ก้าวไกล แนะ 3 มิติ แก้ปัญหาเศรษฐกิจดิจิทัลไทย

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ร่วมแสดงวิสัยทัศน์ หัวข้อ “NEXT TREAND  DIGITAN ECONOMY  เปิดยุทธศาสตร์  SUSTAINABILITY INNOVATION” จัดโดยสื่อในเครือเนชั่น  

โดย นายพิธา ได้กล่าวถึงสถานการณ์เศรษฐกิจดิจิทัลไทยว่า ในปัจจุบัน ว่าเศรษฐกิจดิจิทัลของไทย มีมูลค่า1.2 ล้านล้านบาท เติบโตอยู่ที่ 15 % ต่อปี และเงินลงทุนภาคเอกชนอยู่ที่ 2 หมื่นล้านบาทในปี 2564 

ตอนนี้เศรษฐกิจไทยโตอยู่ 3 % ถือว่าใช้ได้ แต่เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศในอาเซี่ยน เราอยู่อันดับ 6  แต่แพ้ประเทศ เวียดนาม อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์  ข่าวดีคือเติบโตกว่าเศรษฐกิจทั่วไป แต่แพ้หลายประเทศในอาเซี่ยน

นายพิธา กล่าวว่า ปริมาณการลงทุนของภาคเอกชนในเศรษฐกิจดิจิทัล เราอยู่ที่ 2 หมื่นล้านบาทในปี 2564 พอจะสรุปได้ว่า เศรษฐกิจดิจิทัลไทยเติบโตช้าที่สุด มีการลงทุนน้อยที่สุด ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าระบบนิเวศน์ดิจิทัลไทยมีปัญหา

ขณะที่งบประมาณเศรษฐกิจดิจิทัลขอไทย คิดเป็น 0.03 % ของงบประมาณทั้งหมด  ส่วนงบประมาณ SMART City มีประมาณ 7 พันล้านบาท เงินจำนวนนี้ส่วนใหญ่อยู่ที่กรมโยธา กระทรวงมหาดไทย จึงไม่ตอบโจทย์ในแง่ของโครงสร้างพื้นฐาน
 

นายพิธา  เสนอทางออกด้วยหลักการ 3 มิติ คือ

1.พื้นฐาน ต้องมองไกลกว่าประเทศไทย ทั้งเรื่องกฎหมายให้ทันสมัย รวมถึงคุณภาพของอินเตอร์เน็ตและคลังบุคคลากร

2.ดึง สร้างเศรษฐกิจใหม่ และอุตสาหกรรมใหม่ สร้าง Incentive ให้กับเทคโนโลยีไทย

3.ดัน เพิ่มงบประมาณ ที่กระฉับกระเฉงกว่าระบบราชการปกติ

นายพิธา กล่าวในตอนท้ายว่า พรรคก้าวไกลเสนอยุทธศาสตร์เศรษฐกิจดิจิทัล โดยการแก้ปัญหาเริ่มต้นที่แต่ละท้องถิ่น  ไปสู่ระดับประเทศ  แต่เป้าหมายอยู่ที่ภูมิภาค”