบการต้องกังวล

นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองประธาน คณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง พรรคเพื่อไทย

 

“ในสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์สิ่งที่รัฐบาลทำอาจจะไม่ได้ประกาศชัดแต่ก็ผสมผสานแนวคิดเดิม คือส่งออก การท่องเที่ยว กำลังซื้อในประเทศ และการลงทุนของภาคเอกชน รวมทถึงมีมาตรการภาษีต่างๆไม่ว่าจะเป็นการลดภาษี ลดต้นการผลิตให้กับภาคเอกชน เป็นต้น ส่วนแนวคิดด้านเศรษฐกิจตอนนี้มีความชัดเจนน้อย  ดังนั้นการร่วมผสมผสานแนวคิดอุปสงค์เข้าร่วมกัน ทั้งเกษตร อุตสาหกรรม ต้องมีความเป็นเอกภาพและสมดุล เศรษฐกิจและประเทศไทยจะเดินไปข้างหน้าได้  ส่วนความขัดแย้งของมหาอำนาจใหญ่ระหว่างจีนกับสหรัฐฯนั้นไทยเองควรวางตัวเป็นกลางและทำตัวให้ทั้งสองประเทศไว้ใจว่าไทยเองไม่ได้เข้าข้างใคร

ทั้งนี้สร้างความสมดุล 3แนวทางคือส่งออก การท่องเที่ยวและกำลังซื้อภายในประเทศ รวมถึงการลงทุนของภาคเอกชน ซึ่งทั้ง3แนวทางต้องสมดุลกัน  ส่วนปัญหาแรงงานต่างด้าวที่เข้ามาแย่งงานคนไทยนั้นต้องมองว่างานบางอย่างคนไทยไม่พร้อมที่จะทำแต่แรงงานต่างด้าวพร้อมเดราก็ตเองให้โอกาสเขา และอุตสาหกรรมบางอย่างเองก็มีความต้องการแรงงานต่างด้าว แต่ถ้างานที่เป็นเฉพาะของคนไทยแล้วมีแรงงานต่างด้าวเข้าไปทำก็ต้องมาดูเรื่องกฎหมายว่าจะมีวิธีการอย่างไร